ASTVผู้จัดการรายวัน- ประธานกก.ตรวจสอบโครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี กทม. เผยจะได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้า ด้านมหาดไทย เตรียมสอบย้อนหลัง ซีซีทีวี สมัย "พงศ์โพยม" อดีตปลัดมท.
นายสมภพ ระงับทุกข์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี กทม. กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบชุดนี้ ประกอบด้วย 3 คน คือ 1. ตน 2. ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจและการคลัง กทม. และ 3. นิติกรจากสำนักกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน โดยคณะกรรมการกำหนดให้มีการประชุมครั้งที่ 3 ในวันอังคารที่ 4 ต.ค.นี้ ซึ่งประเด็นที่จะตรวจสอบ จะเป็นที่มาของโครงการ และกระบวนการจัดซื้อการติดตั้งกล้องดัมมี่ เฮาท์ซิ่ง
"สำหรับผลการตรวจสอบ คาดว่าจะออกมาภายในสัปดาห์หน้า ก่อนจะส่งผลการตรวจสอบให้แก่ผู้บริหารกทม.ต่อไป ส่วนจะมีการยื่นผลการตรวจสอบให้แก่หน่วยงานภายนอกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บริหารกทม. ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกที่มองว่า การตรวจสอบจะทำให้ข้อเท็จจริงประจักษ์หรือไม่นั้น ขอให้รอดูผลการตรวจสอบจากภายนอกได้ เพราะขณะนี้ก็มีหน่วยงานภายนอกได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน" นายสมภพ กล่าว
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการกล้องซีซีทีวี ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างรายงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินว่า การติดตั้งกล้องดังกล่าวของกระทรวงมหาดไทย ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จำนวน 969 ล้านบาทไม่โปร่งใส ว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นคงไม่มีทางทำอย่างอื่นได้ เมื่อทราบแล้วก็อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการในระดับสูงต่อไป ว่า มีบุคคลใดที่เกี่ยวข้องตามที่ สตง.แจ้งมา
เมื่อถามว่าการตั้ง นายพระนาย สุวรรณรัฐ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบย้อนหลังไปถึงสมัย นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยย จะเป็นอย่างไร รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องทางราชการทุกคนต้องปฏิบัติตาม ไม่มีที่จะไปปกป้องใคร เพราะรู้จักกัน แต่อยู่ที่ว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่ ต้องว่าไปตามกระบวนการ ตามกฎหมาย การที่นายพงศ์โพยม เกษียณอายุราชการแล้ว คงไม่มีปัญหากับการสอบสวนย้อนหลัง ก็ว่าไปตามกระบวนการ แต่จะแจ้งความเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องอย่างไรนั้น ต้องคุยกับฝ่ายข้าราชการประจำก่อนว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน
นายสมภพ ระงับทุกข์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี กทม. กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบชุดนี้ ประกอบด้วย 3 คน คือ 1. ตน 2. ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจและการคลัง กทม. และ 3. นิติกรจากสำนักกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน โดยคณะกรรมการกำหนดให้มีการประชุมครั้งที่ 3 ในวันอังคารที่ 4 ต.ค.นี้ ซึ่งประเด็นที่จะตรวจสอบ จะเป็นที่มาของโครงการ และกระบวนการจัดซื้อการติดตั้งกล้องดัมมี่ เฮาท์ซิ่ง
"สำหรับผลการตรวจสอบ คาดว่าจะออกมาภายในสัปดาห์หน้า ก่อนจะส่งผลการตรวจสอบให้แก่ผู้บริหารกทม.ต่อไป ส่วนจะมีการยื่นผลการตรวจสอบให้แก่หน่วยงานภายนอกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บริหารกทม. ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกที่มองว่า การตรวจสอบจะทำให้ข้อเท็จจริงประจักษ์หรือไม่นั้น ขอให้รอดูผลการตรวจสอบจากภายนอกได้ เพราะขณะนี้ก็มีหน่วยงานภายนอกได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน" นายสมภพ กล่าว
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการกล้องซีซีทีวี ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างรายงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินว่า การติดตั้งกล้องดังกล่าวของกระทรวงมหาดไทย ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จำนวน 969 ล้านบาทไม่โปร่งใส ว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นคงไม่มีทางทำอย่างอื่นได้ เมื่อทราบแล้วก็อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการในระดับสูงต่อไป ว่า มีบุคคลใดที่เกี่ยวข้องตามที่ สตง.แจ้งมา
เมื่อถามว่าการตั้ง นายพระนาย สุวรรณรัฐ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบย้อนหลังไปถึงสมัย นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยย จะเป็นอย่างไร รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องทางราชการทุกคนต้องปฏิบัติตาม ไม่มีที่จะไปปกป้องใคร เพราะรู้จักกัน แต่อยู่ที่ว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่ ต้องว่าไปตามกระบวนการ ตามกฎหมาย การที่นายพงศ์โพยม เกษียณอายุราชการแล้ว คงไม่มีปัญหากับการสอบสวนย้อนหลัง ก็ว่าไปตามกระบวนการ แต่จะแจ้งความเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องอย่างไรนั้น ต้องคุยกับฝ่ายข้าราชการประจำก่อนว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน