“รองผู้ว่าฯ กทม.” แจงวุฒิฯ ยันติดตั้งซีซีทีวีโปร่งใส ส่วนที่ใช้กล้องดัมมี่ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ หวังป้องปราม ระบุไม่ใช่เรื่่องใหม่ ทั่วโลกเข้าก็ทำกัน ภาคใต้ก็มี เชื่อเป็นเรื่องการเมืองเพื่อโหมกระแสให้ใหญ่ หวังผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
ที่รัฐสภา วันนี้ (27 ก.ย.) ได้มีการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาและติดตาม ระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารเพื่อความปลอดภัยของบ้านเมือง ในคณะ กมธ.การวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภา โดยมีวาระพิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) เปล่า ในพื้นที่ กทม. โดย กมธ.ได้เชิญนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ กทม.มาชี้แจงและให้ข้อมูล
นายธีระชนกล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมยืนยันว่า การจัดซื้อกล้องซีซีทีวีของ กทม.มีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ส่วนการที่ปรากฏเป็นข่าวปัจจุบันนั้น ตนเข้าใจว่ามีความพยายามโยงเป็นประเด็นการเมือง เพราะกำลังใกล้ถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเด็นการเมืองนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ได้กำชับให้ฝ่ายข้าราชการประจำ และ กทม.งดการตอบโต้ เพียงแต่ให้ชี้แจงในข้อเท็จจริงเท่านั้น ทั้งนี้ ยอมรับว่า กทม.ได้ติดตั้งกล้องดัมมี่จริง แต่ขณะนี้เหลือเพียง 500 ตัว ส่วนสาเหตุที่ กทม.ต้องมีกล้องดัมมี่เพราะก่อนหน้านี้มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณการจัดซื้อ จึงต้องจัดซื้อกล้องดัมมี่ในราคาตัวละ 1,000 บาทมาติดตั้งเพื่อป้องปราม อีกทั้งในการชุมนุมทางการเมืองช่วงที่ผ่านมามีการทำลายกล้องซีซีทีวีไปเป็นจำนวนมากมูลค่าความเสียหายกว่า 33 ล้านบาท
นายธีระชนกล่าวต่อว่า ในส่วนของโครงการที่มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวี 10,000 ตัวนั้น ยืนยันว่าไม่มีการจัดซื้อกล้องหลอก หรือกล้องดัมมี่ แต่ที่ยังคงค้างอยู่ในเป็นสต๊อกของเก่า ในความเป็นจริงแล้วตามหลักสากล หน่วยงานไม่ควรเปิดเผยเรื่องกล้องดัมมี่ เพราะจะเกิดความเสียหาย แต่เมื่อเรื่องถูกยกมาเป็นประเด็น ก็จำเป็นที่จะต้องเปิดเผย และขอยืนยันว่าการติดตั้งกล้องดัมมี่ใน กทม.ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในหลายประเทศก็ได้ติดตั้ง รวมถึงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พบจากรายงานของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎรว่ามีการติดตั้งกล้องดัมมี่มากถึง 7,000 ตัว และเป็นกล้องจริงเพียง 327 ตัว
สำหรับแนวทางการชี้แจงข้อเท็จจริงนั้น นายธีระชนเปิดเผยว่า หลังที่ปรากฏเป็นประเด็นในเวปไซต์พันทิปดอทคอม ทาง กทม.ได้เชิญกลุ่มที่โพสต์ข้อความมารับฟังข้อเท็จจริง อีกทั้ง กทม.ได้ติดตามบุคคลที่เป็นผู้ถ่ายรูปกล้องซีซีทีวีดัมมี่มาด้วย โดยการติดตามจากกล้องซีซีทีวีที่ใช้งานได้จริงในพื้นที่ใกล้เคียง ดังนั้นจึงเป็นการพิสูจน์ได้ว่าในพื้นที่ที่ติดตั้งกล้องดัมมี่ยังมีกล้องที่สามารถทำงานได้จริง และเพื่อความโปร่งใส ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ส่งเรื่องให้ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ประธานคณะกรรมการสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบริหารราชการกรุงเทพฯ ได้ตรวจสอบ และพร้อมให้หน่วยงานภายนอกกทม. อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าตรวจสอบสัญญา สำหรับประเด็นการตั้งข้อสังเกตจากบุคคลภายนอกซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายกับองค์กรของ กทม. เป็นเรื่องที่ข้าราชการประจำมีสิทธิที่จะปกป้องศักดิ์ศรีขององค์กรด้วยการชี้แจง หรือหากกลายเป็นประเด็นโจมตีเพื่อหวังผลการเมือง เป็นสิทธิ กทม.ที่จะดำเนินการใดๆ เพื่อรักษาชื่อเสียงขององค์กรด้วย
ทั้งนี้ นายสุรศักดิ์ อำนวยวิทย์ ที่ปรึกษากรรมาธิการฯ ได้สอบถามถึงความสำคัญของการติดตั้งกล้องดัมมี่ ที่ยังไม่มีกล้องจริงมาทดแทน ซึ่งนายธีระชนตอบคำถามว่า ในการติดตั้งกล้องจริงแทนกล้องดัมมี่นั้น ผู้บริหาร กทม.ได้มอบหมายให้ข้าราชการประจำ อาทิ ปลัด กทม. และผู้อำนวยการสำนักงานการจราจรและขนส่ง (สจส.) เป็นผู้ไปพิจารณาบนเงื่อนไขสัญญา และกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้น ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าในสมัยผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบันไม่ได้มีการติดตั้งกล้องดัมมี่อีก และในโครงการระยะต่อไปที่จะติดตั้งกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ กทม. ครบ 20,000 ตัวนั้นกล้องจะเป็นกล้องจริงทั้งหมด