ASTVผู้จัดการรายวัน-DSI เร่งสอบทุจริตกล้อง CCTV รอสัญญาซื้อขายจาก กทม. ด้าน"สุขุมพันธ์" ยินดีให้ตรวจสอบ แต่ควรใช้เวลาไปช่วยผู้เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมจะดีกว่า ขณะที่พท. ยันไม่เกี่ยวกับการหวังผลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่พรรคเพื่อไทย(พท.) ยื่นเรื่องให้ดีเอสไอ ตรวจสอบการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือ ซีซีทีวี ของกรุงเทพฯ (กทม.) จำนวน 10,000 ตัว อาจมีการทุจริตหรือไม่ ว่า หลังรับเรื่องดังกล่าวแล้ว ดีเอสไอ ได้ดำเนินการตรวจสอบในเบื้องต้นทันที โดยประสานไปยังกทม. เพื่อขอเอกสารในการจัดซื้อกล้องวงจรปิด และเอกสารที่เกี่ยวข้อง แต่กทม.ขอเวลารวบรวมเอกสาร เป็นเวลา 3 วัน ก่อนจัดส่งให้ดีเอสไอทำการตรวจสอบ
ทั้งนี้ การตรวจสอบเรื่องนี้ ต้องดูก่อนว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำผิด ซึ่งผู้กระทำผิดเป็นภาคเอกชน ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน แต่หากมีข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องส่งเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนต่อไป
กรณีการตรวจสอบเรื่องกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร ที่ ป.ป.ช.มีมติรับไว้แล้วนั้น จะเป็นการทำงานซ้ำซ้อนกันหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า คนละส่วนกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ตรวจสอบ
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เบื้องต้นการใช้กล้องดัมมี่ (กล้องเปล่า) ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่การจัดซื้อจัดจ้างว่ามีเจตนาทุจริตจริงหรือไม่ และมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งนอกจากการตรวจสอบในส่วนของกทม.แล้ว ดีเอสไอ จะประสานขอข้อมูลจากบริษัทที่เข้าร่วมประมูล และประชาชนที่เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้
ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกทม. เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ถือว่าเป็นคดีพิเศษ และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเท่านั้น
นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ดีเอสไอ ได้ส่งหนังสือถึงกทม.เพื่อขอเอกสารการจัดซื้อกล้องวงจรปิดนั้น หลังจากนี้ต้องให้เวลากับ กทม. เพื่อรวบรวมเอกสาร คาดว่าจะใช้เวลาสักระยะ
**"สุขุมพันธ์"ให้ไปช่วยน้ำท่วมดีกว่า
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวระหว่างปฏิบัติราชการที่เกาะฮ่องกง ถึงเรื่องนี้ว่า กทม. มีความยินดี และพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ ที่ผ่านมาได้ชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดซื้ออย่างชัดเจนแล้ว และเมื่อมีผู้ผลักดันเรื่องดังกล่าวจนเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ขององค์กรที่รับผิดชอบในการทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏ และอยากขอให้นักการเมืองที่ติดตามกรณีกล้องวงจรปิดของ กทม. อย่างใกล้ชิด ให้ใช้เวลาในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และทำประโยชน์แก่ประชาชนดีกว่า
" ผมจะไม่ใช้เวลาในการตอบโต้เรื่องดังกล่าว ยืนยันว่า หากมีการตรวจสอบแล้วมีบุคคลของกทม. กระทำผิดก็พร้อมดำเนินการลงโทษ หรือหากตรวจสอบแล้วผมเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็พร้อมรับผิดชอบ "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการจัดซื้อกล้องซีซีทีวี ที่ทางกทม. จะตั้งขึ้นมานั้น จะยังคงให้มีการดำเนินการตรวจสอบต่อไป แม้บางฝ่ายจะไม่ให้การยอมรับ หรือมองว่าไม่น่าเชื่อถือก็ตาม
** ปัดไม่เกี่ยวเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.ในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (29 ก.ย.) ทางพรรคได้มีการเสนอญัติด่วนในเรื่องนี้ รวมกับญัตติด่วนเรื่องการติดตั้ง CCTV ในภาคใต้ ที่ทางพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้เสนอ
ทั้งนี้ เมื่อทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่องดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาแล้ว พรรคเพื่อไทย ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างอิสระ
อย่างไรก็ตามในฐานะส.ส.กทม.ก็จะติดตามในเรื่องนี้ ตั้งแต่ในสมัยของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ยังเป็นผู้ว่าฯกทม. จนมาถึงสมัยของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายค้านไม่ใช่จะทำหน้าที่ตรวจสอบเพียงแค่รัฐบาล หรือในสภาเท่านั้นแต่จะต้องตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว เพื่อความชัดเจนว่ามีการหมกเม็ดหรือไม่
" ขอยืนยันว่า การที่พรรคเพื่อไทยออกมาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวนั้น ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะขณะนี้พรรคยังไม่ได้มีการคัดสรรบุคคลที่จะมาลงชิงตำแหน่งดังกล่าว เพราะยังมีเวลาเหลืออีกประมาณ 16 เดือน ก่อนที่มีการเลือกตั้ง" นายจิรายุ กล่าว
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่พรรคเพื่อไทย(พท.) ยื่นเรื่องให้ดีเอสไอ ตรวจสอบการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือ ซีซีทีวี ของกรุงเทพฯ (กทม.) จำนวน 10,000 ตัว อาจมีการทุจริตหรือไม่ ว่า หลังรับเรื่องดังกล่าวแล้ว ดีเอสไอ ได้ดำเนินการตรวจสอบในเบื้องต้นทันที โดยประสานไปยังกทม. เพื่อขอเอกสารในการจัดซื้อกล้องวงจรปิด และเอกสารที่เกี่ยวข้อง แต่กทม.ขอเวลารวบรวมเอกสาร เป็นเวลา 3 วัน ก่อนจัดส่งให้ดีเอสไอทำการตรวจสอบ
ทั้งนี้ การตรวจสอบเรื่องนี้ ต้องดูก่อนว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำผิด ซึ่งผู้กระทำผิดเป็นภาคเอกชน ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน แต่หากมีข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องส่งเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนต่อไป
กรณีการตรวจสอบเรื่องกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร ที่ ป.ป.ช.มีมติรับไว้แล้วนั้น จะเป็นการทำงานซ้ำซ้อนกันหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า คนละส่วนกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ตรวจสอบ
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เบื้องต้นการใช้กล้องดัมมี่ (กล้องเปล่า) ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่การจัดซื้อจัดจ้างว่ามีเจตนาทุจริตจริงหรือไม่ และมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งนอกจากการตรวจสอบในส่วนของกทม.แล้ว ดีเอสไอ จะประสานขอข้อมูลจากบริษัทที่เข้าร่วมประมูล และประชาชนที่เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้
ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกทม. เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ถือว่าเป็นคดีพิเศษ และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเท่านั้น
นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ดีเอสไอ ได้ส่งหนังสือถึงกทม.เพื่อขอเอกสารการจัดซื้อกล้องวงจรปิดนั้น หลังจากนี้ต้องให้เวลากับ กทม. เพื่อรวบรวมเอกสาร คาดว่าจะใช้เวลาสักระยะ
**"สุขุมพันธ์"ให้ไปช่วยน้ำท่วมดีกว่า
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวระหว่างปฏิบัติราชการที่เกาะฮ่องกง ถึงเรื่องนี้ว่า กทม. มีความยินดี และพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ ที่ผ่านมาได้ชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดซื้ออย่างชัดเจนแล้ว และเมื่อมีผู้ผลักดันเรื่องดังกล่าวจนเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ขององค์กรที่รับผิดชอบในการทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏ และอยากขอให้นักการเมืองที่ติดตามกรณีกล้องวงจรปิดของ กทม. อย่างใกล้ชิด ให้ใช้เวลาในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และทำประโยชน์แก่ประชาชนดีกว่า
" ผมจะไม่ใช้เวลาในการตอบโต้เรื่องดังกล่าว ยืนยันว่า หากมีการตรวจสอบแล้วมีบุคคลของกทม. กระทำผิดก็พร้อมดำเนินการลงโทษ หรือหากตรวจสอบแล้วผมเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็พร้อมรับผิดชอบ "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการจัดซื้อกล้องซีซีทีวี ที่ทางกทม. จะตั้งขึ้นมานั้น จะยังคงให้มีการดำเนินการตรวจสอบต่อไป แม้บางฝ่ายจะไม่ให้การยอมรับ หรือมองว่าไม่น่าเชื่อถือก็ตาม
** ปัดไม่เกี่ยวเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.ในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (29 ก.ย.) ทางพรรคได้มีการเสนอญัติด่วนในเรื่องนี้ รวมกับญัตติด่วนเรื่องการติดตั้ง CCTV ในภาคใต้ ที่ทางพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้เสนอ
ทั้งนี้ เมื่อทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่องดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาแล้ว พรรคเพื่อไทย ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างอิสระ
อย่างไรก็ตามในฐานะส.ส.กทม.ก็จะติดตามในเรื่องนี้ ตั้งแต่ในสมัยของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ยังเป็นผู้ว่าฯกทม. จนมาถึงสมัยของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายค้านไม่ใช่จะทำหน้าที่ตรวจสอบเพียงแค่รัฐบาล หรือในสภาเท่านั้นแต่จะต้องตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว เพื่อความชัดเจนว่ามีการหมกเม็ดหรือไม่
" ขอยืนยันว่า การที่พรรคเพื่อไทยออกมาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวนั้น ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะขณะนี้พรรคยังไม่ได้มีการคัดสรรบุคคลที่จะมาลงชิงตำแหน่งดังกล่าว เพราะยังมีเวลาเหลืออีกประมาณ 16 เดือน ก่อนที่มีการเลือกตั้ง" นายจิรายุ กล่าว