xs
xsm
sm
md
lg

ภาพเปลือยของ “นิติราษฎร์”

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ภายหลังจากที่คณะนิติราษฎร์ได้จัดทำแถลงการณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีนิติราษฎร์ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า การเคลื่อนไหวของคณะนิติราษฎร์มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของทักษิณ โดยอ้างความไม่ชอบธรรมของการรัฐประหารบังหน้า

และถูกตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วเป็น “นิติศาสตร์เพื่อราษฎร” หรือ “นิติศาสตร์เพื่อทรราชย์” กันแน่

หลังจากนั้นไม่กี่วันคณะนิติราษฎร์ก็ร้อนตัวออกมาแถลงการณ์ซ้ำอีกครั้ง 7 ข้อ แต่ก็ไม่มีข้อไหนเคลียร์ข้อครหาช่วยทักษิณได้เลย ซ้ำเมื่อถูกถามย้ำว่า ทำไมจะต้องลบล้างผลพวงของการรัฐประหารเฉพาะรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

คณะนิติราษฎร์ตอบว่า ต่อข้อสงสัยที่ว่าเหตุใดคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ลบล้างผลพวงของรัฐประหารเฉพาะรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เท่านั้น เหตุใดจึงไม่เสนอให้ลบล้างผลพวงของรัฐประหารในครั้งอื่นๆ ด้วย คณะนิติราษฎร์มีจุดยืนปฏิเสธรัฐประหารทุกครั้งที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญ และทำลายนิติรัฐ-ประชาธิปไตย แต่เหตุที่คณะนิติราษฎร์เสนอให้ลบล้างผลพวงของรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ในเบื้องต้นก่อนนั้น ก็เพราะว่าผลพวงของรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ยังคงดำรงอยู่ และเป็นต้นตอของความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทยในขณะนี้

เป็นข้อแก้ตัวที่หน่อมแน้มและปัญญาอ่อนที่สุดที่ผลิตออกมาจากมันสมองของอาจารย์สอนนิติศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในแขนงนี้ของประเทศมากที่สุดถึง 7 คน แต่ไม่มีตรงไหนหักล้างน้ำหนักที่ถูกกล่าวหาว่าทำเพื่อช่วยทักษิณได้เลย หรือทำให้ความเคลือบแคลงของสังคมลดน้อยลงไปได้เลย

คณะนิติราษฎร์จะอ้างความบริสุทธิ์ใจเป็นเครื่องการันตี หรืออ้างว่ารัฐประหารไม่มีความชอบธรรม ผลพวงที่มาจากการรัฐประหารจึงไม่ชอบธรรมด้วยนั้น แต่ “ผล” จาก “เหตุ” ข้ออ้างของคณะนิติราษฎร์นั้นคนที่ได้รับประโยชน์คือทักษิณกับพรรคพวกเท่านั้นเอง การ “โรลแบ็ครัฐประหาร”กลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีตรงไหนที่สังคมจะได้ประโยชน์เลย

ข้อเสนอของนิติราษฎร์จึงเสนอให้ลบล้าง “ผล” ของการรัฐประหารอย่างเดียว ไม่ได้แก้ “เหตุ” ของการรัฐประหาร

และข้อเสนอของนิติราษฎร์มาจากความคิดเห็นรสนิยมส่วนตัว แต่พยายามหาหลักการมาตกแต่งแบบข้างๆ คูๆ

จริงๆ แล้วถ้าอ้างเอาตามข้ออ้างของนิติราษฎร์ เรื่อง “ต้นตอของความขัดแย้งทางการเมือง” ต้นตอความขัดแย้งทางการเมืองนั้นไม่ได้เริ่มขึ้นหลังจากรัฐประหาร 19 กันยา แต่เริ่มมาจากทักษิณเข้าสู่อำนาจและใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม เป็นเผด็จการรัฐสภาซื้อพรรคการเมือง ซื้อสมาชิกวุฒิสภา แทรกแซงองค์กรอิสระ แก้กฎหมายเพื่อให้ธุรกิจของตัวเองได้ประโยชน์ ใช้อำนาจรัฐเพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สินให้กับตัวเอง ละเมิดสิทธิมนุษยชน และบิดเบือนหลักการของระบอบประชาธิปไตย ฯลฯ

การเข้าสู่อำนาจทางการเมืองของทักษิณ เริ่มต้นมาจากความร่ำรวยจากการได้สัมปทานจากคณะรัฐประหาร รสช. ถ้าคณะนิติราษฎร์จะเอาบริบทความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันเป็นตัวตั้งก็ต้องถอยไปอย่างน้อยที่สุดคือล้มล้างผลพวงของรัฐประหาร รสช.ด้วย

วรเจตน์พยายามจะบอกว่า เขาไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับทักษิณ การกระทำของเขาเป็นการเคลื่อนไหวทางความคิดไม่ใช่ความเคลื่อนไหวทางการเมือง เหมือนวรเจตน์คิดว่า คนไทยนั้นกินแกลบ การอ้างว่าไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวนั้นไม่สามารถลบล้างข้อหาช่วยทักษิณได้เลย เพราะวรเจตน์อาจช่วยเขาเพราะมีรสนิยมต้องกัน มีความสัมพันธ์กับคนอื่นที่รู้จักกับทักษิณ แต่ทั้งหมดทั้งปวงนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะนำมากล่าวอ้างได้ เพราะผลลัพธ์จากข้อเสนอที่วรเจตน์และพวกเรียกร้องแล้วใครได้ประโยชน์ต่างหากที่เป็นคำตอบที่แท้จริง

การอ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางความคิดไม่ใช่การเมืองก็เป็นเรื่องที่ตลกและปัญญาอ่อน เพราะนักศึกษาปี 1 ก็ตอบได้ว่า การเคลื่อนไหวทางความคิดเพื่อให้ลบล้างการรัฐประหารเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่

ในการสัมภาษณ์ “มติชน” ซึ่งเป็นสื่อที่มีจุดยืนสนับสนุนคนเสื้อแดง และแนวทางของคณะนิติราษฎร์ แม้โดยรวมจะตั้งคำถามเพื่อพยายามฟอก “วรเจตน์” มติชนถามว่า ในคดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หากร่างรัฐธรรมนูญออกมาหมวดหนึ่งให้ล้างคดีดังกล่าวจะมีผลอย่างไร

วรเจตน์ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ก็ต้องคืน ถือว่าศาลไม่เคยตัดสิน นี่ผมชัดเจนเลย รวมถึงคดีอาญาที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลสั่งให้จำคุก เงินก็ต้องคืนเริ่มกระบวนการสอบกันใหม่”

กระบวนการที่บอกว่าสอบกันใหม่นั้น วรเจตน์ตอบสังคมหน่อยซิครับว่า จะไม่ 2 มาตรฐานแบบที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคุณหญิงพจมาน และพี่ชายในคดีหลีกเลี่ยงภาษีและสังคมจะมีหลักประกันอะไร หรือวรเจตน์จะตอบว่า กระบวนการที่มาจากประชาธิปไตยมันสูงล้ำ ดังนั้นจะใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมอย่างไรก็ได้

สิ่งที่วรเจตน์พยายามออกมาตอบโต้เพื่อปกป้องแถลงการณ์ของนิติราษฎร์ที่ไม่อาจปิดบังอำพรางว่าช่วยทักษิณ และขาดหลักการเชิงวิชาการก็คือ คนที่กล่าวหาคณะนิติราษฎร์ว่าช่วยทักษิณไม่ได้อ่านแถลงการณ์หรือฟังพวกเขาพูดและจงใจบิดเบือนข้อเสนอของพวกเขา ทั้งที่จริงๆ ไม่ว่าอ่านกี่ร้อยครั้งแถลงการณ์ของนิติราษฎร์ที่มุ่งล้มล้างรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 คนที่ได้ประโยชน์ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร คนเดียว

เมื่อถามว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์ไม่ย้อนกลับไปที่การรัฐประหารทุกครั้ง ทำไมเจาะจงที่การรัฐประหาร 19 กันยา อย่างเดียว คำตอบทุกครั้งที่ได้รับคือ การเอาสีข้างเข้าถู และแก้ตัวว่า ไม่ได้คำนึงว่าใครจะได้ประโยชน์จากการทำให้รัฐประหารเป็นความเสียเปล่า

ถ้าคณะนิติราษฎร์ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ทำไมถอยไปแค่ 19 กันยายน 2549 ทำไมไม่ถอยไปให้สุด เพราะยังมีผลพวงของการรัฐประหารตั้งแต่ครั้งแรกตกค้างอยู่อีกมาก แล้วถามว่า ถ้านิติราษฎร์ไม่ได้มีเจตนาเพื่อประโยชน์ของทักษิณ ทำไมไม่พุ่งเป้าไปที่การป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหารในอนาคต

ที่สำคัญระหว่างแก้ตัวว่า ไม่มีความสัมพันธ์กับทักษิณกับจังหวะก้าวที่ออกมาเคลื่อนไหวแถลงการณ์ของคณะนิติราษฎร์ในแต่ละครั้งอย่างไหนที่เชื่อมโยงความน่าจะเป็นได้มากกว่ากัน แต่ผมคิดว่าจังหวะก้าวที่สอดรับระหว่างคณะนิติราษฎร์กับการเคลื่อนไหวเพื่อให้ทักษิณพ้นผิดของคนเสื้อแดงและรัฐบาลต่างหากที่มีมูลน่าเชื่อถือมากกว่า

แน่นอนว่าจุดยืนและอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องที่ผิด ก็ไม่ผิดหรอกครับว่า นิติราษฎร์หรือวรเจตน์จะมีอุดมการณ์ทางการเมืองแบบไหน แต่ถ้าอุดมการณ์ทางการเมืองแบบวรเจตน์ขึ้นมามีอำนาจแล้วกลับไปลบล้างความผิดในอดีต ถามว่า ถ้าวันหนึ่งอุดมการณ์ทางการเมืองแบบที่ตรงข้ามกับวรเจตน์มีอำนาจแล้วหาเหตุผลมาอ้าง เช่น การใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลกลับไปลบล้างแบบที่วรเจตน์ต้องการก็สามารถทำได้เช่นนั้นหรือ

ผมว่า วันนี้คณะนิติราษฎร์หมดสภาพแล้ว นอกจากได้รับการปกป้องจากพวกผลประโยชน์เดียวกันแบบร่วมด้วยช่วยแถ ใครก็ได้ช่วยหาเสื้อผ้าปกปิดเนื้อตัวอันล่อนจ้อนของพวกนิติราษฎร์หน่อยเถอะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น