ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้ค้าลดราคาน้ำมันแรงวันนี้ทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตรกดดีเซลแตะ 27.49 บาทต่อลิตร นักวิชาการฟันธงน้ำมันช่วงสิ้นปีนี้ซึมยาวตามภาวะเศรษฐกิจโลกเฉลี่ยไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดีเซลสิ้นปีไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรแน่ จี้รัฐเลิกเก็บเงินแก๊สโซฮอล์ 95 เข้ากองทุนน้ำมันฯ 1.40 บาทต่อลิตรเพิ่มส่วนต่างราคาขายปลีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้แจ้งปรับราคาขายปลีกน้ำมันลดลงทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นแก๊สโซออล์อี 85 ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาขายปลีกในเขตกทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้ เบนซิน 91อยู่ที่ 35 37 บาทต่อลิตร เท่ากับราคาแก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 32.34 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 85 อยู่ที่ 21.32 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 20 อยู่ที่ 31.34 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 27.49 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลงแรงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย
โดยรายงานจากไทยออยล์แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดจรปิดตลาดวันที่ 26 ก.ย.2554 ปรับตัวลดลงแรง โดยดูไบปิดที่ 100.28 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลหรือลดลง 3.70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับน้ำมันสำเร็จรูปตลาดจรสิงคโปร์ที่เบนซิน 95 ปิดที่ 116.86 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลลดลง 3.62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และดีเซลปิดที่ 115.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลลดลง 3.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันและอดีตผู้บริหาร บมจ. บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกช่วงสิ้นปีนี้คาดว่าจะซึมยาวเฉลี่ยไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลตามการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะส่งผลให้ฤดูหนาวปีนี้แม้ว่าจะเป็นช่วงความต้องการสูงก็จะไม่ทำให้ราคาสูงไปมากนัก ภาพรวมจึงทำให้ราคาดีเซลขายปลีกในไทยช่วงสิ้นปีนี้จะมีราคาเฉลี่ยไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรแน่นอน
“ส่วนหนึ่งรัฐบาลได้มีการยืดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลจนถึงสิ้นปีแล้ว ประกอบกับเศรษฐกิจโลกทิศทางไม่ชัดเจนคาดว่าจะซึมยาวราคาน้ำมันก็น่าจะเคลื่อนไหวไม่ได้มาก จึงทำให้ภาพรวมช่วงสิ้นปีนี้ราคาน้ำมันจะไม่สูงมากนัก”นายมนูญกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาเท่ากัน ส่งผลให้ผู้ใช้รถหันไปเติมเบนซิน 91 เพิ่มขึ้น ดังนั้น รัฐบาลควรจะยกเลิกการเก็บเงินของผู้ใช้แก๊สโซฮอล์ 95 ที่ขณะนี้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 1.40 บาทต่อลิตร เพื่อเพิ่มส่วนต่างราคาขายปลีกดังกล่าว และให้เป็นไปตามเป้าหมายการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนตามที่รัฐบาลวางไว้
ปัจจุบัน การใช้แก๊สโซฮอล์แนวโน้มจะยังคงลดลงเรื่อยๆ เพราะส่วนต่างราคาน้อยมาก หรือบางตัว เช่น แก๊สโซฮอล์ 95 เทียบกับ 91 ไม่มีเลย ซึ่งเห็นว่าการที่รัฐระบุว่าส่งเสริมพลังงานทดแทน แต่กลับเก็บเงินแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่เพียงชนิดเดียวเข้ากองทุนน้ำมันฯ ก็ดูจะสวนทางนโยบายอยู่
สำหรับทิศทางทางธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของไทยปี 2554 แนวโน้มจะลดต่ำกว่าปี 2553 เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันปีนี้เฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ระดับ 1.30 บาทต่อลิตรขณะที่ปี 2553 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งตรงกันข้ามกับธุรกิจการกลั่นที่ปีนี้จะดีกว่าโดยค่าการกลั่นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร แต่ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.10 บาทต่อลิตรเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้แจ้งปรับราคาขายปลีกน้ำมันลดลงทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นแก๊สโซออล์อี 85 ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาขายปลีกในเขตกทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้ เบนซิน 91อยู่ที่ 35 37 บาทต่อลิตร เท่ากับราคาแก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 32.34 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 85 อยู่ที่ 21.32 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 20 อยู่ที่ 31.34 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 27.49 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลงแรงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย
โดยรายงานจากไทยออยล์แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดจรปิดตลาดวันที่ 26 ก.ย.2554 ปรับตัวลดลงแรง โดยดูไบปิดที่ 100.28 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลหรือลดลง 3.70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับน้ำมันสำเร็จรูปตลาดจรสิงคโปร์ที่เบนซิน 95 ปิดที่ 116.86 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลลดลง 3.62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และดีเซลปิดที่ 115.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลลดลง 3.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันและอดีตผู้บริหาร บมจ. บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกช่วงสิ้นปีนี้คาดว่าจะซึมยาวเฉลี่ยไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลตามการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะส่งผลให้ฤดูหนาวปีนี้แม้ว่าจะเป็นช่วงความต้องการสูงก็จะไม่ทำให้ราคาสูงไปมากนัก ภาพรวมจึงทำให้ราคาดีเซลขายปลีกในไทยช่วงสิ้นปีนี้จะมีราคาเฉลี่ยไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรแน่นอน
“ส่วนหนึ่งรัฐบาลได้มีการยืดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลจนถึงสิ้นปีแล้ว ประกอบกับเศรษฐกิจโลกทิศทางไม่ชัดเจนคาดว่าจะซึมยาวราคาน้ำมันก็น่าจะเคลื่อนไหวไม่ได้มาก จึงทำให้ภาพรวมช่วงสิ้นปีนี้ราคาน้ำมันจะไม่สูงมากนัก”นายมนูญกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาเท่ากัน ส่งผลให้ผู้ใช้รถหันไปเติมเบนซิน 91 เพิ่มขึ้น ดังนั้น รัฐบาลควรจะยกเลิกการเก็บเงินของผู้ใช้แก๊สโซฮอล์ 95 ที่ขณะนี้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 1.40 บาทต่อลิตร เพื่อเพิ่มส่วนต่างราคาขายปลีกดังกล่าว และให้เป็นไปตามเป้าหมายการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนตามที่รัฐบาลวางไว้
ปัจจุบัน การใช้แก๊สโซฮอล์แนวโน้มจะยังคงลดลงเรื่อยๆ เพราะส่วนต่างราคาน้อยมาก หรือบางตัว เช่น แก๊สโซฮอล์ 95 เทียบกับ 91 ไม่มีเลย ซึ่งเห็นว่าการที่รัฐระบุว่าส่งเสริมพลังงานทดแทน แต่กลับเก็บเงินแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่เพียงชนิดเดียวเข้ากองทุนน้ำมันฯ ก็ดูจะสวนทางนโยบายอยู่
สำหรับทิศทางทางธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของไทยปี 2554 แนวโน้มจะลดต่ำกว่าปี 2553 เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันปีนี้เฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ระดับ 1.30 บาทต่อลิตรขณะที่ปี 2553 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งตรงกันข้ามกับธุรกิจการกลั่นที่ปีนี้จะดีกว่าโดยค่าการกลั่นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร แต่ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.10 บาทต่อลิตรเท่านั้น