ASTVผู้จัดการรายวัน- ก.พลังงานส่งสัญญาณทยอยขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซล ก.ย.นี้ หากราคาน้ำมันโลกไม่ทะยานขึ้นมาก และอาจพ่วงด้วยแอลพีจีภาคขนส่ง หลังพบไม่จ่ายภาษีฯแถมยังนำเงินไปอุ้มอีก ลั่นลดเงินกองทุนฯเบนซิน 91 เบนซิน 95 และดีเซลระยะสั้นมองไม่กระทบโซฮอล์ ขณะที่ผู้ค้าขอ 1-1 เดือนหากยอดขายแก๊สโซฮอล์วูบเตรียมหันขายเบนซิน 91 แทน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า จะขอติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกซึ่งหากไม่ได้ปรับตัวสูงมากก็อาจจะทยอยปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซลที่เดิมได้ปรับลดลง 5.80 บาทต่อลิตรเพื่อช่วยลดผลกระทบให้กับประชาชนและจะสิ้นสุดมาตรการก.ย.นี้โดยจะขึ้นเป็นแบบขั้นบันไดซึ่งหลักการจะทยอยขึ้นในช่วงที่ราคาโลกไม่สูงหรือลดต่ำเพื่อไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
“แอลพีจีภาคขนส่งนั้นยอมรับว่าไม่มีการจ่ายภาษีสรรพสามิตแล้วยังนำเงินจากผู้ใช้น้ำมันอื่นๆมาอุ้มทำให้ราคาต่ำกว่าตลาดโลกอย่างมากจึงมีกรอบแนวคิดว่าหากดีเซลจะต้องทยอยลดการอุดหนุนแอลพีจีภาคขนส่งก็ควรจะต้องทำเช่นกันเพราะภาษีดีเซลส่วนหนึ่งนำมาสร้างถนนแต่แอลพีจีไม่ได้มาดูแลอะไรเลยแต่จะอย่างไรคงต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง”นายพิชัยกล่าว
นอกจากนี้นโยบายเร่งด่วนยังยืนยันที่จะลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 3 ชนิดได้แก่ เบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล จากปัจจุบันที่เก็บอยู่ 7.50 บาทต่อลิตร 6.70 บาทต่อลิตรและ 2.80 บาทต่อลิตรตามลำดับเนื่องจากได้หาเสียงไว้กับประชาชนซึ่งยอมรับว่าจะทำให้ส่วนต่างราคาเบนซินกับแก๊สโซฮอล์ไม่ต่างมากทำให้ไม่จูงใจการใช้แต่มาตรการดังกล่าวจะเป็นช่วงสั้นๆหากไปทำอะไรให้วุ่นวายก็จะต้องมาตามแก้ภายหลังยังยังไม่มีมาตรการที่จะดูแลส่วนต่างในขณะนี้
พร้อมกันนี้คงจะต้องมาทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า(พีดีพี) ซึ่งคงต้องดูรายละเอียดใหม่หมดว่าหากไทยไม่ยอมรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และถ่านหิน จะไปทางไหนซึ่งองค์กรภาคเอกชนเองคัดค้านได้ไม่ว่าแต่ต้องขอคำตอบว่าจะเอาอะไรให้เพื่อให้ประเทศเดินหน้าด้วยโดยระยะกลางมองที่ถ่านหินสะอาดที่หลายประเทศก็ทำระบบปิดปัญหาสิ่งแวดล้อมต่ำมาก ส่วนนิวเคลียร์อยากให้มองระยะยาวหากมีพลังงานอื่นๆที่ดีและเหมาะสมกว่าก็ยกเลิกได้
“เงินที่จะนำมาดูแลราคาพลังงานนั้นคงจะสามารถออกพันธบัตรได้ไม่มีปัญหา แต่คงต้องดูถึงมาตรการต่างๆ ให้ชัดก่อน ส่วนมาตรการใช้ไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนที่ขณะนี้ได้ดำเนินการเป็นมาตรการถาวรอาจจะไม่ทำให้ประชาชนประหยัดคงต้องมาทบทวนแต่จะต้องดูรายละเอียดเช่นกัน” นายพิชัยกล่าว
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หากรัฐบาลลดอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนฯเฉพาะเบนซิน 91 และ 95 โดยไม่มีมาตรการดูแลส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์บริษัทคงต้องปรับแผนส่งเสริมการตลาดและขอดูยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 1-2 เดือนหากพบว่ายอดจำหน่ายลดลงประมาณ 20% เป็นต้นไปก็คงจะต้องหันมาจำหน่ายเบนซิน 91 เพิ่มขึ้นแทนเพื่อที่จะไม่ต้องส่งออก
นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจน้ำมันบมจ.ปตท.กล่าวว่า คงจะดูยอดจำหน่ายน้ำมันว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดซึ่งหากกระทบก็คงจะต้องปรับแผนในเรื่องการจัดหา โดยยอมรับว่าราคาแก๊สโซฮอล์ที่ต่ำกว่าเบนซินกว่า 7 บาทกว่านั้นมีผลต่อการใช้
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานกล่าวว่า หากลดเงินกองทุนน้ำมันฯราคาเบนซิน 91 จะสูงกว่าแก๊สโซฮอล์ 91 เพียง 70 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้นจะมีผลให้ยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ลดลงแน่นอน ขณะเดียวกันก็จะกระทบไปยังผู้ผลิตเอทานอลที่จะต้องหันไปส่งออกเพิ่ม ซึ่งเข้าใจว่ารัฐบาลหาเสียงไว้เช่นนั้นจึงอยู่ในภาวะจำยอมแต่รัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้โดยการลดเงินกองทุนแก๊สโซฮอล์ 95 ที่เหลือส่วนแก๊สโซฮอล์ 91 รัฐจ่ายชดเชยเพิ่มเพื่อให้ส่วนต่างขยับขึ้นมาอีก
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า จะขอติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกซึ่งหากไม่ได้ปรับตัวสูงมากก็อาจจะทยอยปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซลที่เดิมได้ปรับลดลง 5.80 บาทต่อลิตรเพื่อช่วยลดผลกระทบให้กับประชาชนและจะสิ้นสุดมาตรการก.ย.นี้โดยจะขึ้นเป็นแบบขั้นบันไดซึ่งหลักการจะทยอยขึ้นในช่วงที่ราคาโลกไม่สูงหรือลดต่ำเพื่อไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
“แอลพีจีภาคขนส่งนั้นยอมรับว่าไม่มีการจ่ายภาษีสรรพสามิตแล้วยังนำเงินจากผู้ใช้น้ำมันอื่นๆมาอุ้มทำให้ราคาต่ำกว่าตลาดโลกอย่างมากจึงมีกรอบแนวคิดว่าหากดีเซลจะต้องทยอยลดการอุดหนุนแอลพีจีภาคขนส่งก็ควรจะต้องทำเช่นกันเพราะภาษีดีเซลส่วนหนึ่งนำมาสร้างถนนแต่แอลพีจีไม่ได้มาดูแลอะไรเลยแต่จะอย่างไรคงต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง”นายพิชัยกล่าว
นอกจากนี้นโยบายเร่งด่วนยังยืนยันที่จะลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 3 ชนิดได้แก่ เบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล จากปัจจุบันที่เก็บอยู่ 7.50 บาทต่อลิตร 6.70 บาทต่อลิตรและ 2.80 บาทต่อลิตรตามลำดับเนื่องจากได้หาเสียงไว้กับประชาชนซึ่งยอมรับว่าจะทำให้ส่วนต่างราคาเบนซินกับแก๊สโซฮอล์ไม่ต่างมากทำให้ไม่จูงใจการใช้แต่มาตรการดังกล่าวจะเป็นช่วงสั้นๆหากไปทำอะไรให้วุ่นวายก็จะต้องมาตามแก้ภายหลังยังยังไม่มีมาตรการที่จะดูแลส่วนต่างในขณะนี้
พร้อมกันนี้คงจะต้องมาทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า(พีดีพี) ซึ่งคงต้องดูรายละเอียดใหม่หมดว่าหากไทยไม่ยอมรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และถ่านหิน จะไปทางไหนซึ่งองค์กรภาคเอกชนเองคัดค้านได้ไม่ว่าแต่ต้องขอคำตอบว่าจะเอาอะไรให้เพื่อให้ประเทศเดินหน้าด้วยโดยระยะกลางมองที่ถ่านหินสะอาดที่หลายประเทศก็ทำระบบปิดปัญหาสิ่งแวดล้อมต่ำมาก ส่วนนิวเคลียร์อยากให้มองระยะยาวหากมีพลังงานอื่นๆที่ดีและเหมาะสมกว่าก็ยกเลิกได้
“เงินที่จะนำมาดูแลราคาพลังงานนั้นคงจะสามารถออกพันธบัตรได้ไม่มีปัญหา แต่คงต้องดูถึงมาตรการต่างๆ ให้ชัดก่อน ส่วนมาตรการใช้ไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนที่ขณะนี้ได้ดำเนินการเป็นมาตรการถาวรอาจจะไม่ทำให้ประชาชนประหยัดคงต้องมาทบทวนแต่จะต้องดูรายละเอียดเช่นกัน” นายพิชัยกล่าว
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หากรัฐบาลลดอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนฯเฉพาะเบนซิน 91 และ 95 โดยไม่มีมาตรการดูแลส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์บริษัทคงต้องปรับแผนส่งเสริมการตลาดและขอดูยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 1-2 เดือนหากพบว่ายอดจำหน่ายลดลงประมาณ 20% เป็นต้นไปก็คงจะต้องหันมาจำหน่ายเบนซิน 91 เพิ่มขึ้นแทนเพื่อที่จะไม่ต้องส่งออก
นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจน้ำมันบมจ.ปตท.กล่าวว่า คงจะดูยอดจำหน่ายน้ำมันว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดซึ่งหากกระทบก็คงจะต้องปรับแผนในเรื่องการจัดหา โดยยอมรับว่าราคาแก๊สโซฮอล์ที่ต่ำกว่าเบนซินกว่า 7 บาทกว่านั้นมีผลต่อการใช้
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานกล่าวว่า หากลดเงินกองทุนน้ำมันฯราคาเบนซิน 91 จะสูงกว่าแก๊สโซฮอล์ 91 เพียง 70 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้นจะมีผลให้ยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ลดลงแน่นอน ขณะเดียวกันก็จะกระทบไปยังผู้ผลิตเอทานอลที่จะต้องหันไปส่งออกเพิ่ม ซึ่งเข้าใจว่ารัฐบาลหาเสียงไว้เช่นนั้นจึงอยู่ในภาวะจำยอมแต่รัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้โดยการลดเงินกองทุนแก๊สโซฮอล์ 95 ที่เหลือส่วนแก๊สโซฮอล์ 91 รัฐจ่ายชดเชยเพิ่มเพื่อให้ส่วนต่างขยับขึ้นมาอีก