xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“นิติราษฎร์”ปูทาง คอ.นธ.ตีปี๊บ ล้ม รธน.50

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วรเจตน์ ภาคีรัตน์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-แม้จะมีการปฏิเสธว่า “คณะนิติราษฎร์”ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ที่มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน แต่อย่างใด แต่เมื่อพิจารณาจากแนวทางการทำงานของ คอ.นธ.และคำแถลงของคณะนิติราษฎร์ที่ออกมาเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2554 แล้ว จะพบว่ามีการสอดรับกันเป็นอย่างดีทีเดียว

กลุ่มคนทั้ง 2 คณะนี้ เมื่อมองถึงตัวบุคคลก็จะพบว่ามีล้วนแต่มีบทบาทในการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีความและโทษอาญาไปเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศทั้งสิ้น

คณะนิติราษฎร์นั้นประกอบด้วยอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 7 คน นำโดยนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ ซึ่งพยายามอ้างตัวว่าเป็นนักวิชารอิสระ แต่ทุกครั้งที่นำเสนอแนวความคิดออกมาล้วนเข้าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรทั้งสิ้น

ส่วนนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธาน คอ.นธ.ก็มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งในฐานะอาจารย์กับลูกศิษย์และเคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด
คำแถลงของคณะนิติราษฎร์ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2554 มีทั้งหมด 4 ประเด็นสำคัญด้วยกัน ประเด็นแรกคือการลบล้างผลพวงของรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ด้วยข้ออ้างที่ว่า การรัฐประหารครั้งนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทำลายนิติรัฐ-ประชาธิปไตย และยังเป็นต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ประเด็นที่สองคือการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยข้ออ้างที่ว่า กฎหมายมาตรานี้มีปัญหาทั้งในแง่ตัวบทกฎหมาย การบังคับใช้ และอุดมการณ์ และ และมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่สาม เรื่องการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมกับผู้ต้องหาหรือจำเลยและการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายภายหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ประเด็นที่สี่ การยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ด้วยข้ออ้างที่ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร และให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยนำเอาเนื้อหาในธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว 2475, รัฐธรรมนูญฉบับปี 2475, 2489 และ 2540 มาเป็นแนวทางการยกร่าง พร้อมกับให้มีคำประกาศเพื่อมิให้มีการทำรัฐประหารไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังจากนั้นให้ประชาชนออกเสียงประชามติเห็นชอบ

เมื่อสืบสาวไปให้สุดทาง ก็จะพบว่า หากมีการดำเนินการตามเนื้อหาของแถลงการณ์ดังกล่าวจนเสร็จสิ้นกระบวนความแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็พ้นจากความผิดทันที เพราะการชี้มูลความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรทั้งหมด เกิดขึ้นหลังจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทั้งสิ้น
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่แถลงการณ์ของคณะนิติราษฎร์ได้รับการขานรับจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างทันทีทันทันควัน

นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ว่า ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ถือว่าเป็นงานวิชาการที่มีมุมมองที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เป็นข้อเสนอที่มุ่งสู่การวางรากฐานของการเป็นประชาธิปไตยให้กับบ้านเมือง คือการไม่ยอมรับการทำปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งมุมมองของคณะนิติราษฎร์ตรงกับรัฐบาล คือการคัดค้านการัฐประหาร และเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มีที่มาจากการทำรัฐประหาร

ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่าข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ไม่ได้ต้องการทำเพื่อคนๆ เดียว อาจารย์ระดับดอกเตอร์ทางวิชาการ และเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถ้าจะมาทำเพื่อใครคนเดียว ก็เป็นการฆ่าตัวตาย

ขณะที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย บอกว่า ถ้าข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์เป็นจริงจะทำให้ประเทศไทยมีแนวทางในการใช้กฎหมายกรณีที่ใครจะมายึดอำนาจ ที่ผ่านมามีการยึดตามแนวทางศาลฎีกา พ.ศ.2496 ที่บอกว่าใครยึดอำนาจได้ก็สามารถทำอะไรก็ได้นั้น ได้ก่อให้เกิดผลเสียเชิงกฎหมาย และยังก่อให้เกิดการปฏิวัติซ้ำซากมาตลอด

อย่างไรก็ตาม ทั้งข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์และการขานรับของคนในเครือข่ายระบอบทักษิณ เป็นการมองรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพียงด้านเดียว และเป็นมุมมองจากฝ่ายผู้สูญเสียประโยชน์ โดยไม่มองให้รอบด้านไปถึงสถานการณ์ก่อนเกิดการรัฐประหารให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ใช้อำนาจที่ละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญและทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างไรบ้าง

นี่เป็นประเด็นที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะถูกโต้แย้งอย่างหนักและรุนแรง หากมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 และ/หรือล้มล้างผลพวงจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และจะไม่สามารถหาคำแก้ตัวมาอธิบายได้อย่างสมเหตุสมผลได้

แต่เป้าหมายสุดท้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการส่งนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิดมานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ก็เพื่อใช้อำนาจรัฐดำเนินการให้ตัวเองพ้นจากความผิดและกลับเข้าสู่บัลลังก์ผู้นำประเทศได้อีกครั้ง โดยมีวิธีการคือยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 และลบล้างผลพวงจากการรัฐประหารปี 2549 ให้ได้

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีกลไกขึ้นมาสร้างกระแสให้สังคมส่วนใหญ่เห็นไปในทางเดียวกันว่าการรัฐประหาร 2549 นั้นขาดความชอบธรรมให้ได้ คอ.นธ.จึงเกิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่นี้

แม้นายอุกฤษจะออกแถลงการณ์อ้างว่า คอ.นธ.จะไม่ไปก้าวก่ายการทำหน้าที่ขององค์กรอื่น แต่หากย้อนไปดูมติ ครม.ที่แต่งตั้งนายอุกฤษให้เป็นประธาน คอ.นธ.เมื่อวันที่ 13 ก.ย.54 นั้น ได้ระบุว่า คอ.นธ.จะมีอำนาจหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์ แนวทาง มาตรการข้อเสนอแนะ และกระบวนการต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อเป็นหลักประกันการใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรม สุจริตภายใต้มาตรฐานเดียวกันตามหลักนิติธรรม และเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามหลักนิติธรรม และเชิญผู้แทนหน่วยงานของรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้จัดส่งเอกสาร วัตถุ หรือข้อมูลมาเพื่อประกอบการพิจารณา และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน มอบหมายหรือจ้างองค์กร คณะบุคคล หรือบุคคลให้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมาย นั่นแสดงว่า ครม.ได้ให้อำนาจหน้าที่ คอ.นธ.ไว้กว้างขวางมาก

วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา นายอุกฤษ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ว่า ได้เปิดเว็บไซต์ของ คอ.นธ.ชื่อ http://www.nrlcthailand.org เพื่อเผยแพร่ข่าวและบทความทั้งหมดทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเ ทั้งนี้ คอ.นธ.จะยกปัญหาหลักนิติธรรมมาพิจารณา อาทิ หลักนิติธรรมคืออะไร นิติรัฐคืออะไร ยุติธรรมคืออะไร ควรมีมาตรฐานเดียวหรือไม่ ความเสมอภาคในสังคมไทย เสรีภาพในสังคมไทย ฯลฯ

นอกจากนี้ จะเผยแพร่แนวทางการดำเนินงานทางสื่อมวลชน โดยเฉพาะทางโทรทัศน์ด้วยการหยิบยกปัญหาที่เกิดขึ้นจริงมาพิจารณา เพื่อสรุปการแก้ปัญหาที่ชอบด้วยหลักนิติธรรม และหลักยุติธรรม ที่แท้จริง เพื่อทุกองค์กรอาจยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งเป็นแนวทางแก่คณาจารย์ผู้สอนวิชากฎหมาย และผู้ใช้วิชาชีพทางกฎหมายอีกด้วย

นั่นย่อมชัดเจนว่า คอ.นธ.จะมุ่งเน้นไปที่การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสังคมว่า หลักนิติธรรมที่ทุกหน่วยงานต้องยึดถือปฏิบัตินั้นคืออะไร

เมื่อมองถึงจุดยืนของนายอุกฤษกับคณะนิติราษฎร์ที่มีจุดยืนเดียวกัน และเป็นจุดยืนเดียวกับคนเสื้อแดง-พรรคเพื่อไทย จึงชัดเจนว่า คอ.นธ.รับใช้ใคร และหลักนิติธรรมที่นำมาเป็นแนวทางให้ทุกหน่วยงานยึดถือเป็นแนวทางนั้นจะเป็นหลักนิติธรรมที่เข้าทางใคร

คาดการณ์ได้ว่าหลังจากนี้ ทั้ง คอ.นธ. คณะนิติราษฎร์ คนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะสร้างกระแสสังคมให้คล้อยตามเพื่อปูพื้นไปสู่การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ และนำแนวคิดที่ได้จาก คอ.นธ.ไปใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีคำตอบสุดท้ายคือให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศจากมลทินนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น