xs
xsm
sm
md
lg

จะเป็นจะตายเพื่อทักษิณ?

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

ครบรอบ 5 ปีของการทำรัฐประหารครั้งล่าสุด 19 กันยายน 2549 เมื่อวานนี้ การยึดอำนาจที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งพอจะได้รับช่อดอกไม้บ้างในวันโน้น มาวันนี้กลายเป็นก้อนอิฐ พร้อมกับเสียงเรียกร้องจากอาจารย์สอนกฎหมายให้การกระทำใดๆ ที่มุ่งผลต่อกฎหมายของคณะปฏิรูปการปกครองฯ ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น และไม่มีผลทางกฎหมาย รวมทั้งให้คำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่อาศัยอำนาจตามคณะปฏิรูปการปกครองฯ และเป็นผลต่อเนื่องมาจากรัฐประหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาคำวินิจฉัยและคำพิพากษาที่เกิดจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยคณะปฏิรูปการปกครองฯ ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น และไม่มีผลทางกฎหมาย

แถลงการณ์ของคณะนิติราษฎร์ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเสียงเรียกร้องเดียวกับ ทักษิณ ชินวัตร และบริษัทบริวารของเขาไม่ผิดเพี้ยน

แต่แถลงการณ์คงจะเกรงผู้คนเข้าใจผิด จึงมีตอนหนึ่งบอกว่า

การประกาศความเสียเปล่าของบรรดาคำวินิจฉัยและคำพิพากษานั้น ไม่ใช่เป็นการนิรโทษกรรม การอภัยโทษ หรือการล้างมลทินแก่บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด และไม่ใช่เป็นการลบล้างการกระทำทั้งหลายทั้งปวงของผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ดังนั้นหากจะดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวใหม่ ก็สามารถกระทำไปตามกระบวนการทางกฎหมายปกติได้

เสียงเรียกร้องดังกล่าวนี้เชื่อว่า รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมที่จะน้อมรับและนำไปปฏิบัติทันที ถ้าหากสามารถปฏิบัติได้เพราะตรงกับใจ ตรงกับความต้องการของทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างยิ่ง ชัยชนะของพรรคพลังประชาชนส่งผลให้ สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีก็เพื่อการนี้ แต่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ก็ช่วยทักษิณไม่ได้ เพราะเพียงแต่คิดจะแก้รัฐธรรมนูญบางมาตราเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ทักษิณ ผู้คนก็ออกมาเต็มถนนแล้ว

ประกาศ คปค.แต่งตั้ง คตส.ให้ตรวจสอบการกระทำความผิดนั้น มิใช่การประกาศใช้อำนาจตามปกติ แต่กระบวนการตรวจสอบ ขั้นตอนการพิจารณาสั่งฟ้องไม่ฟ้อง ก็มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้หลักเกณฑ์ของตัวบทกฎหมาย เป็นต้น ให้ คตส.ตรวจสอบเสร็จแล้วส่งสำนวนให้อัยการ อัยการพิจารณาว่าจะฟ้องดีหรือไม่ฟ้องดี มีหลักฐานพร้อมพอจะฟ้องได้หรือไม่ได้ ส่งฟ้องแล้วก็อยู่ที่การพิจารณาของศาล

หลายคดีที่ศาลพิจารณาแล้วก็ยกฟ้อง เป็นต้น คดีกล้ายาง คดีหวยบนดินก็ปล่อย มีบ้างบางคนศาลตัดสินสั่งจำคุก แต่ศาลก็ปรานีให้รอลงอาญา

มีที่หนักกว่าเพื่อนก็ ทักษิณ ชินวัตร คดีซื้อที่ดินรัชดาฯ ศาลตัดสินจำคุกทักษิณ 2 ปี เป็นผลให้ทักษิณต้องระเหเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศ เป็นผลให้ทักษิณต้องดิ้นรนจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในปี 2552 และ 2553 (ถ้าสงกรานต์ปี 2552 หรือ 2553 ฝ่ายเสื้อแดงชนะ นั่นจึงจะเป็นการยึดอำนาจรัฐที่สมควร ที่ชอบ ที่ถูกที่ต้องอย่างนั้นหรือ?) และอีกคดีก็คือ คดียึดทรัพย์ 7.3 หมื่นล้านบาทของทักษิณ ซึ่งศาลตัดสินให้ยึด 4.6 หมื่นล้านบาท

แต่ละคดีดังกล่าวนี้ คตส.ตรวจสอบแล้วส่งให้อัยการพิจารณาเห็นสมควรส่งฟ้องหรือไม่ มีบางคดีที่อัยการมีความเห็นขัดแย้งกับ คตส.และหลายคดีที่ศาลยกฟ้องดังได้กล่าวแล้ว

การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 มองด้านหนึ่งเป็นการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือที่เราชอบเรียกกันว่า ระบอบประชาธิปไตย แต่แท้ที่จริงแล้วประชาธิปไตยที่ว่านั้นเป็นแต่เพียงรูปแบบ คือ จัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเอาชนะการเลือกตั้งให้ได้ ให้ได้เสียงข้างมากแล้วก็บริหารประเทศ แต่การจัดตั้งพรรคการเมืองนั้นใช้เงินซื้อกลุ่มก๊วนต่างๆ เข้าพรรคหรือไม่ การได้เสียงข้างมากเพราะ กกต.ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนไว้ให้มาจัดการเลือกตั้งให้สะอาดบริสุทธิ์ แต่กลับรับใช้พรรคการเมืองหรือไม่ พรรคที่ได้รับเลือกตั้งเสียงข้างมากบริหารประเทศด้วยธรรมาภิบาลหรือไม่ แสวงหาประโยชน์ให้ตัว ให้ครบครัว ให้บริษัทบริวารหรือไม่ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการพิจารณาที่ความรู้ ความสามารถ อันจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน หรือเล่นพรรค เล่นพวก ปูนบำเหน็จให้บริษัทบริวารของตัวเอง

ไม่ใช่ได้รับเลือกตั้งได้เสียงข้างมากแล้วจะปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติอย่างไรก็ได้ อย่างที่ทักษิณคิด และทำมาแล้ว และเมื่อคิดและทำก็ย่อมจะมีผู้คนออกมาต่อต้าน ในที่สุดก็เกิดรัฐประหารโดยคณะทหารที่มีปืน มีรถถัง

ถามว่าทำไมไม่เปลี่ยนแปลงรัฐบาลด้วยวิถีทางของประชาธิปไตย คือ เข้าคูหา กาบัตร?

ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ก็เปลี่ยนรัฐบาลที่มีเงินซื้อนักการเมืองเข้าพรรค ซื้อ กกต.ให้ช่วยสนับสนุน ซื้อองค์กรอิสระให้รับใช้ทุกประการที่เป็นความต้องการของเขาไม่ได้

รัฐบาลที่ดี มีคุณธรรมบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ก็ไม่มีใครกล้าคิดจะล้มล้าง ไม่มีทหารกล้าที่จะทำรัฐประหาร ไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะติดคุกติดตะรางหรือประหารชีวิตด้วยการล้มล้างรัฐบาลที่ดี

ข้อดีของการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จึงอยู่ตรงที่ล้มรัฐบาลทักษิณ ล้มรัฐบาลที่คอร์รัปชันแสวงหาประโยชน์ให้แก่ครอบครัวตัวเองและบริษัทบริวาร

อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เรียกตัวเองว่า นิติราษฎร์ ไม่เห็นหรือว่ากระบวนการกฎหมายปกตินั้นไม่อาจระคายผิว ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวได้เลย และไม่เคยเห็นอาจารย์เหล่านี้ออกมาเคลื่อนไหวใดๆ เลยเมื่อทักษิณใช้อำนาจไม่เป็นธรรม เช่น สงครามยาเสพติด การแก้ไขกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้แก่ครอบครัวทักษิณ

หรือจะเป็นจะตายเฉพาะที่ทักษิณเสียประโยชน์เท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น