"ราชินี"พระราชทานชุดธารน้ำใจแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ศอส.เผย 26 จังหวัดยังเผชิญน้ำท่วมต่อเนื่อง พร้อมเตือน 8 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยารับมือภาวะน้ำล้นตลิ่งสูงขึ้น 19-20 ก.ย.นี้ "นายกฯ"นำคณะควง"แพนเค้ก"ล่องเรือตรวจน้ำท่วมนนทบุรี-กทม.พร้อมทอดไก่-ไข่เจียวแจกผู้ประสพภัย จี้ผู้ว่าฯทุกจังหวัดทำเขื่อนกั้นน้ำเตรียมรับน้ำเหนืออีก 2-3 วัน "ลพบุรี"11 อำเภออ่วม ขณะที่"สุโขทัย-พิษณุโลก"วิกฤตอีกพื้นที่เศรษฐกิจจมบาดาล "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์"แย่งซีนจัดดวนแข้งหารายได้ช่วยเหยื่อน้ำท่วม
เมื่อเวลา 08.00 น.วานนี้ (18 ก.ย.) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในขณะนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์นำชุดธารน้ำใจสภากาชาดไทยพระราชทาน พร้อมน้ำดื่ม จำนวน 3,280 ชุด ไปมอบให้แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน ณ วัดสัก ต.ศาลาลอย อ.ท่าเรือ และที่โรงเรียนบางปะอินราชานุเคราะห์ 1 อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวมทั้งสิ้น 13 อำเภอได้แก่ อ.พระนครศรีอยุธยา เสนา บางบาล ผักไห่ บางซ้าย บางไทร บางปะอิน บ้านแพรก บางปะหัน มหาราช นครหลวง อุทัย และ อ.ท่าเรือ สภากาชาดไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการนำชุดธารน้ำใจไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยแล้วกว่า 3,000 ชุด ใน อ.บางบาล และ อ.เสนา
ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2251-7853-6 หรือโทร 1664 หรือบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย ช่วยผู้ประสบอุทกภัย" ประเภทบัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 045-3-04190-6
นำสิ่งของพระราชทานช่วยชาวสิงห์บุรี
วันเดียวกัน เวลา 08.30 น.ที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้แทนพระองค์ในโครงการ หนึ่งใจช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามพระดำริ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัลยา สิริวัฒนารรณวดี ที่ทรงมีความห่วงใย พสกนิกรชาวไทย ที่ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ มีมูลนิธิมิราเคิล เป็นตัวแทน พร้อมด้วยภาครัฐภาคเอกชน ได้ร่วมสมทบสิ่งบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมได้นำถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด และน้ำดื่ม 5,000 ขวด พระราชทานแก่ประชาชน ที่ประสบอุทกภัยในปัจจุบัน ตามโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยขบวนคาราวานช่วยเหลือภัยน้ำท่วม ได้เดินทางออกจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มุ่งสู่วัดโบสถ์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยในพื้นที่ดังกล่าว
ย้ำ8จว.ลุ่มเจ้าพระยารับน้ำล้นตลิ่งสูงขั้น
นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม(ศอส.)เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 26 จังหวัดได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ยโสธร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ ฉะเชิงเทรา นครนายก ตาก สระแก้ว และปราจีนบุรี รวม 165 อำเภอ 1,095 ตำบล 6,915 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 408,783 ครัวเรือน 1,412,357 คน เสียชีวิต 112 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตร 4,043,993 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บ่อปลา 67,618 ไร่ กุ้ง/ปู/หอย 2,284 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบ 3,042,185 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ แยกเป็นทางหลวง 24 สาย ใน 10 จังหวัด ทางหลวงชนบท 49 สายใน 19 จังหวัด
นายฉัตรป้อง กล่าวว่า จากภาวะฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังคงต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากน้ำหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ปัว และ อ.เชียงกลาง จ.น่าน รวมถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำแบบวันต่อวัน โดยเฉพาะในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ เนื่องจากระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้จังหวัดเร่งเสริมกระสอบทรายทำคันดินกั้นน้ำให้สูงขึ้น และอุดรอยรั่วเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของแนวคันกั้นน้ำ รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
นายกฯนำคณะล่องเรือตรวจน้ำท่วม
ที่ จ.นนทบุรีเวลา 11.00 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ นางกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และน.ส.เขมนิจ จามิกรณ์ หรือ แพนเค้ก นักแสดงสาวดาวรุ่ง เดินทางถึงยังเทศบาลปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อพบปะและตรวจเยี่ยมประชาชนริมน้ำเจ้าพระยา พร้อมมอบถุงยังชีพ โดยมี พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.และนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมประชาชนกว่า 50 คนให้การต้อนรับ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อีก 2-3 วันข้างหน้านี้น้ำจะเพิ่มขึ้นสูงมาก เราจึงต้องปั่นกระแสน้ำเพื่อเร่งนำน้ำออก ซึ่งตนเป็นห่วงในพื้นที่กรุงเทพฯ กับนนทบุรี และพื้นที่โดยรอบที่เป็นแหล่งรับน้ำเหนือจึงได้สั่งการให้ผู้ว่าฯทุกจังหวัดเร่งทำเขื่อนหรือแนวกั้นน้ำเพื่อเตรียมป้องกันน้ำเหนือไว้
ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะ ได้ลงเรือไปยังเกาะเกร็ดเพื่อพบปะเยี่ยมเยียนประชาชน และแจกถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย ก่อนที่จะออกเดินทางโดยเรือเพื่อตรวจสถานการณ์น้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในฝั่งตะวันตกไปตามจุดต่างๆ ใน จ.นนทบุรี ที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้แก่วัดฉิมพลี เกาะเกร็ด และเดินทางไปยังมัสยิดท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ชาวมุสลิม
โชว์ฝีมือทอดไก่-ไข่เจียวแจกผู้ประสบภัย
เวลา 13.00 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ เดินทางถึงวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร อ.เมืองนนทบุรี เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นไปบนรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ลงทอดไข่เจียวและทอดน่องไก่ปีกบน เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน จากนั้นได้แวะไปกราบนมัสการพระธรรมกิตติมุนี(สายฐานมังคโล) เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี โดยพระธรรมกิตติมุนี ได้มอบพระพุธทชินราชบูชา จากนั้นได้เดินทางไปสักการะพระบรมรูปพระพุทธเลิศล้านภาลัย พร้อมไปเปิดรถกรองน้ำดื่มเคลื่อนที่ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชน
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ เดินทางไปที่ท่าน้ำนนท์เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก่อนออกเดินทางล่องเรือตรวจสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยแวะสำรวจระดับน้ำที่ท่าน้ำศิริราช ก่อนที่จะไปขึ้นท่าเทียบเรือหอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กทม.
ยันเงินบริจาค363ล้านโปร่งใส
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นนทบุรีโดยมั่นใจว่า เงินบริจาค 363 ล้านบาทมีความโปร่งใส เพราะจะมีการตั้งคณะกรรมการในแต่ละจังหวัดเป็นผู้คัดเลือก โดยในส่วนกลาง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ ตนยังได้พูดคุยเบื้องต้นกับผู้ว่าฯ กทม.และจังหวัดปริมณฑลให้มีการป้องกันน้ำไหลเข้ากรุงเทพฯ ด้วย
11อำเภอลพบุรีอ่วม-สังเวยแล้ว1ศพ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของ จ.ลพบุรี ขณะนี้ได้ท่วมครบทุกอำเภอของจังหวัดแล้วทั้ง 11 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บ้านหมี่ ท่าวุ้ง เมืองลพบุรี โคกสำโรง หนองม่วง พัฒนานิคม สระโบสถ์ ลำสนธิ ท่าหลวง ชัยบาดาล และ อ.โคกเจริญ รวม 100 ตำบล 799 หมู่บ้าน 59 ชุมชน ซึ่งน้ำท่วมใน จ.ลพบุรีขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือ นายอนัน แสนอภัย อายุ 50 ปี ชาว อ.โคกสำโรงเสียชีวิตขณะออกไปหาปลา
สำหรับน้ำที่ท่วมหนักสุดของจังหวัดลพบุรีอยู่ใน 3 อำเภอ คือ อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง อ.เมืองลพบุรี โดยที่ อ.บ้านหมี่ มีน้ำท่วมสูงแล้วเกือบ 3 เมตร หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงต้องใช้เรือในการเข้าออกหมู่บ้าน แต่บางจุดก็ออกไม่ได้เนื่องจากต้องพายเรือไกลมาก ซึ่งพื้นที่บ้านหมี่ที่น้ำท่วมหนักอยู่ที่ตำบลหนองกระเบียน หนองเมือง บ้านกล้วย บ้านทราย หนองทรายขาว พุคา
ส่วนในพื้นที่ อ.เมือง ก็อ่วมไม่แพ้กันโดยที่ ต.ป่าตาล และ ต.เขาพระงาม ถูกตัดขาด ซึ่งที่ ต.เขาพระงาม ระดับน้ำได้ท่วมถนนสายหลักอย่างลพบุรี-โคกสำโรงสูงกว่า 70ซมจนรถเล็กวิ่งไม่ได้ทำให้ติดเกาะเข้าออกไม่ได้ร่วมถึงกระแสน้ำก็ไหล แรงมากด้วยทำให้การใช้เรือก็ลำบาก
ด้านสถานการณ์ของน้ำในอ่าเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เริ่มวิกฤตขึ้นเรื่อยๆ หลังวันเดียวน้ำไหลเข้าในอ่างจำนวนมากจนมีน้ำสะสมอยู่ในอ่างเก็บน้ำที่ 821.75 ล้านลูกบาตรเมตร คิดเป็น 104.68 เปอร์เซ็นต์ของความจุของอ่างเก็บน้ำ แต่ก็ยังพอรับไหวในอีกสัก 2-3 วัน เนื่องจากว่าเขื่อนป่าสักนั้นรับน้ำได้เต็มความจุเกินกว่าลิมิตได้ ที่ 960 ล้านลูกบาตรเมตร ยังเหลือน้ำที่รับได้อีกกว่า 100 ล้านลบ.ม.ก่อนที่จะปรับแผนในการระบายออกจากเขื่อน โดยขอรอดูสถานการณ์น้ำจากแม่น้ำเจ่าพระยาก่อนเพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับผล กระทบหนักจากแม่น้ำทั้ง 2 สาย
เมืองสุโขทัยกลับสู่วิกฤตอีกรอบ
รายงานข่าวจากจังหวัดสุโขทัยแจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ อ.เมือง จ.สุโขทัย วานนี้ (18ก.ย.)ได้กลับเข้าสู่วิกฤตอีกครั้ง หลังจากที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยม เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง ที่ล้นสปิลล์เวย์ และน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย ต.ตลิ่งชัน อ.บ้านด่านลานหอย ไหลลงมาสมทบ ทำให้หลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ปากแคว ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ถูกน้ำท่วมบ้านสูงเกือบ 2 เมตร รวมทั้งห้างร้าน โชว์รูมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โรงแรม และรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจทางฝั่งตะวันตก ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย ก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน
ส่วนถนนสายหลักที่ใช้เดินทางท่องเที่ยว ไปยังอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งแต่บริเวณสี่แยกคลองโพธิ์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลสุโขทัย โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย ไปจนถึงหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี รวมระยะทาง 4 กิโลเมตร ก็ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร รถเล็กสัญจรไม่ได้
ขณะที่หลายหน่วยงาน รวมทั้งโรงพยาบาลสุโขทัย ต้องจัดรถรับส่งให้บริการแก่ประชาชน ญาติและผู้ป่วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทั้งนี้ ที่หมู่ 5 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม คือ ด.ช.กฤษณะ ศรีอรุณนิรันดร์ อายุ 10 ขวบ สาเหตุเกิดจากผู้ตายออกมาเล่นน้ำที่ท่วมขังอยู่หน้าบ้าน แล้วตกลงไปในร่องน้ำริมถนน
ทะลักท่วมย่าน ศก.เมืองสองแคว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลกวานนี้ น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจ ศูนย์ราชการ และสนามกีฬาจังหวัดพิษณุโลก ทำให้ธุรกิจร้านค้าบริเวณถนนหน้าสนามกีฬาจังหวัดต้องหยุดดำเนินกิจการ ขณะที่ร้านค้ารายย่อยต้องขนของย้ายร้านหนีน้ำท่วมกันจ้าละหวั่น ส่งผลให้สูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
วันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งกำลังพลเร่งกรอกกระสอบทราย เพื่อเสริมแนวตลิ่งหน้าพระราชวังจันทน์ เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำน่านไหลทะลักเข้าท่วมโบราณสถาน ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้นำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบจากที่เข้าท่วมขังในพระราชวังจันทน์ตลอดทั้งวัน
พื้นที่ติดเขื่อนลำปาวเมืองน้ำดำวิกฤต
ด้านสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังคงวิกฤตในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอำเภอที่อยู่ติดกับเขื่อนลำปาว ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนหัวเขื่อนหรือท้ายเขื่อนต่างก็ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมนาข้าว และยังมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากในพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขื่อนลำปาวต้องระบายน้ำเพื่อรักษาสมดุลของตัวเขื่อนลำปาว
โดยเฉพาะพื้นที่หัวเขื่อน ด้านบ้านโนนศิลา ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร นาข้าวและไร่อ้อยจนเสียหายบริเวณกว้างซึ่งยังไม่มีการอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ขณะที่บริเวณท้ายเขื่อนขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักและน้ำที่ล้นตลิ่งทั้งลำน้ำปาวและแม่น้ำชีได้ขยายวงกว้างออกเป็น 5 อำเภอที่ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.ร่องคำ โดยระดับน้ำในลำน้ำปาวยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกินจุดวิกฤตแล้ว ราษฎรในพื้นที่ 5 อำเภอต้องเผชิญกับภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่นาข้าวในพื้นที่ชลประทานเกือบ 3 แสนไร่กำลังถูกน้ำท่วม
ขณะที่บริเวณกุดขี้นค ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ถึง 5 ตัว เพื่อสูบน้ำตลอด 24 ชม.ป้องกันน้ำล้นพนังไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรและป้องกันนาข้าวในพื้นที่ด้วย ซึ่งนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม.ทั้ง 18 อำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายและเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที
สั่งผลิตยาสมุนไพรช่วยน้ำท่วม
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เผยว่า หลังจากเกิดน้ำท่วมขังตามจังหวัดต่างๆ กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลางไปช่วยประชาชน โดยเป็นยาชุดช่วยผู้ประสบภัย 827,500 ชุด ยาตำราหลวง 35,500 ชุด ยารักษาน้ำกัดเท้า จำนวน 151,000 หลอด และสำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 600,000 ชุดรวมทั้งยารักษาน้ำกัดเท้า พร้อมกันนี้ได้ให้กรมพัฒนาแพทย์แผนไทยฯ ผลิตยาสมุนไพร ชุดยาภูมิปัญญาไทย เพื่อนำมาช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ตั้งแต่น้ำท่วมเป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาผู้เจ็บ ป่วยในพื้นที่ประสบภัยรวม 1,874 ครั้ง รวมจำนวนผู้รับบริการสะสม 246,757 ราย โรคที่พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ น้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง และโรคเครียด ไม่มีโรคระบาดที่มากับน้ำท่วม
พท.เตรียมจัดบอลการกุศลช่วยน้ำท่วม
นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ กล่าวถึงปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทยว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในเวลานี้ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชนจำนวน 1.4 แสนรายในพื้นที่ 26 จังหวัด ซึ่งล่าสุดมีคนเสียชีวิต 102 คนและสูญหาย 2 คน พื้นที่เกษตรเสียหาย 4 ล้านไร่ ซึ่งรัฐบาลได้พยายามเร่งแก้ไข แต่ยังพบปัญหาในเรื่องของงบประมาณที่มีจำนวนไม่เพียงพอ
ดังนั้น วันที่ 20 ก.ย.พรรคเพื่อไทยได้จัดแข่งขันฟุตบอลการกุศลนัดอุ่นเครื่องก่อนที่จะเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรที่กัมพูชา ในวันที่ 24 ก.ย.โดยจะเป็นการแข่งขันระหว่างนักการเมืองฝั่งรัฐบาลและทีมรวมดารา ที่นำโดยนายเป็ด เชิญยิ้ม เพื่อหาเงินไปช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะนำเงินดังกล่าวไปซ่อมที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่วนสถานที่จัดการแข่งขัน ได้กำหนดไว้ที่สนามกีฬาการท่าเรือ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น.
**ปชป.จัดดวลแข้งนักข่าว-ดาราช่วยน้ำท่วม
เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ได้เตรียมจัดแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ “น้ำใจคนไทย ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” เช่นกัน โดยจะจัดขึ้นที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(สนามจุ๊บ) ในวันเสาร์ที่ 24 ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษในครั้งนี้จะนำรายได้ทั้งหมดมอบให้แก่ มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อนำไปสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัด ซึ่งจะมีการแข่งขันในแบบพบกันหมด 3 เส้า โดยคู่แรกเป็นการดวลแข้งระหว่าง “ทีมสื่อมวลชน”กับ“ทีมอาราม-บอย เอฟซี”นำโดยออย ธนา สุทธิมล, โก๊ะตี๋ อารามบอย,เรย์ แมคโดนัล,อ้วน รังสิต,เชน ณัฐวัฒน์,ตั๊ก บริบูรณ์,พัทเตอร์ จามิกรณ์ พร้อมด้วยนักร้องนักแสดงชื่อดังมากมาย
ส่วนคู่ที่ 2 “ทีมสื่อมวลชน”กับ “ทีมประชาธิปัตย์” ส่วนคู่ที่ 3 ปิดท้ายด้วยการเวียนมาพบกันระหว่าง “ทีมอารามบอย เอฟซี”กับ “ทีมประชาธิปัตย์”
เมื่อเวลา 08.00 น.วานนี้ (18 ก.ย.) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในขณะนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์นำชุดธารน้ำใจสภากาชาดไทยพระราชทาน พร้อมน้ำดื่ม จำนวน 3,280 ชุด ไปมอบให้แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน ณ วัดสัก ต.ศาลาลอย อ.ท่าเรือ และที่โรงเรียนบางปะอินราชานุเคราะห์ 1 อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวมทั้งสิ้น 13 อำเภอได้แก่ อ.พระนครศรีอยุธยา เสนา บางบาล ผักไห่ บางซ้าย บางไทร บางปะอิน บ้านแพรก บางปะหัน มหาราช นครหลวง อุทัย และ อ.ท่าเรือ สภากาชาดไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการนำชุดธารน้ำใจไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยแล้วกว่า 3,000 ชุด ใน อ.บางบาล และ อ.เสนา
ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2251-7853-6 หรือโทร 1664 หรือบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย ช่วยผู้ประสบอุทกภัย" ประเภทบัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 045-3-04190-6
นำสิ่งของพระราชทานช่วยชาวสิงห์บุรี
วันเดียวกัน เวลา 08.30 น.ที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้แทนพระองค์ในโครงการ หนึ่งใจช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามพระดำริ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัลยา สิริวัฒนารรณวดี ที่ทรงมีความห่วงใย พสกนิกรชาวไทย ที่ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ มีมูลนิธิมิราเคิล เป็นตัวแทน พร้อมด้วยภาครัฐภาคเอกชน ได้ร่วมสมทบสิ่งบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมได้นำถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด และน้ำดื่ม 5,000 ขวด พระราชทานแก่ประชาชน ที่ประสบอุทกภัยในปัจจุบัน ตามโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยขบวนคาราวานช่วยเหลือภัยน้ำท่วม ได้เดินทางออกจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มุ่งสู่วัดโบสถ์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยในพื้นที่ดังกล่าว
ย้ำ8จว.ลุ่มเจ้าพระยารับน้ำล้นตลิ่งสูงขั้น
นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม(ศอส.)เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 26 จังหวัดได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ยโสธร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ ฉะเชิงเทรา นครนายก ตาก สระแก้ว และปราจีนบุรี รวม 165 อำเภอ 1,095 ตำบล 6,915 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 408,783 ครัวเรือน 1,412,357 คน เสียชีวิต 112 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตร 4,043,993 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บ่อปลา 67,618 ไร่ กุ้ง/ปู/หอย 2,284 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบ 3,042,185 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ แยกเป็นทางหลวง 24 สาย ใน 10 จังหวัด ทางหลวงชนบท 49 สายใน 19 จังหวัด
นายฉัตรป้อง กล่าวว่า จากภาวะฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังคงต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากน้ำหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ปัว และ อ.เชียงกลาง จ.น่าน รวมถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำแบบวันต่อวัน โดยเฉพาะในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ เนื่องจากระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้จังหวัดเร่งเสริมกระสอบทรายทำคันดินกั้นน้ำให้สูงขึ้น และอุดรอยรั่วเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของแนวคันกั้นน้ำ รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
นายกฯนำคณะล่องเรือตรวจน้ำท่วม
ที่ จ.นนทบุรีเวลา 11.00 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ นางกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และน.ส.เขมนิจ จามิกรณ์ หรือ แพนเค้ก นักแสดงสาวดาวรุ่ง เดินทางถึงยังเทศบาลปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อพบปะและตรวจเยี่ยมประชาชนริมน้ำเจ้าพระยา พร้อมมอบถุงยังชีพ โดยมี พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.และนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมประชาชนกว่า 50 คนให้การต้อนรับ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อีก 2-3 วันข้างหน้านี้น้ำจะเพิ่มขึ้นสูงมาก เราจึงต้องปั่นกระแสน้ำเพื่อเร่งนำน้ำออก ซึ่งตนเป็นห่วงในพื้นที่กรุงเทพฯ กับนนทบุรี และพื้นที่โดยรอบที่เป็นแหล่งรับน้ำเหนือจึงได้สั่งการให้ผู้ว่าฯทุกจังหวัดเร่งทำเขื่อนหรือแนวกั้นน้ำเพื่อเตรียมป้องกันน้ำเหนือไว้
ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะ ได้ลงเรือไปยังเกาะเกร็ดเพื่อพบปะเยี่ยมเยียนประชาชน และแจกถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย ก่อนที่จะออกเดินทางโดยเรือเพื่อตรวจสถานการณ์น้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในฝั่งตะวันตกไปตามจุดต่างๆ ใน จ.นนทบุรี ที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้แก่วัดฉิมพลี เกาะเกร็ด และเดินทางไปยังมัสยิดท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ชาวมุสลิม
โชว์ฝีมือทอดไก่-ไข่เจียวแจกผู้ประสบภัย
เวลา 13.00 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ เดินทางถึงวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร อ.เมืองนนทบุรี เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นไปบนรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ลงทอดไข่เจียวและทอดน่องไก่ปีกบน เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน จากนั้นได้แวะไปกราบนมัสการพระธรรมกิตติมุนี(สายฐานมังคโล) เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี โดยพระธรรมกิตติมุนี ได้มอบพระพุธทชินราชบูชา จากนั้นได้เดินทางไปสักการะพระบรมรูปพระพุทธเลิศล้านภาลัย พร้อมไปเปิดรถกรองน้ำดื่มเคลื่อนที่ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชน
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ เดินทางไปที่ท่าน้ำนนท์เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก่อนออกเดินทางล่องเรือตรวจสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยแวะสำรวจระดับน้ำที่ท่าน้ำศิริราช ก่อนที่จะไปขึ้นท่าเทียบเรือหอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กทม.
ยันเงินบริจาค363ล้านโปร่งใส
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นนทบุรีโดยมั่นใจว่า เงินบริจาค 363 ล้านบาทมีความโปร่งใส เพราะจะมีการตั้งคณะกรรมการในแต่ละจังหวัดเป็นผู้คัดเลือก โดยในส่วนกลาง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ ตนยังได้พูดคุยเบื้องต้นกับผู้ว่าฯ กทม.และจังหวัดปริมณฑลให้มีการป้องกันน้ำไหลเข้ากรุงเทพฯ ด้วย
11อำเภอลพบุรีอ่วม-สังเวยแล้ว1ศพ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของ จ.ลพบุรี ขณะนี้ได้ท่วมครบทุกอำเภอของจังหวัดแล้วทั้ง 11 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บ้านหมี่ ท่าวุ้ง เมืองลพบุรี โคกสำโรง หนองม่วง พัฒนานิคม สระโบสถ์ ลำสนธิ ท่าหลวง ชัยบาดาล และ อ.โคกเจริญ รวม 100 ตำบล 799 หมู่บ้าน 59 ชุมชน ซึ่งน้ำท่วมใน จ.ลพบุรีขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือ นายอนัน แสนอภัย อายุ 50 ปี ชาว อ.โคกสำโรงเสียชีวิตขณะออกไปหาปลา
สำหรับน้ำที่ท่วมหนักสุดของจังหวัดลพบุรีอยู่ใน 3 อำเภอ คือ อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง อ.เมืองลพบุรี โดยที่ อ.บ้านหมี่ มีน้ำท่วมสูงแล้วเกือบ 3 เมตร หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงต้องใช้เรือในการเข้าออกหมู่บ้าน แต่บางจุดก็ออกไม่ได้เนื่องจากต้องพายเรือไกลมาก ซึ่งพื้นที่บ้านหมี่ที่น้ำท่วมหนักอยู่ที่ตำบลหนองกระเบียน หนองเมือง บ้านกล้วย บ้านทราย หนองทรายขาว พุคา
ส่วนในพื้นที่ อ.เมือง ก็อ่วมไม่แพ้กันโดยที่ ต.ป่าตาล และ ต.เขาพระงาม ถูกตัดขาด ซึ่งที่ ต.เขาพระงาม ระดับน้ำได้ท่วมถนนสายหลักอย่างลพบุรี-โคกสำโรงสูงกว่า 70ซมจนรถเล็กวิ่งไม่ได้ทำให้ติดเกาะเข้าออกไม่ได้ร่วมถึงกระแสน้ำก็ไหล แรงมากด้วยทำให้การใช้เรือก็ลำบาก
ด้านสถานการณ์ของน้ำในอ่าเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เริ่มวิกฤตขึ้นเรื่อยๆ หลังวันเดียวน้ำไหลเข้าในอ่างจำนวนมากจนมีน้ำสะสมอยู่ในอ่างเก็บน้ำที่ 821.75 ล้านลูกบาตรเมตร คิดเป็น 104.68 เปอร์เซ็นต์ของความจุของอ่างเก็บน้ำ แต่ก็ยังพอรับไหวในอีกสัก 2-3 วัน เนื่องจากว่าเขื่อนป่าสักนั้นรับน้ำได้เต็มความจุเกินกว่าลิมิตได้ ที่ 960 ล้านลูกบาตรเมตร ยังเหลือน้ำที่รับได้อีกกว่า 100 ล้านลบ.ม.ก่อนที่จะปรับแผนในการระบายออกจากเขื่อน โดยขอรอดูสถานการณ์น้ำจากแม่น้ำเจ่าพระยาก่อนเพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับผล กระทบหนักจากแม่น้ำทั้ง 2 สาย
เมืองสุโขทัยกลับสู่วิกฤตอีกรอบ
รายงานข่าวจากจังหวัดสุโขทัยแจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ อ.เมือง จ.สุโขทัย วานนี้ (18ก.ย.)ได้กลับเข้าสู่วิกฤตอีกครั้ง หลังจากที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยม เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง ที่ล้นสปิลล์เวย์ และน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย ต.ตลิ่งชัน อ.บ้านด่านลานหอย ไหลลงมาสมทบ ทำให้หลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ปากแคว ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ถูกน้ำท่วมบ้านสูงเกือบ 2 เมตร รวมทั้งห้างร้าน โชว์รูมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โรงแรม และรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจทางฝั่งตะวันตก ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย ก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน
ส่วนถนนสายหลักที่ใช้เดินทางท่องเที่ยว ไปยังอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งแต่บริเวณสี่แยกคลองโพธิ์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลสุโขทัย โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย ไปจนถึงหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี รวมระยะทาง 4 กิโลเมตร ก็ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร รถเล็กสัญจรไม่ได้
ขณะที่หลายหน่วยงาน รวมทั้งโรงพยาบาลสุโขทัย ต้องจัดรถรับส่งให้บริการแก่ประชาชน ญาติและผู้ป่วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทั้งนี้ ที่หมู่ 5 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม คือ ด.ช.กฤษณะ ศรีอรุณนิรันดร์ อายุ 10 ขวบ สาเหตุเกิดจากผู้ตายออกมาเล่นน้ำที่ท่วมขังอยู่หน้าบ้าน แล้วตกลงไปในร่องน้ำริมถนน
ทะลักท่วมย่าน ศก.เมืองสองแคว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลกวานนี้ น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจ ศูนย์ราชการ และสนามกีฬาจังหวัดพิษณุโลก ทำให้ธุรกิจร้านค้าบริเวณถนนหน้าสนามกีฬาจังหวัดต้องหยุดดำเนินกิจการ ขณะที่ร้านค้ารายย่อยต้องขนของย้ายร้านหนีน้ำท่วมกันจ้าละหวั่น ส่งผลให้สูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
วันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งกำลังพลเร่งกรอกกระสอบทราย เพื่อเสริมแนวตลิ่งหน้าพระราชวังจันทน์ เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำน่านไหลทะลักเข้าท่วมโบราณสถาน ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้นำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบจากที่เข้าท่วมขังในพระราชวังจันทน์ตลอดทั้งวัน
พื้นที่ติดเขื่อนลำปาวเมืองน้ำดำวิกฤต
ด้านสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังคงวิกฤตในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอำเภอที่อยู่ติดกับเขื่อนลำปาว ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนหัวเขื่อนหรือท้ายเขื่อนต่างก็ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมนาข้าว และยังมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากในพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขื่อนลำปาวต้องระบายน้ำเพื่อรักษาสมดุลของตัวเขื่อนลำปาว
โดยเฉพาะพื้นที่หัวเขื่อน ด้านบ้านโนนศิลา ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร นาข้าวและไร่อ้อยจนเสียหายบริเวณกว้างซึ่งยังไม่มีการอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ขณะที่บริเวณท้ายเขื่อนขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักและน้ำที่ล้นตลิ่งทั้งลำน้ำปาวและแม่น้ำชีได้ขยายวงกว้างออกเป็น 5 อำเภอที่ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.ร่องคำ โดยระดับน้ำในลำน้ำปาวยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกินจุดวิกฤตแล้ว ราษฎรในพื้นที่ 5 อำเภอต้องเผชิญกับภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่นาข้าวในพื้นที่ชลประทานเกือบ 3 แสนไร่กำลังถูกน้ำท่วม
ขณะที่บริเวณกุดขี้นค ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ถึง 5 ตัว เพื่อสูบน้ำตลอด 24 ชม.ป้องกันน้ำล้นพนังไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรและป้องกันนาข้าวในพื้นที่ด้วย ซึ่งนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม.ทั้ง 18 อำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายและเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที
สั่งผลิตยาสมุนไพรช่วยน้ำท่วม
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เผยว่า หลังจากเกิดน้ำท่วมขังตามจังหวัดต่างๆ กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลางไปช่วยประชาชน โดยเป็นยาชุดช่วยผู้ประสบภัย 827,500 ชุด ยาตำราหลวง 35,500 ชุด ยารักษาน้ำกัดเท้า จำนวน 151,000 หลอด และสำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 600,000 ชุดรวมทั้งยารักษาน้ำกัดเท้า พร้อมกันนี้ได้ให้กรมพัฒนาแพทย์แผนไทยฯ ผลิตยาสมุนไพร ชุดยาภูมิปัญญาไทย เพื่อนำมาช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ตั้งแต่น้ำท่วมเป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาผู้เจ็บ ป่วยในพื้นที่ประสบภัยรวม 1,874 ครั้ง รวมจำนวนผู้รับบริการสะสม 246,757 ราย โรคที่พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ น้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง และโรคเครียด ไม่มีโรคระบาดที่มากับน้ำท่วม
พท.เตรียมจัดบอลการกุศลช่วยน้ำท่วม
นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ กล่าวถึงปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทยว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในเวลานี้ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชนจำนวน 1.4 แสนรายในพื้นที่ 26 จังหวัด ซึ่งล่าสุดมีคนเสียชีวิต 102 คนและสูญหาย 2 คน พื้นที่เกษตรเสียหาย 4 ล้านไร่ ซึ่งรัฐบาลได้พยายามเร่งแก้ไข แต่ยังพบปัญหาในเรื่องของงบประมาณที่มีจำนวนไม่เพียงพอ
ดังนั้น วันที่ 20 ก.ย.พรรคเพื่อไทยได้จัดแข่งขันฟุตบอลการกุศลนัดอุ่นเครื่องก่อนที่จะเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรที่กัมพูชา ในวันที่ 24 ก.ย.โดยจะเป็นการแข่งขันระหว่างนักการเมืองฝั่งรัฐบาลและทีมรวมดารา ที่นำโดยนายเป็ด เชิญยิ้ม เพื่อหาเงินไปช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะนำเงินดังกล่าวไปซ่อมที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่วนสถานที่จัดการแข่งขัน ได้กำหนดไว้ที่สนามกีฬาการท่าเรือ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น.
**ปชป.จัดดวลแข้งนักข่าว-ดาราช่วยน้ำท่วม
เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ได้เตรียมจัดแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ “น้ำใจคนไทย ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” เช่นกัน โดยจะจัดขึ้นที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(สนามจุ๊บ) ในวันเสาร์ที่ 24 ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษในครั้งนี้จะนำรายได้ทั้งหมดมอบให้แก่ มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อนำไปสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัด ซึ่งจะมีการแข่งขันในแบบพบกันหมด 3 เส้า โดยคู่แรกเป็นการดวลแข้งระหว่าง “ทีมสื่อมวลชน”กับ“ทีมอาราม-บอย เอฟซี”นำโดยออย ธนา สุทธิมล, โก๊ะตี๋ อารามบอย,เรย์ แมคโดนัล,อ้วน รังสิต,เชน ณัฐวัฒน์,ตั๊ก บริบูรณ์,พัทเตอร์ จามิกรณ์ พร้อมด้วยนักร้องนักแสดงชื่อดังมากมาย
ส่วนคู่ที่ 2 “ทีมสื่อมวลชน”กับ “ทีมประชาธิปัตย์” ส่วนคู่ที่ 3 ปิดท้ายด้วยการเวียนมาพบกันระหว่าง “ทีมอารามบอย เอฟซี”กับ “ทีมประชาธิปัตย์”