“เด็จพี่” ร่ายยาว!! ปูด “ส.” ล็อกสเปกสร้างสถานีตำรวจทั่วไทย เล็งยื่น สตช.สอบกินงบ 20% ปัด คอ.นธ.ปฏิวัติเงียบครอบงำองค์กรอิสระ ยัน ส.ส.เพื่อไทยคาราวะนักโทษหนีคดีไม่ผิด อ้างหวังผลการทูตเขมร ยังโวยงบไม่พอช่วยน้ำท่วมตามเคย จ่อจัดเตะบอลการกุศลปะทะทีมดาราช่วยน้ำท่วม
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีการทุจริตโครงการสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งใช้งบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็ง 1,400 ล้านบาท ยังสร้างไม่ได้ทั้งที่มีการล็อกสเปกไปแล้ว และมีการแก้ไข TOR เพราะฉะนั้นมีน่าจะมีอำนาจทางการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งมีการโยงไปถึงนักการเมืองในชุดรัฐบาลที่ผ่านมา อักษรย่อ ส.ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานของโครงการตรวจสอบการทุจริต 172 โครงการของรัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งบางสถานีตอนนี้ก็มารื้อถอนเพื่อขยับขยาย แต่ก็ยังไม่ได้สร้างให้เรียบร้อย และพบว่าอาจจะมีการดึงเอาเปอร์เซ็นต์ในการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ตนจะยื่นหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้มีการตรวจสอบ เพราะถือว่าเกิดความสูญเสียของงบประมาณแผ่นดิน และความเสียหายต่อประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางมาใช้บริการเกิดความเดือดร้อน
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. ซึ่งได้มีการออกมาวิจารณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการแต่งตั้งของรัฐบาลมีนัยในการครอบงำการทำงานขององค์กรอิสระ และอาจจะมีการปฏิวัติเงียบ ตนขอปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง การแต่งตั้งคณะทำงานชุดนี้เพื่อศึกษาระบบสองมาตรฐาน ซึ่งการออกมาวิจารณ์เช่นนี้เป็นการวิจารณ์แบบที่มีอคติ เรื่องดังกล่าวเป็นการแต่งตั้งเพื่อการศึกษา ตนจึงขอให้คณะทำงานชุดนี้ได้ทำหน้าที่ก่อนที่จะออกมาติเช่นนี้
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาฯ ได้เดินทางไปประเทศกัมพูชา ซึ่งมีข่าวออกมาว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยและประชาชนเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะตามนิสัยของคนไทยจะพบว่า หากมีผู้ใหญ่ที่เราให้ความเคารพ ก็จะมีการเดินทางไปเยี่ยมเยียน แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์กลับทำเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตื่นเต้น และบอกว่าอาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้นนั้น ตนคิดว่า พรรคประชาธิปัตย์น่าจะมองให้เห็นถึงประโยชน์ของประเทศชาติ นั่นก็คือ เรื่องของการทูตของประเทศไทยกับทางกัมพูชานั้น อาจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แตกต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ว่าจะมีการเจรจากับประเทศใดก็มีแต่ความล้มเหลว ซึ่งการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบฉันมิตร พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่การพูดคุยกันด้วยกระบอกปืนแบบรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ตนขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า อย่ามองเรื่องนี้ว่ามีการเอื้อประโยชน์หรือเป็นประโยชน์ทับซ้อนให้กับใคร แต่ให้มองเรื่องนี้เป็นเชิงบวกบ้าง
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวต่อว่า กรณีปัญหาอุทกภัยได้สร้างความสูญเสียให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมหาศาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยพบว่ายังมีประชาชนเดือดร้อนกว่าอีก 26 จังหวัด และมีตัวเลขประชาชนเดือดร้อนกว่า 1,400,000 ราย และพื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 4 ล้านไร่ ทางพรรคเพื่อไทยก็พยายามที่จะช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน แต่ก็ติดขัดในเรื่องของงบประมาณแผ่นดิน อย่างที่ตนเคยพูดถึงปัญหาเรื่องงบประมาณกลางที่มีเหลือเงินจำนวนน้อยมากกว่าทำงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา แต่พรรคเพื่อไทยก็จะไม่โทษใครและจะพยายามช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนที่สุด เช่นในวันนี้ก็มีการปล่อยคาราวานออกมาไปช่วยชาวบ้านทำผนังกั้นน้ำในหลายๆ จังหวัด ทั้งนี้ทางพรรคเพื่อไทยจะมีการจัดเตะฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ฟาดแข้งกับทีมดารา โดยมีนายเป็ด เชิญยิ้ม เป็นทีมดารา ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ที่สนามการท่าเรือ เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน