หัวหน้าประชาธิปัตย์เยี่ยมน้ำท่วมชาวสิงห์บุรี ยิ้ม สมภารวัดอัมพวันยกคำทำนายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ แนะรักษาตัวจะได้เป็นนายกฯ อีก เจ้าตัวจี้รัฐแจงฟื้นเอ็มโอยู 44 ถกประโยชน์อ่าวไทย โอ่สมัยตนถ้ามีวาระซ้อนเร้นไม่แขวนเอ็มโอยูแล้ว ไม่เหมือน “นช.แม้ว” จ่อลงทุนเขมร ถามตั้ง คอ.นธ.ซ้ำซ้อนทำไม ส่อเพิ่มอำนาจฝ่ายบริหารหรือไม่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ จ.สิงห์บุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเข้านมัสการ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) ที่วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี พร้อมกับสนทนาสถานการณ์น้ำท่วม โดยระหว่างการสนทนา เจ้าอาวาสวัดอัมพวันได้ฝากให้นายอภิสิทธิ์ช่วยติดตามเรื่องการก่อสร้างโรงพยาบาลที่ได้รับการอนุมัติงบจากรัฐบาลที่ผ่านมา 200 กว่าล้านบาท โดยขอร้องว่าอย่าให้มีการยกเลิก และไม่ควรมีการย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดยนายอภิสิทธิ์รับปากติดตามงบประมาณให้ ส่วนการโยกย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นอำนาจของรัฐบาล
หลังการสนทนา หลวงพ่อจรัญ เจ้าอาวาสวัดอัมพวันกล่าวกับนายอภิสิทธิ์ และกลุ่มสื่อมวลชนที่เข้านมัสการว่า เคยได้อ่านคำทนายของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ รู้ใช่ไหมว่าที่ท่านได้เคยทำนายว่าถ้าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงจะทำให้บ้านเมืองเสียหาย จึงขอให้นายอภิสิทธิ์รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี เพราะจะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหนึ่งแน่นอน ให้ดูแลทุกข์สุขชาวบ้านไว้
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ พบกับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา โดยมีรายงานกัมพูชายินดีที่จะเอากรอบเอ็มโอยู 44 มาใช้ในการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะลว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดว่าจะมีแนวทางอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมามีแต่ฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแสดงท่าทีฝ่ายเดียว ทั้งเรื่องการถอนทหาร ความเห็นต่อเรื่องศาลโลก รวมทั้งเรื่องการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนไพบูรณ์ ดังนั้นรัฐบาลควรแสดงท่าที่ด้วยการเริ่มต้นยืนยันกรอบการเจรจา ก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และก่อนที่จะทำสนธิสัญญาต่อไป
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่ได้มีวาระซ้อนเร้น โดยเริ่มต้นด้วยการปรับปรุงกรอบเอ็มโอยู 44 แต่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จเพราะอยู่ในขั้นตอนของรายละเอียดทางเทคนิค และไม่เห็นด้วยกับการลากเส้น แบ่งเขตแดนทางทะเล ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เป็นไปตามสนธิสัญญา เราจึงไม่มีวาระซ้อนเร้น ถ้ามีก็คงไม่แขวนไว้ก่อน ซึ่งแตกต่างจากกรณีของรัฐบาลนี้ เพราะมีข้อมูลหลายทางที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย เตรียมจะดำเนินการทางธุรกิจ ตรงนี้ต่างหากที่ควรจะมีการตรวจสอบ ดังนั้นการพูดถึงเรื่องผลประโยชน์กับรัฐบาลเก่า จึงเป็นเพียงการเบี่ยงประเด็น เพราะถ้ามีจริงเราคงรีบทำไม่แขวนไว้อย่างนี้
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกรณีการตั้งคณะกรรมอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ บอกไม่ขัดต่อกฎหมายและสามารถกระทำได้ ว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะพูดเฉพาะแง่มุมในทางกฎหมาย ว่าทำได้หรือไม่อย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะสังคมพยายามถามถึงความจำเป็นในการตั้งคณะกรรมมการดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้เรามีองค์กรที่ทำงานด้านปฏิรูปกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ที่มีรัฐธรรมนูญรับรองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอยากถามว่าเหตใดจึงต้องตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาอีก และเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายบริหารเข้าไปก้าวล่วงองค์กรต่างๆ มากเกินไป
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเดินหน้าองค์กรนี้จะทำให้เกิดกระแสกดดันให้สังคมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อเสนอที่ออกมาว่าจะเป็นอย่างไร จะเป็นการเพิ่มอำนาจฝ่ายบริหารจนเกินความพอดีหรือไม่ ตรงนี้ตัวของคณะกรรมการต้องอธิบายให้ได้ว่า บทบาทของตัวเองคืออะไร เมื่อถามอีกว่า การตั้งองค์กรนี้อาจจะนำไปสู่การตั้งธงเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลคงลืมไปแล้วว่าเคยบอกว่าจะไม่ตั้งธงแก้รัฐธรรมนูญ