“ลีวายส์” ปรับทิศ ปีหน้าเน้นราคายีนส์ต่ำกว่า 2,000 บาท หวังขยายฐานกลุ่มวัยรุ่นและต่างจังหวัดมากขึ้น ยันไม่สู้ศึกราคาหรือดั๊มเกิน 30%
นายพรศีล บุทกัสกา ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยีนส์ลีวายส์ เปิดเผยว่า บริษัทฯจะรุกขยายตลาดไปยังกลุ่มวัยรุ่นและตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยจะเริ่มอย่างจริงจังปีหน้า จากปัจจุบันที่กลุ่มลูกค้าหลักของลีวายส์จะมีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไปมากกว่า 65-70% แต่กลุ่มวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 30ปีมีเพียง 30-35% เท่านั้น
ทั้งนี้แผนรองรับดังกล่าวจะต้องขยายสินค้าในระดับราคา 1,000 บาทปลายๆมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้จะซื้อสินค้าระดับนี้มาก ซึ่งลีวายส์ก็มีบ้างแต่ไม่ได้เน้นสัดส่วนยอดขาย 20% ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 30% ปีหน้าจะชูสินค้าระดับนี้ในกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น อย่างไรก็ตามลีวายส์คงไม่ลงไปแข่งขันด้านราคา จะรักษาระดับการลดราคาไม่เกิน 30%
สำหรับราคาของกางเกงยีนส์ลีวายส์ยอมรับว่าสูงกว่าคู่แข่งทั้งแบรนด์ไทยและอินเตอร์ด้วยกัน เพราะว่ามาตรฐานการผลิตและคุณภาพวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเป็นแบรนด์ระดับโลก ที่ผ่านมาจะเน้นราคา 2,500 บาทขึ้นไปเป็นหลัก โดยกลุ่มเคิร์ฟไอดีราคา 2,700 บาทขึ้น ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะมีระดับราคา 2,000 บาทต้นๆออกมาจำหน่ายด้วย ส่วนกลุ่มอินดีโก้ ราคาไม่ต่ำกว่า 3,000บาท
ส่วนการขยายชอปลีวายส์นั้นก็จะเน้นเปิดในต่างจังหวัดมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะเปิดชอปใหม่ประมาณ 5 สาขาต่อปี ปีนี้ที่เปิดไปแล้ว เช่น สมุย เชียงราย ต่อไปจะเปิดที่เซ็นทรัลพระรามเก้า ส่วนสาขาลาดพร้าวและบิ๊กซีราชดำริเปิดแล้วหลังจากปิดก่อนหน้านี้เพราะปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งสัดส่วนร้านแบ่งเป็น กทม. 40% และต่างจังหวัด 60%โดยที่ปีหน้าจะเพิ่มงบการตลาดมากกว่าทุกปีที่เคยใช้มา
ล่าสุดเปิดัตวแคมเปญ “Go Forth” แคมเปญระดับโลกเพื่อให้คนรุ่นใหม่กล้าสร้างสิ่งใหม่ๆ ซึ่งจะมีบุคคลตัวอย่างในไทย 2 คนคือ “นานา ไรบีน่า ผู้หญิงขับรถF1คนแรกของไทย” และ “สมศักดิ์ กีตาร์มือเดียว” ศิลปินที่ประสบอุบัติเหตุเหลทอมือเดียวแต่ยังเล่นกีต้าร์ได้ จะใช้ถึงปี 2556 ใช้งบการตลาด 20% จากทั้งปี ผ่านสื่อครบวงจร และลีวายส์ให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ค
ปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าเป็นสมาชิกแล้ว 7,266,635 คนทั่วโลก สำหรับในไทยมีสมาชิกประมาณ 100,000 คน
นายพรศีล กล่วว่า ตลาดยีนส์ในไทยปีนี้แข่งขันรุนแรงด้านราคา โดยตลาดเติบโต 10% จากมูลค่าตลดา 7,000 ล้านบาท ส่วนลีวายส์ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10% เป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์ 40% สัดส่วนรายได้มาจาก กางเกงยีนส์ 75% กลุ่มเสื้อผ้า 25% และกลุ่มเครื่องประดับ 5%
นายพรศีล บุทกัสกา ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยีนส์ลีวายส์ เปิดเผยว่า บริษัทฯจะรุกขยายตลาดไปยังกลุ่มวัยรุ่นและตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยจะเริ่มอย่างจริงจังปีหน้า จากปัจจุบันที่กลุ่มลูกค้าหลักของลีวายส์จะมีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไปมากกว่า 65-70% แต่กลุ่มวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 30ปีมีเพียง 30-35% เท่านั้น
ทั้งนี้แผนรองรับดังกล่าวจะต้องขยายสินค้าในระดับราคา 1,000 บาทปลายๆมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้จะซื้อสินค้าระดับนี้มาก ซึ่งลีวายส์ก็มีบ้างแต่ไม่ได้เน้นสัดส่วนยอดขาย 20% ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 30% ปีหน้าจะชูสินค้าระดับนี้ในกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น อย่างไรก็ตามลีวายส์คงไม่ลงไปแข่งขันด้านราคา จะรักษาระดับการลดราคาไม่เกิน 30%
สำหรับราคาของกางเกงยีนส์ลีวายส์ยอมรับว่าสูงกว่าคู่แข่งทั้งแบรนด์ไทยและอินเตอร์ด้วยกัน เพราะว่ามาตรฐานการผลิตและคุณภาพวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเป็นแบรนด์ระดับโลก ที่ผ่านมาจะเน้นราคา 2,500 บาทขึ้นไปเป็นหลัก โดยกลุ่มเคิร์ฟไอดีราคา 2,700 บาทขึ้น ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะมีระดับราคา 2,000 บาทต้นๆออกมาจำหน่ายด้วย ส่วนกลุ่มอินดีโก้ ราคาไม่ต่ำกว่า 3,000บาท
ส่วนการขยายชอปลีวายส์นั้นก็จะเน้นเปิดในต่างจังหวัดมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะเปิดชอปใหม่ประมาณ 5 สาขาต่อปี ปีนี้ที่เปิดไปแล้ว เช่น สมุย เชียงราย ต่อไปจะเปิดที่เซ็นทรัลพระรามเก้า ส่วนสาขาลาดพร้าวและบิ๊กซีราชดำริเปิดแล้วหลังจากปิดก่อนหน้านี้เพราะปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งสัดส่วนร้านแบ่งเป็น กทม. 40% และต่างจังหวัด 60%โดยที่ปีหน้าจะเพิ่มงบการตลาดมากกว่าทุกปีที่เคยใช้มา
ล่าสุดเปิดัตวแคมเปญ “Go Forth” แคมเปญระดับโลกเพื่อให้คนรุ่นใหม่กล้าสร้างสิ่งใหม่ๆ ซึ่งจะมีบุคคลตัวอย่างในไทย 2 คนคือ “นานา ไรบีน่า ผู้หญิงขับรถF1คนแรกของไทย” และ “สมศักดิ์ กีตาร์มือเดียว” ศิลปินที่ประสบอุบัติเหตุเหลทอมือเดียวแต่ยังเล่นกีต้าร์ได้ จะใช้ถึงปี 2556 ใช้งบการตลาด 20% จากทั้งปี ผ่านสื่อครบวงจร และลีวายส์ให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ค
ปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าเป็นสมาชิกแล้ว 7,266,635 คนทั่วโลก สำหรับในไทยมีสมาชิกประมาณ 100,000 คน
นายพรศีล กล่วว่า ตลาดยีนส์ในไทยปีนี้แข่งขันรุนแรงด้านราคา โดยตลาดเติบโต 10% จากมูลค่าตลดา 7,000 ล้านบาท ส่วนลีวายส์ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10% เป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์ 40% สัดส่วนรายได้มาจาก กางเกงยีนส์ 75% กลุ่มเสื้อผ้า 25% และกลุ่มเครื่องประดับ 5%
