ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ซีพีเอฟรับ 54 รางวัลความปลอดภัยระดับประเทศ ตอกย้ำภาพลักษณ์ใส่ใจความปลอดภัยสูงสุด
นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทสามารถคว้ารางวัล “สถานประกอบกิจการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน” และรางวัล“เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ดีเด่นระดับประเทศ” ประจำปี 2554 ได้ถึง 54 รางวัล
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนโยบายและระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม หรือ CPF SHE Management System ของบริษัทที่คำนึงถึงหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยเป็นสำคัญ ตลอดจนมีการติดตามและรายงานผลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซีพีเอฟได้รับรางวัลเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มีโรงงานของซีพีเอฟถึง 5 แห่งที่ได้รับรางวัลติดต่อกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ได้แก่ 1.) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด-(โรงงานพิษณุโลก) จ. พิษณุโลก 2.)บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน จำกัด(มหาชน)-(โรงงานโคกกรวด) จ.นครราชสีมา 3.) บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร จำกัด(มหาชน)-(โรงงานลำพูน) จ.ลำพูน และ 4.) บริษัท บี.พี.อาหารสัตว์ จำกัด จ.สระบุรี และ 5.) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (โรงงานอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุ) จ.สงขลา
ขณะที่รางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่นระดับประเทศในปีนี้ เป็นของซีพีเอฟถึง 4 รางวัล จากทั้งประเทศที่มีเพียง 7 รางวัล ได้แก่ นายยศวัฒน์ บวรธนกิจไพศาล -โรงงานอาหารสัตว์ปักธงชัย นายเชลง งามสม -โรงงานอาหารสัตว์ พิษณุโลก นางสาวจุฑาทิพย์ ขรรค์ชัยศักดิ์ -โรงงานอาหารแปรรูปสัตว์น้ำ มหาชัย และ นายชุติพนธ์ อุปการ - โรงงานอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุ
โรงงานอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุนี้ นับเป็นหน่วยงานที่ได้รางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่นระดับประเทศติดต่อกันถึง 3 คน ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบัน
“ปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่ซีพีเอฟประสบความสำเร็จ การที่เราได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องทุกปี เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีต่อพนักงาน ที่ไม่เพียงส่งผลดีต่อพนักงานหรือบุคลากรในด้านขวัญและกำลังใจในการทำงาน และทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังส่งผลเป็นลูกโซ่ไปยังกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพทั้งต่อระบบการผลิตและผลิตภัณฑ์ ท้ายสุดแล้วเมื่อผลิตสินค้าได้คุณภาพดี ก็จะย้อนกลับมาสู่ผู้บริโภคที่จะได้บริโภคสินค้าที่ดีมีคุณภาพ” นายวีรชัยกล่าว
โรงงานทุกแห่งของซีพีเอฟต้องผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตในระดับสากล อาทิ GMP, HACCP, ISO 9001, IFS, BRC Global Standard-Food, HALAL, ISO 14001-Environment Management System, Social Accountability (SA 8000), รวมถึง Thai Labor Standard (มาตรฐานแรงงานไทย-มรท), OHSAS 18001 (Occupational Health and Safety System) หรือ ACC (Aquaculture Facility Certification) และทุกแห่งจะปฏิบัติตามกฏหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด
นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทสามารถคว้ารางวัล “สถานประกอบกิจการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน” และรางวัล“เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ดีเด่นระดับประเทศ” ประจำปี 2554 ได้ถึง 54 รางวัล
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนโยบายและระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม หรือ CPF SHE Management System ของบริษัทที่คำนึงถึงหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยเป็นสำคัญ ตลอดจนมีการติดตามและรายงานผลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซีพีเอฟได้รับรางวัลเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มีโรงงานของซีพีเอฟถึง 5 แห่งที่ได้รับรางวัลติดต่อกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ได้แก่ 1.) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด-(โรงงานพิษณุโลก) จ. พิษณุโลก 2.)บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อีสาน จำกัด(มหาชน)-(โรงงานโคกกรวด) จ.นครราชสีมา 3.) บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร จำกัด(มหาชน)-(โรงงานลำพูน) จ.ลำพูน และ 4.) บริษัท บี.พี.อาหารสัตว์ จำกัด จ.สระบุรี และ 5.) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (โรงงานอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุ) จ.สงขลา
ขณะที่รางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่นระดับประเทศในปีนี้ เป็นของซีพีเอฟถึง 4 รางวัล จากทั้งประเทศที่มีเพียง 7 รางวัล ได้แก่ นายยศวัฒน์ บวรธนกิจไพศาล -โรงงานอาหารสัตว์ปักธงชัย นายเชลง งามสม -โรงงานอาหารสัตว์ พิษณุโลก นางสาวจุฑาทิพย์ ขรรค์ชัยศักดิ์ -โรงงานอาหารแปรรูปสัตว์น้ำ มหาชัย และ นายชุติพนธ์ อุปการ - โรงงานอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุ
โรงงานอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุนี้ นับเป็นหน่วยงานที่ได้รางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่นระดับประเทศติดต่อกันถึง 3 คน ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบัน
“ปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่ซีพีเอฟประสบความสำเร็จ การที่เราได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องทุกปี เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีต่อพนักงาน ที่ไม่เพียงส่งผลดีต่อพนักงานหรือบุคลากรในด้านขวัญและกำลังใจในการทำงาน และทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังส่งผลเป็นลูกโซ่ไปยังกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพทั้งต่อระบบการผลิตและผลิตภัณฑ์ ท้ายสุดแล้วเมื่อผลิตสินค้าได้คุณภาพดี ก็จะย้อนกลับมาสู่ผู้บริโภคที่จะได้บริโภคสินค้าที่ดีมีคุณภาพ” นายวีรชัยกล่าว
โรงงานทุกแห่งของซีพีเอฟต้องผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตในระดับสากล อาทิ GMP, HACCP, ISO 9001, IFS, BRC Global Standard-Food, HALAL, ISO 14001-Environment Management System, Social Accountability (SA 8000), รวมถึง Thai Labor Standard (มาตรฐานแรงงานไทย-มรท), OHSAS 18001 (Occupational Health and Safety System) หรือ ACC (Aquaculture Facility Certification) และทุกแห่งจะปฏิบัติตามกฏหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด