ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราชรวบ 2 พลทหารแสบ ตระเวนลักทรัพย์บ้านเรือน ปชช.มาแล้ว 13 ครั้ง พร้อมของกลางจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่ช่วงชาวบ้านออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา แอบเข้าไปงัดประตูกวาดทรัพย์สินเกลี้ยง ส่งขายต่อให้โรงรับจำนำ อ้างลางานมาขโมยหาเงินเลี้ยงลูกที่เพิ่งคลอด
วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรกต สาริยา รองผบช.ภ.3, พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.อ.วิวัฒน์ ลีลาเขต ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ปักธงชัย ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งลักทรัพย์ในเคหะสถานรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหาเป็นพลทหารจำนวน 2 นาย คือ พลทหารบุญนำ ศรีทะโร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ 14 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ทหารเกณฑ์สังกัดกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และ พลทหารธีรวุฒิ ภูวงยางนอก อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 1 ต.คูเมือง อ.มหาชัย จ.บุรีรัมย์ ทหารเกณฑ์สังกัด ผชร.1 พัน 4 รอ.ได้พร้อมของกลางส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า พระเครื่อง และคอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมามีเหตุลักทรัพย์ในเคหสถาน ในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียงหลายครั้ง ชุดสืบสวน สภ.ปักธงชัย จึงทำการสืบสวนจนทราบว่ามีชายวัยรุ่นสองคนขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า โซลูน่า สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า ตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน จึงแกะรอยติดตาม จนพบรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ อ.ปักธงชัย เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นพบของกลาง ทั้งโทรทัศน์, เครื่องเล่นดีวีดี, เครื่องคอมพิวเตอร์, เครื่องดูดฝุ่น, เบ็ดตกปลา และ พระเครื่องจำนวนหลายรายการ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการลักทรัพย์ดังกล่าวมาจากพื้นที่ อ.ปักธงชัย และ พื้นที่ใกล้เคียง โดยจะขับรถตระเวนดูตามบ้านพักที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านออกไป หรือบ้านที่ไม่มีคนอยู่ เมื่อสบจังหวะจะฉวยโอกาสใช้ไขควงงัดประตูเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้าน โดยเฉพาะในวันเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา จะใช้โอกาสช่วงที่ประชาชนออกไปใช้สิทธิงัดเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านพักจำนวนหลายหลัง
ในช่วงเดือนเดียวได้เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านพักของประชาชนมาแล้ว 13 ครั้ง แบ่งเป็นในพื้นที่ ปักธงชัย 6 ครั้ง, วังน้ำเขียว 1 ครั้ง,ปากช่อง 1 ครั้ง, ครบุรี 1 ครั้ง, โพธิ์กลาง 2 ครั้งและ อ.กบินทร์บุรี อีก 1 ครั้ง ซึ่งทรัพย์สินที่ขโมยมาจะนำไปขายต่อให้โรงรับจำนำในตัวเมืองนครราชสีมาราคาชิ้นละ 500-2,000 บาท เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ซึ่งขณะนี้ภรรยาเพิ่งคลอดบุตรไม่มีเงินค่าเลี้ยงดูจึงได้ลางานมาขโมยของเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายดังกล่าว
