ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ ย่านชุมชนตลาดสดเมืองปักธงชัย โคราช เผาวอดอาคารพาณิชย์ไม้ 2 ชั้น กว่า 25 คูหา บ้านเรือนอีก 20 หลัง คาดสูญกว่า 100 ล้าน ซ้ำเติมหลังเพิ่งประสบอุทกภัยครั้งรุนแรงรอบ 30 ปี เมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมา เผย บาดเจ็บ 9 ราย “บุญจง” มท.2 รุดสั่งการที่เกิดเหตุ ฉุนหน่วยดับเพลิงไม่พร้อมทำไฟลุกลามเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เตรียมสั่งท้องถิ่นเพิ่มประสิทธิภาพทบทวนแผนปฏิบัติการระงับเพลิงและอุบัติภัยต่างๆ ใหม่ทั้งหมด ขณะ “นายกฯมาร์ค” โร่ตรวจเยี่ยม ปชช.ประสบเหตุ
วันนี้ (27 มี.ค.) เวลา 08.45 น. ร.ต.อ.สุภเวช ชูอาวุธ พนักงานสอบสวน สภ.ปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ย่านชุมชนตลาดเมืองปัก กลางเมืองเขตเทศบาลเมืองปักธงชัย อ.ปักธงชัย มีอาคารร้านค้าของประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ อ.ปักธงชัย และอำเภอใกล้เคียง รวมทั้งเทศบาลนครนครราชสีมา ให้นำรถน้ำรถดับเพลิงกว่า 50 คัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย เข้าสกัดเพลิงโดยเร่งด่วน
ในที่เกิดเหตุเป็นชุมชนตลาดเมืองปัก ตั้งอยู่กลางเมืองเขตเทศบาลเมืองปักธงชัย ซึ่งเป็นชุมนุมย่านเศรษฐกิจการค้า มีอาคารพาณิชย์ ร้านค้า ปลูกติดกันเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ไม้ขนาด 2 ชั้น อายุเก่าแก่กว่า 40 ปี กำลังถูกเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และรวดเร็วได้รับความเสียหายประมาณ 25 คูหา
เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปยังคูหาข้างเคียงและฝั่งตรงข้ามอีกฟากของถนน ท่ามกลางเสียงระเบิดของถังแก๊สที่อยู่ภายในอาคารถูกเพลิงไหม้ระเบิดขึ้นเป็นระยะๆ โดยมีประชาชนมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องนำเชือกมากั้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป และขอความร่วมมือให้ประชาชนออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้กีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
ขณะเกิดเหตุ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายประนอม โพธิ์คำ ส.ส.จ.นครราชสีมา, นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เดินทางเข้ามาอำนวยการดับเพลิงในที่เกิดเหตุอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เพราะสถานที่เกิดเหตุเป็นอาคารไม้ปลูกติดกันเป็นแถว และมีสินค้านานาชนิดอยู่ภายในร้าน ประกอบกับมีลมพัดแรงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เพลิงโหมลุกไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วยากแก่การควบคุม เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจทุบอาคารไม้ที่อยู่ติดกับอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ เพื่อจำกัดเพลิงไม่ให้ขยายวงกว้าง ก่อนระดมฉีดน้ำเข้าดับเพลิง กระทั่งสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในประมาณ เวลา 10.30 น.
ร.ต.อ.สุภเวช ชูอาวุธ พนักงานสอบสวน สภ.ปักธงชัย เปิดเผยว่า ต้นเพลิงเป็นอาคารพาณิชย์ครึ่งปูนครึ่งไม้ขนาด 2 ชั้น เลขที่ 171/9 ซึ่งเป็นร้านขายของชำ ยังไม่ทราบชื่อเจ้าของร้านตั้งอยู่ติดกับตลาดสดเทศบาลเมืองปัก โดยเพลิงเริ่มลุกลามจากบริเวณชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเป็นไม้เก่าแก่อายุราว 40 ปี ก่อนลุกลามมาไปยังอาคารข้างเคียงที่ปลูกอยู่ติดกันเป็นแถวอีกกว่า 25 คูหา รวมทั้งบ้านเรือราษฎรอีก 20 หลังคาเรือน ได้ัรับความเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุถือเป็นย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้าขายของ อ.ปักธงชัย
ล่าสุด ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 9 ราย สาหัส 5 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผลถูกไฟคลอกเล็กน้อย สำลักควัน และ มีเจ้าของบ้าน 1 ราย ตัดสินใจกระโดดหนีไฟลงมาจากบริเวณชั้น 2 ของได้รับบาดเจ็บแขนหัก ทั้งหมดถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลปักธงชัย อ.ปักธงชัย ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
ทางด้าน นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ยอมรับว่า มีปัญหาในเรื่องของการเข้าทำการระงับเพลิงของหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ จึงทำให้เพลิงเกิดการลุกลามจนเสียหายเป็นบริเวณกว้าง แต่เข้าใจว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยที่ไม่มีใครคาดคิด
หลังจากนี้ ตนจะสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ทบทวนแผนการปฏิบัติการระงับเพลิงและอุบัติภัยต่างๆ ใหม่ทั้งหมด ทั้งในส่วนของอุปกรณ์ดับเพลิงที่ยังมีปัญหาอยู่หลายจุด เช่น อุปกรณ์ฉีดน้ำ รถดับเพลิงที่อยู่ในสภาพเก่าทรุดโทรม เพื่อให้หน่วยดับเพลิงในแต่ละพื้นที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้มีการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ขึ้นเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ต้องประสบกับภัยพิบัติ 2 ครั้งติดต่อกันในระยะเวลาใกล้เคียงกัน คือ เพิ่งประสบอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และมาประสบเหตุอัคคีภัยในครั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งยืนยันว่าทางกระทรวงมหาดไทยจะช่วยเหลือประชาชนเหล่านี้อย่างเต็มที่” นายบุญจง กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ล่าสุดวันเดียวกันนี้ ( 27 มี.ค.) เวลาประมาณ 12.45 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ คณะ ได้เดินทางมาปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เรื่อง การดำเนินงานโครงการสวัสดิการชุมชนและแนวทางการปฏิรูประบบสวัสดิการชุมชนสู่การปฏิรูปจังหวัดนครราชสีมา ที่ ห้องประชุมอนุสรณ์ 70 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าวแล้วนายอภิสิทธิ์และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจดูที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง พร้อมเยี่ยมประชาชนผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่ย่านชุมชนตลาดเมืองปักธงชัย อ.ธงชัย จ.นครราชสีมา ดังกล่าวทันที
พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทางจังหวัดนครราชสีมาจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลังเบื้องต้นจำนวนครอบครัวละ 10,000 บาท พร้อมกับประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เร่งช่วยเหลือเรื่องที่พักอาศัย เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม อาหาร น้ำดื่ม แก่ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อ.ปักธงชัย เป็นพื้นที่ที่ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเป็นอำเภอเป็นเมืองเศรษฐกิจต้องให้ความสำคัญ ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาในส่วนของทางราชการมีระเบียบการให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว ซึ่งให้ดำเนินการได้ทันที เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ