ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “นายกฯมาร์ค” โผล่โคราช โอ่ผลงานตลอดเวลา 2 ปี รัฐบาลมุ่งสร้างสวัสดิการ ปชช.และหลักประกันความมั่นคงในชีวิตให้ดีขึ้น พร้อมโร่ลงพื้นที่ อ.ปักธงชัย ตรวจเยี่ยมผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ เผยเบื้องต้นมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 1 หมื่นบาท จัดหาที่พักอาศัยชั่วคราว และสั่งเร่งฟื้นฟูบ้านให้ ปชช.
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.45 น.ที่หอประชุม 70 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, คุณหญิง สุพัตรา มาศดิตถ์ และ พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส. สัดส่วนพรรคประชาชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางมาเป็นประธานการจัดงาน “ปฏิรูปสวัสดิการชุมชนและท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา” โดยมี นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ ซึ่งมีผู้นำท้องถิ่นและประชาชนใน จ.นครราชสีมา เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวดกว่า 200 นายที่ตรึงกำลังโดยรอบห้องประชุม และได้ทำการปิดการจราจร ถนนสุรนารายณ์ ช่วงที่ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ทั้ง 2 ด้าน
ทั้งนี้ เพื่อกำหนดทิศทางการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐต่อการพัฒนาศักยภาพกองทุนสวัสดิการฯ ให้ครอบคลุมทั้ง จ.นครราชสีมา พร้อมยกระดับสู่การปฏิรูปสวัสดิการชุมชน โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนระดับฐานรากมีค่านิยมในการส่งเสริมการออมการลดรายจ่ายลงวันละ 1 บาท การเกื้อกูล ช่วยเหลือกัน โดยใช้ภูมิปัญญาฟื้นทุนภายในชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่น กลายเป็นสายใยรักของชุมชนที่จะนำไปสู่ความมั่นคงของคุณภาพชีวิตทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงินภายใต้วิถีชีวิตของชุมชน
สำหรับ จ.นครราชสีมา มีการดำเนินการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการฯ แล้ว 98 กองทุน ครอบคลุม 24 อำเภอ ได้รับงบประมาณแล้วกว่า 44 กองทุน สมทบงบประมาณ 3.62 ล้านบาท มีสมาชิกรวม 200,263 คน โดยมีการจัดสวัสดิการครอบคลุมตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ และ ตาย ทุนการศึกษา การพัฒนาอาชีพ เป็นต้น
นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้เดินทางมาที่ จ.นครราชสีมา โดย 2 ครั้งสุดท้ายที่ได้เดินทางมาเป็นช่วงที่ประชาชนประสบกับความยากลำบากจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น และได้เห็นถึงความเข้มแข็งของประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ในการที่จะต่อสู้กับความยากลำบากในช่วงนั้น และโครงการปฏิรูปสวัสดิการฯ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะทำให้ประชาชนมีความเข้มแข็ง
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการที่ประชาชนจะต้องมีสวัสดิการและหลักประกันความมั่นคงของชีวิตมากยิ่งขึ้น เราได้มีการดำเนินการในการขยายและริเริ่มหลายนโยบายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ เช่น การดูแลเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคนพิการ และโครงการต่างๆ ที่จะเสริมสร้างในเรื่องรายได้ของประชาชน เช่น การประกันรายได้ของเกษตรกรล้วนแล้วแต่ต้องการที่จะช่วยเหลือประชาชนในเรื่องสวัสดิการทั้งสิ้น
“ข้อเท็จจริงที่ยังปฏิเสธไม่ได้คือว่า การใช้งบประมาณของรัฐบาลอย่างเดียวคงตอบสนองประชาชนไม่ได้ เพราะประเทศเรานั้นมีขีดจำกัดในเรื่องทรัพยากร ในเรื่องงบประมาณรายได้จากการจัดเก็บภาษีอากร โดยเฉพาะในอนาคตประเทศของเราจะเป็นสังคมผู้สูงอายุในเวลาค่อนข้างรวดเร็ว ฉะนั้น ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมในการร่วมช่วยเหลือกัน สิ่งที่รัฐบาลจะได้เน้นว่าทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังตลาดอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังประชาชนผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ครั้งใหญ่ท่ามกลางการรอต้อนรับของประชาชนชาวอำเภอปักธงชัยเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายอภิสิทธิ์ ได้รับปากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ว่า รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 10,000 บาท และถุงยังชีพพร้อมจัดที่พักอาศัยช่วยครัวให้อยู่ไปก่อน เพื่อเป็นการเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัย
“ตอนนี้ได้ระดมความช่วยเหลือเข้ามาแล้ว ซึ่งผู้ที่เสียหายต้องการให้ทางรัฐเร่งช่วยเหลือที่อยู่อาศัยให้ฟื้นฟูกลับมา ซึ่งจะไปหารือกันอีกครั้งว่า แนวทางไหนจะทำได้เร็วที่สุด ส่วนการให้ความช่วยเหลือนั้นมีระเบียบชัดเจนอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่สูญเสียบ้านทั้งหลังหรือบางส่วน ตอนนี้ก็ต้องดูแลผู้บาดเจ็บ และที่พักอาศัย อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจ ทุกคนทราบดีว่าเป็นทุกข์ซ้ำ 2 ที่เกิดขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ชุมชนตลาดสดปักธงชัย เคยประสบปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดในรอบ 30 ปี เมื่อเดือน ต.ค.53 ที่ผ่านมา และล่าสุด เมื่อเช้าวันนี้ (27 มี.ค.) ได้เกิดเหตุครั้งไหม้ครั้งใหญ่ซ้ำขึ้นอีก ส่งผลให้ร้านค้า บ้านเรือนราษฎร เสียหายกว่า 50 คูหา มีบาดเจ็บ 9 คน สาหัส 5 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 60-100 ล้านบาท สำหรับสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยต้นเพลิงเกิดจากร้านขายของชำเลขที่ 171/12 หมู่ 11 ชุมชนตำบลเมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา