ASTVผู้จัดการรายวัน -กรมป่าไม้จัดสัมมนาแนวทางการผลิตกล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนัก การปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการกระบวนการผลิตกล้าไม้ที่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดจากการใช้สารเคมี ทั้งจากปุ๋ย และยาฆ่าแมลงตลอดจนสารกำจัดวัชพืช
นายประยุทธ หล่อสุวรรณศิริ รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวในการเป็นประธานเปิดงานการสัมมนาทางวิชาการ เรื่องแนวทางการผลิตกล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมว่า กรมป่าไม้มีการผลิตกล้าไม้ประมาณ 20-30 ล้านกล้าต่อปี เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในโครงการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่ป่าให้กลับมาสมบูรณ์ รวมทั้งใช้ในการส่งเสริมการปลูกสร้างสวนป่าไม้เศรษฐกิจ เพื่อนำไม้มาใช้ประโยชน์ให้มีไม้ใช้สอยเพียงพอกับความต้องการทั้งด้านพลังงานทดแทนและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ของประเทศ ซึ่งขบวนการผลิตกล้าไม้ดังกล่าวต้องปลอดจากการใช้สารเคมี หรือสารพิษที่ตกค้างหลังจากการใช้งาน ออกสู่สิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
สำหรับการดำเนินงานกรมป่าไม้ได้จัดสัมมนาให้ความรู้กับบุคลากรในสำนักส่งเสริมการปลูกป่าส่วนเพาะชำกล้าไม้ทุกจังหวัดทั่วประเทศมาอบรมเพิ่มพูนความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านการผลิตกล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเรื่องการใช้วัสดุเพาะชำกล้าไม้เพื่อสิ่งแวดล้อม การใช้สารสกัดทางธรรมชาติต่างๆ เพื่อทดแทนการใช้สารเคมี โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เช่นการใช้สารสกัดสมุนไพรในการป้องกันกำจัดโรคและแมลง การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพสำหรับกล้าไม้ จากสำนักเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน กรมพัฒนาที่ดิน การใช้วัสดุย่อยสลายได้ในการเพาะชำกล้าไม้ จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ แนวทางการจัดการป่าไม้สำหรับคาร์บอน เครดิต จากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก(องค์กรมหาชน) เป็นต้น
“อย่างไรก็ตามในการดำเนินงานของส่วนเพาะชำกล้าไม้ สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ ถือว่าเป็นหน่วยงานหลักในการผลิตกล้าไม้สำหรับเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดภาวะโลกร้อน และมีส่วนสำคัญในการผลิตไม้ให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไม้ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยต้องนำเข้าไม้จากต่างประเทศทำให้เสียเงินตราไปปีหนึ่งนับแสนล้านบาท และในอนาคตต่อไปไม้จะยิ่งมีความสำคัญในการที่จะนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงจากธรรมชาติประเภทฟอสซิล อย่างน้ำมัน ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ การผลิตกล้าไม้จึงนับวันว่าจะต้องมีปริมาณเพิ่มขึ้นการพํมนาศักยภาพและขวนการผลิตก็ยิ่งมีความสำคัญ หวังว่าการสัมมนาครั้งนี้จะช่วยให้การผลิตกล้าไม้มีประสิทธิภาพ และได้กล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ดูแลกล้าไม้ก็จะได้มีสุขภาพที่ดีปฏิบัติงานเพื่อประชาชนต่อไป”นายประยุทธ กล่าว
นายประยุทธ หล่อสุวรรณศิริ รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวในการเป็นประธานเปิดงานการสัมมนาทางวิชาการ เรื่องแนวทางการผลิตกล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมว่า กรมป่าไม้มีการผลิตกล้าไม้ประมาณ 20-30 ล้านกล้าต่อปี เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในโครงการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่ป่าให้กลับมาสมบูรณ์ รวมทั้งใช้ในการส่งเสริมการปลูกสร้างสวนป่าไม้เศรษฐกิจ เพื่อนำไม้มาใช้ประโยชน์ให้มีไม้ใช้สอยเพียงพอกับความต้องการทั้งด้านพลังงานทดแทนและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ของประเทศ ซึ่งขบวนการผลิตกล้าไม้ดังกล่าวต้องปลอดจากการใช้สารเคมี หรือสารพิษที่ตกค้างหลังจากการใช้งาน ออกสู่สิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
สำหรับการดำเนินงานกรมป่าไม้ได้จัดสัมมนาให้ความรู้กับบุคลากรในสำนักส่งเสริมการปลูกป่าส่วนเพาะชำกล้าไม้ทุกจังหวัดทั่วประเทศมาอบรมเพิ่มพูนความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านการผลิตกล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเรื่องการใช้วัสดุเพาะชำกล้าไม้เพื่อสิ่งแวดล้อม การใช้สารสกัดทางธรรมชาติต่างๆ เพื่อทดแทนการใช้สารเคมี โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เช่นการใช้สารสกัดสมุนไพรในการป้องกันกำจัดโรคและแมลง การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพสำหรับกล้าไม้ จากสำนักเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน กรมพัฒนาที่ดิน การใช้วัสดุย่อยสลายได้ในการเพาะชำกล้าไม้ จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ แนวทางการจัดการป่าไม้สำหรับคาร์บอน เครดิต จากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก(องค์กรมหาชน) เป็นต้น
“อย่างไรก็ตามในการดำเนินงานของส่วนเพาะชำกล้าไม้ สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ ถือว่าเป็นหน่วยงานหลักในการผลิตกล้าไม้สำหรับเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดภาวะโลกร้อน และมีส่วนสำคัญในการผลิตไม้ให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไม้ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยต้องนำเข้าไม้จากต่างประเทศทำให้เสียเงินตราไปปีหนึ่งนับแสนล้านบาท และในอนาคตต่อไปไม้จะยิ่งมีความสำคัญในการที่จะนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงจากธรรมชาติประเภทฟอสซิล อย่างน้ำมัน ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ การผลิตกล้าไม้จึงนับวันว่าจะต้องมีปริมาณเพิ่มขึ้นการพํมนาศักยภาพและขวนการผลิตก็ยิ่งมีความสำคัญ หวังว่าการสัมมนาครั้งนี้จะช่วยให้การผลิตกล้าไม้มีประสิทธิภาพ และได้กล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ดูแลกล้าไม้ก็จะได้มีสุขภาพที่ดีปฏิบัติงานเพื่อประชาชนต่อไป”นายประยุทธ กล่าว