ลำปาง - กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพจังหวัดลำปาง ยื่นรายชื่อชาวบ้านผู้ถือครองที่ดินอีกเกือบ 300 ราย กับนายอำเภอเมืองลำปาง ขอให้ออกออกโฉนดในพื้นที่ที่ราษฎรครอบครองและอยู่นอกเขตป่าแม่เมาะแปลง 2 รวมราว 2.7 หมื่นไร่ ขณะที่ นอภ.เผย ป.ป.ท.เตรียมเพิกถอนโฉนด 2,000 ไร่ ในพื้นที่เดียวกัน ที่มีการออกเอกสรรสิทธิโดยมีชอบให้กับนักการเมืองท้องถิ่น
รายงานจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า นายบุญสม ชมพูมิ่ง ประธานกรรมการกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านใน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้านเป้า ตำบลต้นธงชัย ตำบลบ้านเอื้อม และตำบลบ่อแฮ้ว ได้นำเอกสารรายชื่อของชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดิน ซึ่งอยู่นอกเขตป่าไม้ถาวรตามติคณะรัฐมนตรีวันที่ 14 ก.ย.2520 และมติวันที่28 พ.ค.2528 (ป่าแม่แมาะแปลง 2) จำนวน 267 ราย ยื่นต่อนายมงคล สุกใส นายอำเภอเมืองลำปาง เพื่อให้ออกโฉนดในที่ดินดังกล่าว ซึ่งรวมพื้นที่ที่สามารถออกโฉนดได้ทั้งสิ้น 27,000 ไร่ และได้ออกโฉนดไปแล้วประมาณ 80% ซึ่งส่วนที่เหลืออีก 20% จำได้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จต่อไปโดยจะมีการส่งรายชื่อทั้งหมดให้กับคณะปฎิรูปที่ดินแห่งชาติในเดือน พ.ย.นี้
ทั้งนี้ นายบุญสม กล่าวว่า จากที่ได้ต่อสู้กันมาจนอายุปาเข้าไปกว่า 50 ปี มาถึงวันนี้รู้สึกดีใจมากแล้วที่ชาวบ้านจริงๆ อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมาเกือบตลอดชีวิตจะได้เอกสารสิทธิในที่ดินเป็นของตนเองเสียที ขณะที่ผู้ที่มีอำนาจและกระทำการใดๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายก็จะได้รับการลงโทษ
ส่วนพื้นที่ป่าที่ชาวบ้านจะได้กลับคืนมานั้น ทางชาวบ้านก็จะช่วยกันปลูกป่าให้เป็นพื้นที่สีเขียวของชุมชนต่อไปเพื่อจะได้ฟื้นผืนป่าให้กับมามีความอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม ชาวบ้านที่เคยเก็บหาของป่าหากินกับป่าก็จะได้กลับมาทำมาหากินได้เหมือนเดิมแม้จะต้องใช้เวลาก็ตาม
ด้าน นายมงคล สุกใส นายอำเภอเมือง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าแม่เมาะแปลง 2 ซึ่งมีปัญหายื้อเยื้อมานานขณะนี้หลังจากการที่มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานร่วมกันเพื่อหาข้อยุติรวมทั้งหน่วยงานของ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช.เข้าร่วมด้วย ทำให้งานเดินเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการแบ่งพื้นที่ป่าแม่เมาะทั้งหมดซึ่งมีพื้นที่ 55,000 ไร่ ออกเป็นสองส่วนคือส่วนแรกเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายนอกและมีประชาชนครอบอาศัยอยู่มานมนานแล้ว จำนวน 27,000 ไร่
โดยขณะนี้ได้ออกโฉนดไปได้แล้ว 80% ซึ่งเหลืออีก 20% ที่จะต้องเร่งดำเนินการออกโฉนดให้โดยขั้นตอนต่อไป คือ ทางอำเภอจะนำรายชื่อที่ตัวแทนชาวบ้านส่งเข้ามาไปปิดประกาศในหมู่บ้านทั้งหมดเพื่อให้ชาวบ้านได้มีการตรวจสอบรายชื่อว่า จะมีการคัดค้านหรือไม่ หากไม่มีทางอำเภอก็จะจะส่งรายชื่อของชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดไปให้คณะกรรมการปฎิรูปที่ดินแห่งชาติได้พิจารณา
ขณะที่ส่วนที่สอง คือ บริเวณไข่แดง คือ พื้นที่ที่กำหนดให้เป็นป่าไม้ถาวรฯ หรือป่าชุมชน จำนวน 28,000 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารรับรองทำประโยชน์เป็น น.ส.3 และออกเป็นโฉนดในเวลาต่อมาให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งเจ้าของเป็นนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังของลำปาง ไปแล้วกว่า 40 แปลง รวมพื้นที่กว่า 2,400 ไร่ ซึ่งขณะนี้ทาง ป.ป.ท.มีคำสั่งให้กรมที่ดินพิจารณาเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) และโฉนดที่ดินดังกล่าวแล้ว
รายงานจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า นายบุญสม ชมพูมิ่ง ประธานกรรมการกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านใน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้านเป้า ตำบลต้นธงชัย ตำบลบ้านเอื้อม และตำบลบ่อแฮ้ว ได้นำเอกสารรายชื่อของชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดิน ซึ่งอยู่นอกเขตป่าไม้ถาวรตามติคณะรัฐมนตรีวันที่ 14 ก.ย.2520 และมติวันที่28 พ.ค.2528 (ป่าแม่แมาะแปลง 2) จำนวน 267 ราย ยื่นต่อนายมงคล สุกใส นายอำเภอเมืองลำปาง เพื่อให้ออกโฉนดในที่ดินดังกล่าว ซึ่งรวมพื้นที่ที่สามารถออกโฉนดได้ทั้งสิ้น 27,000 ไร่ และได้ออกโฉนดไปแล้วประมาณ 80% ซึ่งส่วนที่เหลืออีก 20% จำได้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จต่อไปโดยจะมีการส่งรายชื่อทั้งหมดให้กับคณะปฎิรูปที่ดินแห่งชาติในเดือน พ.ย.นี้
ทั้งนี้ นายบุญสม กล่าวว่า จากที่ได้ต่อสู้กันมาจนอายุปาเข้าไปกว่า 50 ปี มาถึงวันนี้รู้สึกดีใจมากแล้วที่ชาวบ้านจริงๆ อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมาเกือบตลอดชีวิตจะได้เอกสารสิทธิในที่ดินเป็นของตนเองเสียที ขณะที่ผู้ที่มีอำนาจและกระทำการใดๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายก็จะได้รับการลงโทษ
ส่วนพื้นที่ป่าที่ชาวบ้านจะได้กลับคืนมานั้น ทางชาวบ้านก็จะช่วยกันปลูกป่าให้เป็นพื้นที่สีเขียวของชุมชนต่อไปเพื่อจะได้ฟื้นผืนป่าให้กับมามีความอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม ชาวบ้านที่เคยเก็บหาของป่าหากินกับป่าก็จะได้กลับมาทำมาหากินได้เหมือนเดิมแม้จะต้องใช้เวลาก็ตาม
ด้าน นายมงคล สุกใส นายอำเภอเมือง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าแม่เมาะแปลง 2 ซึ่งมีปัญหายื้อเยื้อมานานขณะนี้หลังจากการที่มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานร่วมกันเพื่อหาข้อยุติรวมทั้งหน่วยงานของ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช.เข้าร่วมด้วย ทำให้งานเดินเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการแบ่งพื้นที่ป่าแม่เมาะทั้งหมดซึ่งมีพื้นที่ 55,000 ไร่ ออกเป็นสองส่วนคือส่วนแรกเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายนอกและมีประชาชนครอบอาศัยอยู่มานมนานแล้ว จำนวน 27,000 ไร่
โดยขณะนี้ได้ออกโฉนดไปได้แล้ว 80% ซึ่งเหลืออีก 20% ที่จะต้องเร่งดำเนินการออกโฉนดให้โดยขั้นตอนต่อไป คือ ทางอำเภอจะนำรายชื่อที่ตัวแทนชาวบ้านส่งเข้ามาไปปิดประกาศในหมู่บ้านทั้งหมดเพื่อให้ชาวบ้านได้มีการตรวจสอบรายชื่อว่า จะมีการคัดค้านหรือไม่ หากไม่มีทางอำเภอก็จะจะส่งรายชื่อของชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดไปให้คณะกรรมการปฎิรูปที่ดินแห่งชาติได้พิจารณา
ขณะที่ส่วนที่สอง คือ บริเวณไข่แดง คือ พื้นที่ที่กำหนดให้เป็นป่าไม้ถาวรฯ หรือป่าชุมชน จำนวน 28,000 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารรับรองทำประโยชน์เป็น น.ส.3 และออกเป็นโฉนดในเวลาต่อมาให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งเจ้าของเป็นนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังของลำปาง ไปแล้วกว่า 40 แปลง รวมพื้นที่กว่า 2,400 ไร่ ซึ่งขณะนี้ทาง ป.ป.ท.มีคำสั่งให้กรมที่ดินพิจารณาเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) และโฉนดที่ดินดังกล่าวแล้ว