ระนอง - จังหวัดระนอง เตรียมความพร้อมจัดรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย 100% โดยจะเชิญรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการรณรงค์
วันนี้(1 ก.ย.54) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดระนองพล.ต.ต.วิทูร ธรรมรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดโครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100 % จังหวัดระนอง
พล.ต.ต.วิทูร กล่าวว่า จังหวัดระนอง ได้จัดทำโครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100 % มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 จนถึงปัจจุบัน โดยปรากฏว่าตั้งแต่ใช้มาตรการจับปรับจริง เริ่มเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 มีผลตอบรับในทางบวกคือทำให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้น และพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลดลง
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์จังหวัดระนองจึงได้กำหนดจัดรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100% จังหวัดระนอง ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในเบื้องต้นกำหนดจัดในวันที่ 22 กันยายน 2554 ณ สนามกีฬาโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร อ.เมืองระนอง
โดยจะเชิญรองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานเปิดโครงการส่วนจะเป็นร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง หรือนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดต่อประสานงาน แต่หากรองนายกรัฐมนตรีติดภารกิจอื่นผู้ว่าราชการจังหวัดระนองจะเป็นประธานแทน คาดว่ามีรถจักรยนต์ยนต์เข้าร่วมรณรงค์ประมาณ 2,500 คัน กลุ่มพลังมวลชน 5,000 คน
พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง กล่าวว่า ปี 2553 ประเทศไทยมีพื้นที่สีเขียวด้านการสวมหมวกนิรภัย 100 % เพียง 2 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดภูเก็ต แต่จังหวัดที่เหลือเป็นพื้นที่สีเหลืองทั้งหมด แต่จากการที่จังหวัดระนองได้ดำเนินโครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100 % มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 เป็นต้นมา ทำให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
โดยจะดำเนินงานต่อเนื่องต่อไปจะเน้นในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองระนอง และ สภ.ปากน้ำ รวม 7 ตำบล ซึ่งจะส่งผลให้จังหวัดระนองเป็นพื้นที่สีเขียวด้านการสวมหมวกนิรภัยต่อไป
ด้านนายทนุ ทิมโพธิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า หลังจากที่จังหวัดระนองได้รณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100 % สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนองได้รับมอบหมายให้ออกสำรวจการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งได้ส่งอาสาสมัครออกเก็บข้อมูลตามทางแยกต่าง ๆ รวม 7 จุด ทั้งในวันราชการและวันหยุด ราชการ ช่วงเวลา 07.0-08.00 น. ,12.00-13.00 น. และ 16.00-17.00 น. รวมรถจักรยานยนต์จำนวน 4,200 คัน ปรากฏว่า มีผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 87.1 ไม่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 12.9 หากแยกตามเพศ พบว่าผู้ชายสวมหมวกร้อยละ 86.4 ไม่สวมหมวกร้อยละ 13.6 ผู้หญิงสวมหมวกร้อยละ 88.6 ไม่สวมหมวกร้อยละ 11.4 ส่วนคนซ้อนท้ายคนที่หนึ่ง สวมหมวกร้อยละ 68.1 ไม่สวมหมวกร้อยละ 31.9 คนซ้อนท้ายคนที่สองสวมหมวกร้อยละ 65.4 ไม่สวมหมวกร้อยละ 34.6 สำหรับการเกิดอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์หลังการรณรงค์มีผู้เสียชีวิต 3 ราย จากเดิมเฉลี่ย 4-5 ราย ผู้บาดเจ็บ 320 คน จากเดิม 330 คน
วันนี้(1 ก.ย.54) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดระนองพล.ต.ต.วิทูร ธรรมรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดโครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100 % จังหวัดระนอง
พล.ต.ต.วิทูร กล่าวว่า จังหวัดระนอง ได้จัดทำโครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100 % มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 จนถึงปัจจุบัน โดยปรากฏว่าตั้งแต่ใช้มาตรการจับปรับจริง เริ่มเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 มีผลตอบรับในทางบวกคือทำให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้น และพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลดลง
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์จังหวัดระนองจึงได้กำหนดจัดรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100% จังหวัดระนอง ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในเบื้องต้นกำหนดจัดในวันที่ 22 กันยายน 2554 ณ สนามกีฬาโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร อ.เมืองระนอง
โดยจะเชิญรองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานเปิดโครงการส่วนจะเป็นร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง หรือนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดต่อประสานงาน แต่หากรองนายกรัฐมนตรีติดภารกิจอื่นผู้ว่าราชการจังหวัดระนองจะเป็นประธานแทน คาดว่ามีรถจักรยนต์ยนต์เข้าร่วมรณรงค์ประมาณ 2,500 คัน กลุ่มพลังมวลชน 5,000 คน
พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง กล่าวว่า ปี 2553 ประเทศไทยมีพื้นที่สีเขียวด้านการสวมหมวกนิรภัย 100 % เพียง 2 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดภูเก็ต แต่จังหวัดที่เหลือเป็นพื้นที่สีเหลืองทั้งหมด แต่จากการที่จังหวัดระนองได้ดำเนินโครงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100 % มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 เป็นต้นมา ทำให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
โดยจะดำเนินงานต่อเนื่องต่อไปจะเน้นในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองระนอง และ สภ.ปากน้ำ รวม 7 ตำบล ซึ่งจะส่งผลให้จังหวัดระนองเป็นพื้นที่สีเขียวด้านการสวมหมวกนิรภัยต่อไป
ด้านนายทนุ ทิมโพธิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า หลังจากที่จังหวัดระนองได้รณรงค์ให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย 100 % สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนองได้รับมอบหมายให้ออกสำรวจการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งได้ส่งอาสาสมัครออกเก็บข้อมูลตามทางแยกต่าง ๆ รวม 7 จุด ทั้งในวันราชการและวันหยุด ราชการ ช่วงเวลา 07.0-08.00 น. ,12.00-13.00 น. และ 16.00-17.00 น. รวมรถจักรยานยนต์จำนวน 4,200 คัน ปรากฏว่า มีผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 87.1 ไม่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 12.9 หากแยกตามเพศ พบว่าผู้ชายสวมหมวกร้อยละ 86.4 ไม่สวมหมวกร้อยละ 13.6 ผู้หญิงสวมหมวกร้อยละ 88.6 ไม่สวมหมวกร้อยละ 11.4 ส่วนคนซ้อนท้ายคนที่หนึ่ง สวมหมวกร้อยละ 68.1 ไม่สวมหมวกร้อยละ 31.9 คนซ้อนท้ายคนที่สองสวมหมวกร้อยละ 65.4 ไม่สวมหมวกร้อยละ 34.6 สำหรับการเกิดอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์หลังการรณรงค์มีผู้เสียชีวิต 3 ราย จากเดิมเฉลี่ย 4-5 ราย ผู้บาดเจ็บ 320 คน จากเดิม 330 คน