xs
xsm
sm
md
lg

สื่อผิดหวังกสทช.หวั่นกติกากระทบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – กลุ่มทุนสื่อ ผนึกกำลังตีแผ่ “11กสทช.” หวังวางกฏกติกาเอื้อต่อธุรกิจ มากกว่าสร้างผลกระทบ “จำนรรค์” ผิดหวังคนสื่อไม่ได้ตำแหน่ง “ประวิทย์”มองเป็นโอกาสดีในอนาคต ด้านนายกเคเบิลฯไม่สนกสทช.มองเรื่องการเปลี่ยนจากอะนาล็อกสู่ดิจิตอลปี58สำคัญกว่า  

วานนี้(9ก.ย.54)ทางสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ได้จัดงานสัมมนา หัวข้อ “จากวิทยุ โทรทัศน์ ถึง มือถือและ3G ในมือ กสทช.”

โดยนางจำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่มีประกาศรายชื่อคณะกรรมการ กสทช.ทั้ง 11 ท่านอย่างเป็นทางการ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวัง โดยเฉพาะคณะกรรมการด้านกิจการวิทยุโทรทัศน์นั้น เป็นบุคคลที่ไม่เป็นที่รู้จักและยังเป็นบุคคลสาขาอื่นที่เข้ามาดูแล

แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้เกียรติกับทางสว.ที่ได้เลือกทั้ง 11 ท่านเข้ามา และรอดูผลงานการทำงานต่อไป ซึ่งภายใน1ปีหลังจากนี้ จะเริ่มเห็นแผนแม่บทจาก กสทช. ทั้งนี้อยากจะขอให้ทางคณะกรรมการกสทช.ชุดนี้ วางกฏระเบียบออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกกับธุรกิจมากกว่ามาทำให้เกิดความเดือนร้อน ถึงแม้ว่าจะกังวลเรื่องของการคอร์รัปชั่น

ผลกระทบตามมาย่อมมีบ้าง ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวรับมือ คือ 1. ต้องรวมตัวเพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สร้างความแข็งแกร่งเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง 2.เจ้าของสถานี ควรวางแผนแม่บทในเรื่องความต้องการและทิศทางที่จะดำเนินธุรกิจนี้ต่อไป หลังจากที่สัมปทานหมดลง รวมถึงผู้จัดและผู้ผลิตรายการโทรทัศน์เองนั้น จะต้องมีโพซิชั่นนิ่งของตัวเองให้ชัดเจน ว่าจะไปในทิศทางใด หากถึงวันหนึ่งกสทช.จะมีการจัดสรรคลื่นความถี่ขึ้นมาใหม่ จะมีโพซิชั่นนิ่งที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น

นางวรรณี รัตนพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินิชิเอทีฟ จำกัด กูรูทางด้านเอเจนซี่โฆษณา กล่าวว่า การเกิด 11 กสทช.ครั้งนี้ อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มเอเจนซี่โดยตรง แต่กระทบทางอ้อม โดยเฉพาะในเรื่องของการเลือกซื้อสื่อโฆษณานั้น จากเดิมจะเน้นรายการที่มีเรตติ้งดี ต่อไปจะต้องลงลึกในเรื่องของคุณภาพ กลุ่มเป้าหมายชัดเจนมากยิ่งขึ้น

แต่มั่นใจว่างบโฆษณาส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน 3 จอสื่อหลัก คือ จอทีวี จอพีซีอินเทอร์เน็ต และจอโมบายโฟน

อย่างไรก็ตามภายในงานสัมมนา มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังในวงการสื่อมากมาย อาทิ เช่น ดร.นิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นร่วมด้วยว่า จากผลของกสทช.ที่เกิดขึ้นมานี้ มองว่าช่อง 9 ถือเป็นช่องที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะเป็นเจ้าของสัมปทานเอง แต่สำหรับช่อง3และช่อง7 มองเห็นอนาคตที่ดี

ส่วนของทางASTVแล้วไม่ว่ากสทชจะเกิดหรือไม่เกิดก็ไม่กระทบ แต่ยอมรับว่าอนาคตถ้าเป็นไปได้ก็อยากที่จะเข้ามาขอใบอนุญาตยิงสัญญาณในประเทศเช่นกัน ถึงแม้ว่าปัจจุบันยิงสัญญาณผ่านดาวเทียมของต่างประเทศ

ด้านนายเกษม อินทร์แก้ว นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเกิดกสทช.ไม่มีผลกระทบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเคเบิลทีวี แต่กังวลเรื่องของการทำสัญญาอาเซียนปี58 ที่ประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนระบบสัญญาณการออกอากาศจากแบบอะนาล็อกเป็นดิจิตอลมากกว่า

ขณะที่นายประวิทย์ มาลีนนท์  กรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 กล่าวว่า ในวันนี้เราเพิ่งได้ 11คณะกรรมการกสทช. ยังไม่อยากให้มองในแง่ร้าย แต่อยากให้มองถึง บทบาทที่คณะกรรมการ กสทช.จะเข้ามาดำเนินการ แต่ช่วง 6 ปีแรกนี้
จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย เช่น การเปลี่ยนเจ้าของสัมปทานมากขึ้น การแข่งขันสูงขึ้น มองว่าคนที่จะมาดูด้านกิจการโทรทัศน์เพียง1คนนั้นน้อยเกินไป ส่วนหลังจากนี้ช่อง3พร้อมที่จะขยายการลงทุน โดยมีเงินทุนรองรับอยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 2-3พันล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น