ASTVผู้จัดการรายวัน- พฤติกรรมผู้บริโภคติดหนึบเทคโนโลยี เปลี่ยนวิถีการบริโภคสื่อ คาดอนาคตผู้บริโภคเป็นผู้กำหนดรูปแบบรับสื่อเอง "ไอพีจี" ชี้ งบสื่อดิจิตอลปีนี้พุ่งเป็นเท่าตัว ล่าสุดผุดหน่วยธุรกิจ "มีเดียแบรนด์.ดิจิตอล" ช่วยลูกค้าวางแผนใช้สื่อดิจิตอลครบวงจร
นางวรรณี รัตนพล ประธานกรรมการบริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทั้งสมาร์ทโฟน หรือ แทปเล็ท ที่ทำให้เข้าถึงโลกออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ จึงส่งผลต่อพฤติกรรมการรับชมทีวี จากเดิมที่ต้องติดตามชมตามเวลาที่ออกอากาศเท่านั้น
แต่ปัจจุบันสามารถรับชมทีหลังได้ เวลาใดก็ได้ ผ่านทางโลกออนไลน์ ซึ่งฐานผู้ชมที่รับชมทางโลกออนไลน์ โดยเฉพาะจากยูทูปนั้น เป็นทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิมและกลุ่มใหม่บางส่วน ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่รายการที่ชมผ่านช่องทางนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีโฆษณา ดังนั้นเจ้าของสินค้าจะต้องรีบปรับตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
โดยจากเดิมที่เราให้ความสำคัญกับการทำภาพยนตร์โฆษณาลงในฟรีทีวี แต่หลังจากนี้เราควรให้ความสำคัญกับการทำแบรนด์ให้มีความเป็นเอ็นเตอร์เทนมากขึ้น ผ่านการทำโฆษณาแบบไทอิน หรือนำสินค้านั้นๆเข้าไปอยู่ในเนื้อหารายการด้วย ทั้งนี้เพื่อให้สินค้าของเรายังอยู่ผ่านตาผู้บริโภคเสมอ ไม่ว่าคอนเท้นท์รายการเหล่านี้จะถูกนำเสนอในช่องทางใดต่อไปก็ตาม
ล่าสุดในส่วนของไอพีจี ปีนี้ลงทุนเพิ่มหน่วยธุรกิจ "มีเดียแบรนด์.ดิจิตอล" ขึ้นมาเพื่อช่วยลูกค้าเลือกใช้สื่อดิจิตอลออนไลน์แบบครบวงจร ตั้งเป้าว่ารายได้จากธุรกิจนี้จะต้องเติบโตได้ปีละ 20-50% เนื่องจากมีฐานที่เล็กอยู่ ทำให้เป้ารายได้ในปีนี้อาจจะไม่เติบโต หรือทำได้เพียงเท่าปีก่อน ขณะที่รายได้ปีก่อนนั้น บริษัทยังเติบโต 10% เนื่องจากลูกค้ายังใช้เงินอยู่และใช้มากขึ้น ถึงแม้จะมีลูกค้าบางรายชะลอการใช้เงินช่วงน้ำท่วมบ้างก็ตาม ส่วนภาพรวมตลาดนั้นปีที่ผ่านมามีการเติบโตเพียง 3% เท่านั้น ส่วนในปีนี้น่าจะโตได้ 8-9% โดยสื่อดิจิตอลน่าจะโตได้เป็นเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าสื่อทางเลือกอย่างเคเบิลทีวีและแซทเทิลไลท์ทีวี เป็นอีกสื่อหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนครัวเรือนที่เข้าถึงแล้วกว่า 50% โดยพบว่า ช่วงเวลากลางวันคนจะเปิดรับชมช่องรายการในเคเบิลมากกว่าฟรีทีวี แต่พอกลับมาสู่ช่วงไพร์มไทม์ตั้งแต่ละครช่วงเย็นไปจนถึงละครหลังข่าวจนถึงเวลา 22.30 น.ฟรีทีวีจะมีเรตติ้งผู้ชมกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง จากสัญญาณที่เกิดขึ้นนี้ เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ สื่อเคเบิลทีวีและแซทเทิลไลท์ทีวีจะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นสื่อหลัก รวมถึงอินเตอร์เน็ต และมือถือ ด้วย ส่วนสื่ออื่น เช่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ก็จะกลายมาเป็นสื่อนิชแทน หรือปรับตัวมาเป็นแอพพลิเคชั่น รวมถึงมาอยู่บนโลกออนไลน์แทนส่วนผู้บริโภคจะมีเป็นผู้กำหนดรูปแบบสื่อในการรับชมเอง
นางวรรณี รัตนพล ประธานกรรมการบริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทั้งสมาร์ทโฟน หรือ แทปเล็ท ที่ทำให้เข้าถึงโลกออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ จึงส่งผลต่อพฤติกรรมการรับชมทีวี จากเดิมที่ต้องติดตามชมตามเวลาที่ออกอากาศเท่านั้น
แต่ปัจจุบันสามารถรับชมทีหลังได้ เวลาใดก็ได้ ผ่านทางโลกออนไลน์ ซึ่งฐานผู้ชมที่รับชมทางโลกออนไลน์ โดยเฉพาะจากยูทูปนั้น เป็นทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิมและกลุ่มใหม่บางส่วน ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่รายการที่ชมผ่านช่องทางนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีโฆษณา ดังนั้นเจ้าของสินค้าจะต้องรีบปรับตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
โดยจากเดิมที่เราให้ความสำคัญกับการทำภาพยนตร์โฆษณาลงในฟรีทีวี แต่หลังจากนี้เราควรให้ความสำคัญกับการทำแบรนด์ให้มีความเป็นเอ็นเตอร์เทนมากขึ้น ผ่านการทำโฆษณาแบบไทอิน หรือนำสินค้านั้นๆเข้าไปอยู่ในเนื้อหารายการด้วย ทั้งนี้เพื่อให้สินค้าของเรายังอยู่ผ่านตาผู้บริโภคเสมอ ไม่ว่าคอนเท้นท์รายการเหล่านี้จะถูกนำเสนอในช่องทางใดต่อไปก็ตาม
ล่าสุดในส่วนของไอพีจี ปีนี้ลงทุนเพิ่มหน่วยธุรกิจ "มีเดียแบรนด์.ดิจิตอล" ขึ้นมาเพื่อช่วยลูกค้าเลือกใช้สื่อดิจิตอลออนไลน์แบบครบวงจร ตั้งเป้าว่ารายได้จากธุรกิจนี้จะต้องเติบโตได้ปีละ 20-50% เนื่องจากมีฐานที่เล็กอยู่ ทำให้เป้ารายได้ในปีนี้อาจจะไม่เติบโต หรือทำได้เพียงเท่าปีก่อน ขณะที่รายได้ปีก่อนนั้น บริษัทยังเติบโต 10% เนื่องจากลูกค้ายังใช้เงินอยู่และใช้มากขึ้น ถึงแม้จะมีลูกค้าบางรายชะลอการใช้เงินช่วงน้ำท่วมบ้างก็ตาม ส่วนภาพรวมตลาดนั้นปีที่ผ่านมามีการเติบโตเพียง 3% เท่านั้น ส่วนในปีนี้น่าจะโตได้ 8-9% โดยสื่อดิจิตอลน่าจะโตได้เป็นเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าสื่อทางเลือกอย่างเคเบิลทีวีและแซทเทิลไลท์ทีวี เป็นอีกสื่อหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนครัวเรือนที่เข้าถึงแล้วกว่า 50% โดยพบว่า ช่วงเวลากลางวันคนจะเปิดรับชมช่องรายการในเคเบิลมากกว่าฟรีทีวี แต่พอกลับมาสู่ช่วงไพร์มไทม์ตั้งแต่ละครช่วงเย็นไปจนถึงละครหลังข่าวจนถึงเวลา 22.30 น.ฟรีทีวีจะมีเรตติ้งผู้ชมกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง จากสัญญาณที่เกิดขึ้นนี้ เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ สื่อเคเบิลทีวีและแซทเทิลไลท์ทีวีจะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นสื่อหลัก รวมถึงอินเตอร์เน็ต และมือถือ ด้วย ส่วนสื่ออื่น เช่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ก็จะกลายมาเป็นสื่อนิชแทน หรือปรับตัวมาเป็นแอพพลิเคชั่น รวมถึงมาอยู่บนโลกออนไลน์แทนส่วนผู้บริโภคจะมีเป็นผู้กำหนดรูปแบบสื่อในการรับชมเอง
