อมรินทร์ฯ สยายปีก ลุย 3 ธุรกิจใหม่เต็มสูบ ทั้ง สื่อดิจิตอล อีเว้นท์ และรับสร้างบ้าน หลังพบมีช่องว่างเติบโต พร้อมเปิดตัว 1 หัวนิตยสารใหม่ ยิ้มรายได้ฟื้นตัวหลังซบลง 2 ปี ส่งไตรมาสแรก รายได้รวมโต 14% ทั้งปีมั่นใจเติบโตที่ 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้
นางระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯตั้งแต่ปีนี้ไป จะโฟกัสใน 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ คือ 1. งานดิจิตอล 2.อีเวนต์ และ 3. ธุรกิจรับสร้างบ้าน เนื่องจากมองเห็นช่องว่างของตลาด และการใช้เงินของลูกค้าที่จะทำให้ทั้ง 3 ธุรกิจเติบโตได้
โดยในส่วนของงานสื่อดิจิตอลนั้น เดิมพัฒนามาตลอด 10 ปี ลงทุนไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท จากเดิมเน้นพัฒนาเพื่อองค์กร ทั้งการดูแลเว็บไซต์ และการพัฒนาแอพพลิเคชั่นลงบนไอแพด
ล่าสุดพร้อมให้บริการลูกค้าภายนอกองค์กร โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อโฆษณาในเครืออมรินทร์ เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่นร่วมกัน มองว่าภายใน 5 ปีหลังจากนี้ รายได้จากส่วนสื่อดิจิตอล จะอยู่ที่ 5-10%เทียบกับรายได้โฆษณาที่จะเข้ามา
2.อีเวนต์ จากเดิมเน้นการจัดอีเวนต์ปีละ 2-4 ครั้ง เป็นงานภายในองค์กรเริ่มทำมา 2-3 ปี ปีนี้จะให้บริการลูกค้าภายนอกมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้มีลูกค้าติดต่อเข้ามาทุกเดือน เน้นจัดงานเกี่ยวกับกลุ่มหนังสือ นิตยสาร และแฟชั่นเป็นหลัก
และสำหรับธุรกิจที่ 3 คือธุรกิจรับสร้างบ้านภายใต้ชื่อ “บ้านและสวน Modular” เป็นการให้บริการสร้างบ้านสำเร็จรูป ภายใต้แนวคิดตัวต่อ ลูกค้าสามารถลด เพิ่มเติมต่อส่วนต่างๆของบ้านได้ ในราคาบ้านขนาดเล็กที่ 5 แสนบาท ขนาดกลาง 1 ล้านบาท และขนาดใหญ่ขึ้นไป มากกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบัน ธุรกิจรับสร้างบ้านจะค่อนข้างฟิกซ์ ลูกค้ามีตัวเลือกน้อย หรือไม่สามารถปรับเปลี่ยนแบบบ้านได้ จากทั้ง 3 ธุรกิจใหม่นี้ จะเริ่มเห็นความชัดเจนของรายได้ได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ขณะที่ธุรกิจหลักในกลุ่มนิตยสารในปีนี้ ล่าสุดได้เปิดตัวนิตยสารหัวไทย 1 เล่ม คือ เลมอนเนด (Lemonade) เป็นการพัฒนาหัวไทยขึ้นมาจับกลุ่มผู้หญิง เพราะมองว่าปัจจุบันนิตยสารหัวนอกเข้ามาในไทยเกือบหมดแล้ว ถ้าจะทำก็ต้องมีต้นทุน ขณะที่การพัฒนาเองนั้นถือว่าดีกว่า เพราะสามารถปรับให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในปีหน้าเตรียมที่พัฒนานิตยสารหัวไทยขึ้นมาอีก 1 เล่มด้วย
นางระริน กล่าวต่อว่า ในส่วนของรายได้รวมนั้น ปีนี้คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ที่ 10-15% อีกครั้ง โดยในไตรมาสแรกพบว่า ตัวเลขรายได้รวมเติบโตขึ้น 14% ส่วนกำไรเติบโตขึ้น40% หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา รายได้รวมตกลงมีการเติบโตไม่ถึง 2 หลัก จากสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
นางระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯตั้งแต่ปีนี้ไป จะโฟกัสใน 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ คือ 1. งานดิจิตอล 2.อีเวนต์ และ 3. ธุรกิจรับสร้างบ้าน เนื่องจากมองเห็นช่องว่างของตลาด และการใช้เงินของลูกค้าที่จะทำให้ทั้ง 3 ธุรกิจเติบโตได้
โดยในส่วนของงานสื่อดิจิตอลนั้น เดิมพัฒนามาตลอด 10 ปี ลงทุนไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท จากเดิมเน้นพัฒนาเพื่อองค์กร ทั้งการดูแลเว็บไซต์ และการพัฒนาแอพพลิเคชั่นลงบนไอแพด
ล่าสุดพร้อมให้บริการลูกค้าภายนอกองค์กร โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อโฆษณาในเครืออมรินทร์ เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่นร่วมกัน มองว่าภายใน 5 ปีหลังจากนี้ รายได้จากส่วนสื่อดิจิตอล จะอยู่ที่ 5-10%เทียบกับรายได้โฆษณาที่จะเข้ามา
2.อีเวนต์ จากเดิมเน้นการจัดอีเวนต์ปีละ 2-4 ครั้ง เป็นงานภายในองค์กรเริ่มทำมา 2-3 ปี ปีนี้จะให้บริการลูกค้าภายนอกมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้มีลูกค้าติดต่อเข้ามาทุกเดือน เน้นจัดงานเกี่ยวกับกลุ่มหนังสือ นิตยสาร และแฟชั่นเป็นหลัก
และสำหรับธุรกิจที่ 3 คือธุรกิจรับสร้างบ้านภายใต้ชื่อ “บ้านและสวน Modular” เป็นการให้บริการสร้างบ้านสำเร็จรูป ภายใต้แนวคิดตัวต่อ ลูกค้าสามารถลด เพิ่มเติมต่อส่วนต่างๆของบ้านได้ ในราคาบ้านขนาดเล็กที่ 5 แสนบาท ขนาดกลาง 1 ล้านบาท และขนาดใหญ่ขึ้นไป มากกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบัน ธุรกิจรับสร้างบ้านจะค่อนข้างฟิกซ์ ลูกค้ามีตัวเลือกน้อย หรือไม่สามารถปรับเปลี่ยนแบบบ้านได้ จากทั้ง 3 ธุรกิจใหม่นี้ จะเริ่มเห็นความชัดเจนของรายได้ได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ขณะที่ธุรกิจหลักในกลุ่มนิตยสารในปีนี้ ล่าสุดได้เปิดตัวนิตยสารหัวไทย 1 เล่ม คือ เลมอนเนด (Lemonade) เป็นการพัฒนาหัวไทยขึ้นมาจับกลุ่มผู้หญิง เพราะมองว่าปัจจุบันนิตยสารหัวนอกเข้ามาในไทยเกือบหมดแล้ว ถ้าจะทำก็ต้องมีต้นทุน ขณะที่การพัฒนาเองนั้นถือว่าดีกว่า เพราะสามารถปรับให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในปีหน้าเตรียมที่พัฒนานิตยสารหัวไทยขึ้นมาอีก 1 เล่มด้วย
นางระริน กล่าวต่อว่า ในส่วนของรายได้รวมนั้น ปีนี้คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ที่ 10-15% อีกครั้ง โดยในไตรมาสแรกพบว่า ตัวเลขรายได้รวมเติบโตขึ้น 14% ส่วนกำไรเติบโตขึ้น40% หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา รายได้รวมตกลงมีการเติบโตไม่ถึง 2 หลัก จากสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจเป็นสำคัญ