xs
xsm
sm
md
lg

บี้มาร์ค-เทือก อ้ายปึ้งเรียกแจงปมเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “อ้ายปึ้ง” จัดหนัก เรียก “มาร์ค-เทือก” แจงปมเจรจาลับ “ซก อาน” ชี้สังคมเคลือบแคลงสงสัย ปัดมีนัยทางการเมือง โว!สมัยตัวเองจะชี้แจงทุกครั้ง “หัวหน้าปชป.” ท้าสอบ ย้อนให้ถึงเอ็มโอยู 2544 สมัยแม้ว ส่วน “นายใหญ่”ยังอยู่ เจรจาธุรกิจ “มาเก๊า”

วานนี้ (2 ก.ย) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ที่แอบไปเจรจาลับกับประเทศกัมพูชา เรื่องก๊าซปิโตรเลียมในอ่าวไทย เมื่อครั้งเป็นรัฐบาลว่า ตนได้ดูในรายละเอียดของแถลงการณ์ปิโตรเลียมกัมพูชา ที่ออกมา ซึ่งในเอกสารคำแถลงการณ์ดังกล่าวมีประเด็นว่า รัฐบาลในปี 2542-2544 ช่วงที่มี MOU นั้นทุกอย่างทำด้วยความเปิดเผย แม้กระทั่งในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเอง เมื่อมีการไปติดต่อ หรือไปพูดคุยกัน ทุกอย่างจะเปิดเผยหมด โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำสื่อมวลชนไปด้วย เพียงแต่ข่าวจะไม่มากเท่าตอนนี้ และทุกอย่างในการตกลง ทุกขั้นตอน จะทำเปิดเผยมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ฉบับของกัมพูชาได้ระบุว่าจำเป็นต้องเปิดเผย เพราะสิ่งที่นายสุเทพ ได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ไปพูดคุยกัน 2-3 ครั้ง เป็นความลับทั้งหมด จึงจำเป็นต้องให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ชี้แจงว่าไปพูดอะไรมา เพราะข้อสงสัยอันนี้ ตนเชื่อว่าสังคมไทยคงจะเคลือบแคลงเหมือนกัน

"ผมจะลองประสานอย่างเป็นทางการไปยังกัมพูชาว่า สิ่งต่างๆ ที่เขาได้ไปพูดคุยกันนั้น มันเป็นประโยชน์ของประเทศจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าผมได้ประสานไปแล้วได้ข้อมูลอย่างไร ก็จะแถลงข่าวให้ทราบ และเพื่อความสบายใจของประชาชน ผมยืนยันว่าตั้งแต่นี้ไป ในการติดต่อกับกัมพูชาผมจะทำอย่างเปิดเผย" นายสุรพงษ์ กล่าว

ส่วนการยกเลิก MOU ปี 44 นั้น รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า MOU นั้นถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 52 โดยมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ปรากฏว่าไม่ได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงการพูดแต่ปาก

ต่อมาในวันที่ 25 พ.ย.53 ห่างกันเป็นเวลา 1 ปี กลับแต่งตั้ง นายสุเทพ มาเป็นประธานคณะกรรมการเจรจาอีกครั้ง หลังจากได้ลาออกไปลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส. จ.สุราษฎร์ธานี ตนจึงมีข้อสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่พูดตลอดว่ายกเลิกแล้ว และสังคมก็เข้าใจว่ายกเลิกแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ กลับไม่ยกเลิก กระทั่งเกิดมีแถลงการณ์ปิโตรเลียม ที่คร่อมระหว่างช่วงนั้นพอดี ซึ่งเป็นวันที่ที่นายสุเทพไปพบ 2 ครั้งก่อนหน้าที่จะยกเลิก และอีก 1 ครั้ง อยู่ระหว่างการยกเลิกกับการแต่งตั้งนายสุเทพ ขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการเจรจาใหม่ ตนจึงขอให้นายสุเทพ ชี้แจงให้ชัดเจน เพราะในข้อมูลนั้น กัมพูชาได้ระบุว่า เป็นการเจรจาลับ ซึ่งเป็นการไปคุณหมิง 1 ครั้ง ฮ่องกง 1 ครั้ง

เมื่อถามว่า เหตุใดกัมพูชาจึงไม่เปิดเผยข้อมูลในห้วงเวลาก่อนหน้านี้ และทำไมต้องเจาะจงเปิดในช่วงนี้ จะมีนัยซ่อนเร้นอะไรหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ เพราะในวันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล นายอนิก อัมระนันทน์ ส.ส.ประชาธิปัตย์ เป็นคนลุกขึ้นอภิปรายเรื่องนี้ และตนได้ลุกขึ้นตอบ เนื่องจากตนได้เตรียมข้อมูลต่างๆ ไว้เพราะคาดการณ์ว่าจะต้องมีการถูกซักถามในประเด็นนี้
 
ทั้งนี้ การตกลงร่วมกันในพื้นที่ทะเลนั้น เท่าที่ผ่านมาไม่ได้มีความได้เปรียบเสียเปรียบ หากส่วนไหนใกล้ประเทศไทยไทยก็จะได้สัดส่วนมาก หากส่วนไหนใกล้กัมพูชาก็ให้กัมพูชาได้สัดส่วนมาก ส่วนตรงกลางเราจะแบ่งเป็น 50:50 ซึ่งค่อนข้างจะยุติธรรมอยู่แล้ว แต่ในวันนั้น ทางฝ่ายค้านพยายามจะชี้ให้สังคมเห็นว่าสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณมีผลประโยชน์ทับซ้อน แต่เมื่อมาดูในรายละเอียดที่ข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศมาชี้แจงต่อตน จะเห็นว่า สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เวลาไปประชุมร่วมกัน จะมีการแถลงทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม คาดว่าการสอบสวนคงไม่นานเท่าใด โดยหลังจากนี้ตนจะทำหนังสือไปอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายค้านพยายามระบายสีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปมีผลประโยชน์กับทางกัมพูชา รัฐบาลจะชี้แจงอย่างไร รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงมีอยู่แล้ว เมื่อตอนตกลงเรื่อง MOU ว่ามีผลประโยชน์หรือไม่ ทั้งนี้หากตนได้หลักฐานทั้งหมด หรือข้อสรุปทั้งหมดก็จะนำเสนอข้อเท็จจริงให้สังคมได้รู้ แต่ช่วงนี้มันมีประเด็นที่ว่าทางรัฐบาลชุดที่ผ่านมาไปพูดกับกัมพูชาในทางลับ จนทำให้กัมพูชาคิดว่า ต้องเปิดเผย เพราะเขาไม่สบายใจ โดยเขายืนยันชัดเจนว่า เขาจะคำนึงถึงประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างเป็นธรรมที่สุด และจะประสานให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่อไป

เมื่อถามว่า จะเป็นการปูทางให้รัฐบาลชุดนี้ไปดำเนินการเองหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ได้ปูทางว่าจะไปดำเนินการเอง แต่เมื่อขั้นตอนมาถึง สิ่งที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้ทำไว้ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลชุดนี้ อันไหนที่เป็นประโยชน์กับประเทศ ก็พร้อมที่จะดำเนินการให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจสอบออกมามีความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน สังคมรับได้ก็จบ

เมื่อถามว่า เบื้องต้นมีข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดบริษัทร่วมกันระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรมว.กลาโหม กับนายสุเทพ หรือไม่ รมว.กล่าวว่า ตนยังไม่มีข้อมูล เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบถึงขนาดนั้น

**บินเขมร 14 ก.ย. พบ “ซกอาน”

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตนมีการกำหนดการจะเดินทางไปเยี่ยมคารวะ สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในวันที่ 14 ก.ย. โดยหลังจากนี้ ตนจะเดินทางไปบรูไน อินโดนีเซีย กัมพูชา และลาว โดยได้มีการจัดตารางไว้เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนจะขอดูรายละเอียดก่อนว่าจำเป็นจะต้องขอดูสาระในเจรจาลับครั้งนั้นหรือไม่ เพราะบางเรื่องในการพูดคุย ตนจะต้องคอยดูจังหวะเวลาก่อน นอกจากนี้ หากมีโอกาส ก็จะขอหารือถึงการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และนางราตรี พิพัฒนไพบูลย์ ที่ยังถูกกุมขังในประเทศกัมพูชาอยู่ และเรื่องการถูกจับของทั้งสองคน ตนจะต้องทำให้กระจ่าง ซึ่งหากมีโอกาส ข้อมูล จะเปิดเผยสิ่งเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา

**เหลิม”ปัดดิสเครดิสรบ. “มาร์ค

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่การปิโตเลียมของกัมพูชาออกแถลงการณ์ จนทำให้รัฐบาลชุดนี้ถูกมองว่า พยายามที่จะดิตเครดิสรัฐบาลชุดที่แล้วนั้น เพื่อปูทางนำเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการเองว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา อยู่ที่ว่ามีการไปเจรจากันจริงหรือไม่ อย่าไปคิดมองว่ารัฐบาลชุดไหนทำ คุณไปเจรจากันจริงหรือเปล่า ไปแล้วไปเจรจาอะไรหรือไม่ มันไม่ใช่การดิสเครดิส

“กรรมะคือการกระทำ กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ถ้าคุณทำจริง คุณจะปฏิเสธอย่างไร ถ้ารัฐบาลชุดนี้ทำก็ต้องเปิดเผยอยู่แล้ว ไม่หลบซ้อน เพราะน้ำลดตอผุด ใครทำอะไรมันก็ต้องรู้”

**มาร์คท้าสอบเจรจาลับเขมร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ตรวจสอบแถลงการณ์ของฝ่ายกัมพูชา ที่มีการระบุถึงการเจรจาลับระหว่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรางนายกรัฐมนตรี กับนายซกอาน รองนายกรัฐมนตรี กัมพูชา ในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ว่า เป็นเรื่องที่ดี และอยากให้มีการตรวจสอบ ในรัฐบาลที่แล้วได้เข้าไปดูในกรอบของเรื่องดังกล่าว เพราะกรอบของเรื่องนี้มีเอ็มโอยู 2544 อยู่ และได้แขวนไว้

**ท้าสอบย้อนถึงเอ็มโอยู 2544

จากนั้นได้มอบหมายให้นายสุเทพไปดำเนินการร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งเรื่องให้สภาฯพิจารณาเห็นชอบ แต่เกิดปัญหาข้อมูลที่ไม่ตรงกัน เลยต้องยุติไป โดยเฉพาะในช่วงที่กัมพูชาตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษา อีกทั้ง เอ็มโอยู ฉบับดังกล่าว มีปัญหาเรื่องการขีดเส้นรุกแดนเข้ามา แต่หากจะสอบก็ให้สอบย้อนกลับไปถึงปี 2544 ว่าที่มาของข้อตกลงของปัญหาที่แขวนไว้เป็นอย่างไรแล้วจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร

นายอภิสิทธิ์ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แถลงการณ์ของการปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชา พยายามที่จะพูดถึงรัฐบาลชุดที่แล้วในทางลบทั้งหมด และหากรัฐบาลที่แล้วไปเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา กัมพูชาจะพูดเช่นนั้นทำไม และขอให้จับตาดูรัฐบาลนี้ เพราะดูเหมือนกัมพูชาจะนิยมชมชอบเป็นพิเศษ หรือเป็นเพราะจะไปเสนอประโยชน์อะไรให้กันหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า กัมพูชาต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลที่แล้วเพื่อสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลนี้ในการเจรจา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเจรจาจะมีหรือไม่ รัฐบาลนี้จะต้องตัดสินใจและจะต้องชี้แจงว่าที่จะย้อนกลับไปในข้อตกลงเดิมนั้น หรือตั้งต้นทำกรอบเจรจาใหม่ เพื่อให้เป็นความเป็นธรรมของทั้ง 2 ประเทศ และไม่ขัดกับมุมมองของเราในเรื่องของเขตแดน และรวมไปถึงเรื่องมุมมองของเราเรื่องของเขตแดน ทั้งยังมีปัญหาในเรื่องมรดกโลก ดังนั้นปัญหาเขตแดนทางบกจึงจำเป็นที่จะต้องทำให้ชัดเจน

เมื่อถามย้ำว่า ในแถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ได้มีการเจรจาในทางลับนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพเองก็ได้ชี้แจงชัดเจนไปหมดแล้ว ตนก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ เพราะถ้าผิดปกติจริงและเราจะไปแขวนเอ็มโอยู 2544 ไว้เพื่ออะไร ขอให้ดูผลที่ออกมาซึ่งชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่มีการเอื้อประโยชน์ คิดว่ารัฐบาลนี้น่าจะต้องเดินหน้าทำงานและหาคำตอบให้ตัวเองมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในเมื่อเอ็มโอยู 2544 อาจส่งผลทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในเรื่องเขตแดน แต่เหตุใดรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยกเลิกไปเสีย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพราะต้องมีกรอบเจรจาใหม่ที่จะเข้ามาทดแทน และกระทรวงการต่างประเทศกำลังศึกษาอยู่ว่าควรจะเดินต่อไปอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เรื่องของการเจรจาในอนาคตจะทำอย่างไร เพราะกระทบในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติที่ทั้งสองประเทศจะต้องร่วมดูว่าจะใช้ร่วมกันอย่างไรด้วย เพียงแต่ว่าการใช้ทรัพยากรนี้จุดยืนในรัฐบาลที่แล้ว คือ ต้องไม่มากระทบต่อการสูญเสียอธิปไตยทางบกหรือทางทะเล ดังนั้นการจะเสนอเข้าสภาฯคราวที่แล้วยังไม่พร้อมจะต้องไปทบทวนในรายละเอียดที่หลายฝ่ายกำลังทำอยู่ และหากเราหวังประโยชน์แล้วจะแขวนเอ็มโอยู 2544 ไว้ทำไม ไม่อยากให้ทำเป็นการเมืองมากเกินไป

**ปชป.ปัด"เทือก"งุบงิบพื้นที่ทับซ้อน

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด นายสุเทพกับนายซก อาน พบกันจริงแต่เป็นการพบแบบไม่เป็นทางการ เพื่อหารือถึงสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เบื้องต้นกัมพูชานัดเจอที่สิงคโปร์ เพราะลูกชายซก อาน อยู่ที่นั่น แต่นายสุเทพตอบว่าไม่ได้ไป แต่จะผ่านฮ่องกงจึงพบกันที่นั่น และเมื่อปี 2553 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้ากัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุน เซน รัฐบาลจึงขอมติ ครม.ยกเลิกเอ็มโอยู ปี 2544 และไม่มีการหารือใหม่แต่อย่างใด จากนั้นภายหลังนายสุเทพได้พบนายซก อาน อีกครั้งโดยบังเอิญที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน จากการเชิญประชุมตัวแทนพรรคการเมืองประเทศต่างๆ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่ไม่ได้หารือเรื่องอะไรเพราะพบกันโดยบังเอิญ

** "ทักษิณ"อยู่มาเก๊าถึงปลายสัปดาห์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ขณะนี้พำนักอยู่ที่เขตบริหารพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเข้าพักที่โรงแรมเอ็มจีเอ็มในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา โดยมีการนัดหารือกับคณะบุคคลคนใกล้ชิดจำนวนหนึ่งที่เดินทางไปพบด้วย อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณจะอยู่ที่เขตบริหารพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีนจนถึงช่วงปลายสัปดาห์นี้เท่านั้น จากนั้นจะเดินทางไปประเทศอื่นต่อ.
กำลังโหลดความคิดเห็น