xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ประเมินผล 4 วัน ยอดใช้น้ำมันเพิ่ม ส่วนต่าง เบนซิน-โซฮอล์ น่าพอใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"บิ๊กไฝ ปตท." ชี้ มติ กบง.ช่วยจูงใจคนใช้พลังงานทดแทน เผยหลังลดราคาน้ำมัน 4 วันตามนโยบาย รบ. งดเก็บเข้ากองทุนฯ ยอดใช้ดีเซลเฉลี่ยเพิ่ม 10% ขณะที่เบนซินเพิ่ม 25-30% แต่โอดค่าการตลาดต่ำทำกำไรหด

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้เพิ่มเงินชดเชยในส่วนของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ E20 ในอัตรา 1.50 บาทต่อลิตร มีส่วนช่วยสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น เนื่องจากส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ถูกกว่าเบนซิน 91 ถึงลิตรละ 3.04 บาท และแก๊สโซฮอล์ E20 ถูกกว่าเบนซิน 91 ถึงลิตรละ 4.54 บาท แต่ค่าการตลาดยังอยู่ในระดับที่ต่ำ

ส่วนกรณีที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เสนอให้ลอยตัวราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ตามราคาตลาดโลกนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ถ้าทำได้ก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้ราคาพลังงานสะท้อนกับราคาต้นทุน โดยรัฐบาลก็ไปดูแลผลกระทบเป็นรายสาขาอาชีพ และให้การอุดหนุนกับคนที่จะได้รับผลกระทบจากการลอยตัวราคา เช่น การนำนโยบายบัตรเครดิตมาใช้กับกลุ่มเกษตรกร แท๊กซี่ รถยนต์สาธารณะ และผู้มีรายได้น้อย

อย่างไรก็ตาม การลอยตัวราคาแอลพีจีรัฐบาลควรดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนจะเริ่มดำเนินการเมื่อไรก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้มองว่าการลอยตัวราคาแอลพีจีควรดำเนินการควบคู่กับการปรับราคาก๊าซธรรมชาติเพื่อยานยนต์ (เอ็นจีวี) เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เนื่องจากตอนนี้ราคาเอ็นจีวีต่ำกว่าราคาต้นทุนมาก

นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่กรมสรรพสามิตเตรียมเสนอให้รัฐบาลอนุมัติต่ออายุมาตรการการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล จากเดิมที่จะสิ้นสุดในสิ้นเดือนกันยายน 2554 ไปเป็นสิ้นเดือนตุลาคม 2554 นี้ หากรัฐบาลจะปรับขึ้นภาษีก็สามารถทำได้ แต่หากทำตอนนี้อาจจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เพราะสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่จะลดราคาพลังงาน

โดยที่ผ่านมา การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน หรือ 1.2 แสนล้านบาทต่อปี ดังนั้นการจะปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลก็ควรจะทำในอนาคต โดยให้ทยอยปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และสามารถนำเงินส่วนหนึ่งมาพัฒนาประเทศได้

ด้านายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน ปตท. กล่าวว่า ปัจจุบันค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยโดยรวมทุกประเภทอยู่ที่ลิตรละ 50 สตางค์ จากที่ควรจะเป็นลิตรละ 1.50 บาท โดยเฉพาะค่าการตลาดแก๊สโซฮอล์ 91 ต่ำมากอยู่ที่ลิตรละ 20 สตางค์ เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 70-80 สตางค์ และดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 50 สตางค์

กรณีดังกล่าว ส่งผลให้ ปตท.ต้องแบกรับภาระ และรายได้หายไป 20 ล้านบาทต่อวัน โดยเป็นในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 91 ยอดขายหายไป 3-4 ล้านบาทต่อวัน ทั้งนี้ หากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำ ผู้ค้าน้ำมันยังสามารถประคองสถานการณ์ต่อไปได้ แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นก็อาจจะต้องมีการปรับขึ้นราคา

สำหรับในช่วง 4 วันที่มีการยกเว้นการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ยอดการใช้น้ำมันเบนซิน 91 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 25-30 จากเดิมใช้อยู่ 2.2 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มเป็นเกือบ 3 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนดีเซล ยอดใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปัจจุบันที่มีการใช้อยู่ 17 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนแก๊สโซฮอล์ถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว โดยแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3 ล้านลิตรต่อวัน แก๊สโซฮอล์ 95 ยอดขายอยู่ที่ 5-7 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนเบนซิน 95 ปตท. ยังมีจำหน่ายอยู่ 10 ปั๊มทั่วประเทศ แต่มียอดขายอยู่ 1 แสนลิตรต่อวันเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น