ASTVผู้จัดการรายวัน – “ทริพเพิลไอฯ” เร่งเครื่องหลังครึ่งปีแรก่รายได้ต่ำเป้าาเล็กน้อย เหตุสงครามราคาค่าละวางสินค้า 30% เดินหน้าขยายฐานลูกค้า พร้อมเป็นตัวแทนอีกหลายสายการบินในการขนส่งสินค้า ลงทุนเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าอันตรายอีก มั่นใจดันสิ้นปีทะลุ 1,800 ล้านบาท เติบโต 11% ตามเป้าหมายแน่นอน
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ทริพเพิล ไอ ลอจิสติกส์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 2554 นี้ บริษัทฯมีรายได้ประมาณ 832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากเดิมที่ทำได้ 800 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่ก็ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อย เพราะว่าตลาดรวมมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเรื่องของการลดราคาค่าละวางสินค้า สูงถึง 25-30% ยิ่งกว่านั้นในบางช่องทางมีการปรับลดราคาลงถึง 30-50% ทำให้รายได้ลดลง แม้ว่าจะมีปริมาณการขนส่งสินค้าที่มากขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การเมืองที่ลงตัวขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น มั่นใจว่า ตลาดรวมในช่วงครึ่งปีหลังนี้คงจะดีขึ้น ส่งผลให้ค่าละวางสินค้าจะทรงตัวหรืออย่างน้อยก็ไม่มีการปรับลดราคาลงมาแข่งกันรุนแรงอีกเหมือนครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หรือหากดีกว่านั้นราคาอาจจะขยับสูงขึ้นเล็กน้อย 5-10% ก็เป็นได้ เพราะตลาดมีความต้องการมากขึ้น ส่วนการขนส่งภายในประเทศทางบก อาจจะมีราคาลดลงบ้างเล็กน้อยประมาณ 5% ตามราคาน้ำมันที่ลดลงจากที่รัฐบาลได้ประกาศซรบลดรราคาลงนายทิพย์กล่าวว่า บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้รวมในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 1,800 ล้านบาท ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่แรก มีอัตราการเติบโต 11% โดยแยกเป็นรายได้จากการขนส่งทางอากาศ 950 ล้านบาท รายได้จากการขนส่งทางทะเล 650 ล้านบาท และโลจิสติกส์ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯจะรุกตลาดหนักขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ โดยมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าซึ่งจะเน้นหนักไปในแถบภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน อินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ รวมไปถึงตลาดในละตินอเมริกาด้วย เพราะประเทศเหล่านี้มีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจค่อนข้างสูง ส่งผลให้มีความต้องการด้านขนส่งตามไปด้วย
“ที่เห็นชัดที่สุดคือ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุสึนามิเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ ญี่ปุ่นเองก็ต้องการที่จะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อฟื้นฟูประเทศให้กลับมาดีขึ้น ดังนั้นจึงเป็นหนทางที่บริษัทฯจะให้ความสำคัญเข้าไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยการตั้งบริษัท ไทยคานาซาวะ จำกัด ขึ้นมาดำเนินการและเน้นการขนส่งสินค้าของประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะด้วย” นายทิพย์กล่าว
ขณะเดียวกันยังได้จัดตั้ง บริษัทและเครือข่ายการขนส่งใหม่ใน 12 ประเทศ ด้วยการร่วมมือเป็นพันธมิตรระดับภูมิภาคของ CGG (Cargo GSA Group) มีวัตถุประสงค์ต้องการเป็นตัวแทนการขนส่งสินค้าทางอากาศให้กับสายการบิน ซึ่งนอกจากนั้นยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนการขนส่งสินค้าให้กับสายการบินแลน (LAN CARGO) ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งจะใช้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการกระจายสินค้าประจำภูมิภาคไปยังประเทศต่างๆที่เป็นเป้หหมายของกลุ่มลาตินอเมริกา เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย
นอกจากนั้นบริษัทฯยังได้รับการแต่งตั้งจากสายการบินเอมิเรตส์ ให้เป็นผู้ขนส่งสินค้าในประเทศกัมพูชาด้วย และยังเป็นตัวแทนสายการบินออลนิปปอนแอร์เวยส์ เพื่อรับผิดชอบส่งสินค้าในประเทศกัมพูชาและมาเก๊าอีกด้วย
ทั้งนี้จากแผนการขยายธุรกิจ บริษัทฯได้ลงทุนเพิ่มคลังสินค้าอันตรายอีก 2,500 ตารางเมตร รวมเป็น 5,000 ตารางเมตร ทำให้บริษัท?มีคลังสินค้ารวมพื้นที่ทั้งหมด 20,000 ตารางเมตรในปัจจุบันนี้
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ทริพเพิล ไอ ลอจิสติกส์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 2554 นี้ บริษัทฯมีรายได้ประมาณ 832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากเดิมที่ทำได้ 800 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่ก็ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อย เพราะว่าตลาดรวมมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเรื่องของการลดราคาค่าละวางสินค้า สูงถึง 25-30% ยิ่งกว่านั้นในบางช่องทางมีการปรับลดราคาลงถึง 30-50% ทำให้รายได้ลดลง แม้ว่าจะมีปริมาณการขนส่งสินค้าที่มากขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การเมืองที่ลงตัวขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น มั่นใจว่า ตลาดรวมในช่วงครึ่งปีหลังนี้คงจะดีขึ้น ส่งผลให้ค่าละวางสินค้าจะทรงตัวหรืออย่างน้อยก็ไม่มีการปรับลดราคาลงมาแข่งกันรุนแรงอีกเหมือนครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หรือหากดีกว่านั้นราคาอาจจะขยับสูงขึ้นเล็กน้อย 5-10% ก็เป็นได้ เพราะตลาดมีความต้องการมากขึ้น ส่วนการขนส่งภายในประเทศทางบก อาจจะมีราคาลดลงบ้างเล็กน้อยประมาณ 5% ตามราคาน้ำมันที่ลดลงจากที่รัฐบาลได้ประกาศซรบลดรราคาลงนายทิพย์กล่าวว่า บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้รวมในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 1,800 ล้านบาท ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่แรก มีอัตราการเติบโต 11% โดยแยกเป็นรายได้จากการขนส่งทางอากาศ 950 ล้านบาท รายได้จากการขนส่งทางทะเล 650 ล้านบาท และโลจิสติกส์ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯจะรุกตลาดหนักขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ โดยมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าซึ่งจะเน้นหนักไปในแถบภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน อินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ รวมไปถึงตลาดในละตินอเมริกาด้วย เพราะประเทศเหล่านี้มีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจค่อนข้างสูง ส่งผลให้มีความต้องการด้านขนส่งตามไปด้วย
“ที่เห็นชัดที่สุดคือ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุสึนามิเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ ญี่ปุ่นเองก็ต้องการที่จะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อฟื้นฟูประเทศให้กลับมาดีขึ้น ดังนั้นจึงเป็นหนทางที่บริษัทฯจะให้ความสำคัญเข้าไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยการตั้งบริษัท ไทยคานาซาวะ จำกัด ขึ้นมาดำเนินการและเน้นการขนส่งสินค้าของประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะด้วย” นายทิพย์กล่าว
ขณะเดียวกันยังได้จัดตั้ง บริษัทและเครือข่ายการขนส่งใหม่ใน 12 ประเทศ ด้วยการร่วมมือเป็นพันธมิตรระดับภูมิภาคของ CGG (Cargo GSA Group) มีวัตถุประสงค์ต้องการเป็นตัวแทนการขนส่งสินค้าทางอากาศให้กับสายการบิน ซึ่งนอกจากนั้นยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนการขนส่งสินค้าให้กับสายการบินแลน (LAN CARGO) ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งจะใช้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการกระจายสินค้าประจำภูมิภาคไปยังประเทศต่างๆที่เป็นเป้หหมายของกลุ่มลาตินอเมริกา เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย
นอกจากนั้นบริษัทฯยังได้รับการแต่งตั้งจากสายการบินเอมิเรตส์ ให้เป็นผู้ขนส่งสินค้าในประเทศกัมพูชาด้วย และยังเป็นตัวแทนสายการบินออลนิปปอนแอร์เวยส์ เพื่อรับผิดชอบส่งสินค้าในประเทศกัมพูชาและมาเก๊าอีกด้วย
ทั้งนี้จากแผนการขยายธุรกิจ บริษัทฯได้ลงทุนเพิ่มคลังสินค้าอันตรายอีก 2,500 ตารางเมตร รวมเป็น 5,000 ตารางเมตร ทำให้บริษัท?มีคลังสินค้ารวมพื้นที่ทั้งหมด 20,000 ตารางเมตรในปัจจุบันนี้
