“บิ๊กโคล่า” ชูไทยเป็นฐานทัพบัญชาการตลาดบุกเอเซีย ตั้งเป้าอีก 2 ปีรายได้เอเชียมีสัดส่วนเป็น 70% จากเดิม 30% เล็งผุดโรงงานผลิตเพิ่มอีก ทุ่มงบ 300 ล้านบาท เป็นออฟฟิศเชียลพาร์ทเนอร์ 4 สโมสรฟุตบอลดังขออังกฤษ
นายฆอร์เก้ โลเปซ โดริก้า ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บิ๊กโคล่า อาเจ กรุ๊ป จากประเทศเปรู เปิดเผยว่า กลุ่มอาเจบิ๊กโคล่าจะใช้ไทยเป็นฐานในการทำตลาดในกลุ่มตลาดเอเชีย เนื่องจากตลาดเอเชียมีความสำคัญและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก โดยมีเป้าหมายที่จะให้สัดส่วนรายได้จากทวีปเอเชียเพิ่มเป็น 70% และตลาดละตินอเมริกาเหสือสัดส่วน 30% ภายใน 2 ปีจากนี้ จากปัจจุบันเอเซียมีสัดส่วนเพียง 30% เท่านั้น ส่วนละตินอเมริกามีสัด่วน 70% ซึ่งปีที่แล้วรายได้รวมทั่วโลกของบริษัทฯเติบบโต 20%
โดยล่าสุดบริษัทแม่ได้โยกฐานบัญชาการด้านการตลาดโลกมาไว้ที่ประเทศไทย จากเดิมอยู่ที่เมืองมาดริด ประเทศสเปน โดยมีตัวเขาเองคือ นายฆอร์เก้ซึ่งเป็นซีเอ็มโอและ อีกคนคือตำแหน่ง Head Marketing ของเอเซีย มานั่งบัญชาการที่ประเทศไทย เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมานี้
“ประเทศไทยมีศักยภาพหลายด้านทั้งการตลาดและยังเป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคมสำหรับการกระจายสินค้าไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียได้ด้วย รวมทั้งไทยยังมีศักยภาพทางด้านความคิด ดังนั้นไทยจึงมีความเหมาะสมในการเป็นฐานการตลาดในเอเซีย” นายฆอร์เก้กล่าว
ส่วนแผนลงทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจจึงเตรียมแผนสร้างโรงงานการผลิตเพิ่มในเอเซียอีก จากปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมในภูมิภาคเอเชียแล้ว 4 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งในไทยทำตลาดมาแล้ว 5 ปี มีส่วนแบ่ง 22-25% เป็นอันดับ3ของตลาดน้ำดำ ขณะที่ในเวียดนามเพิ่งทำตล่าดได้ 6 เดือนปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นที่ 3 ในประเทศเวียดนาม ส่วนตลาดใหม่ๆที่ต้องการขยายเช่น จีน เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่มาก
นายฆอร์เก้ กล่าวด้วยว่า การรุกตลาดเอเชียจะมีความสำคัญมากขึ้น ล่าสุด ได้ใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อเซ็นสัญญาเป็นออฟฟิศเชียลพาร์ทเนอร์ (Official Partner) ของ 4 ทีมสโมรสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ คือ ทีมสโมสรเอฟเวอร์ตัน สโมสรสโตกซิตี้ สโมสรเวสต์บรอมวิชอัลเบียน และสโมสรวีแกนแอธเลติก เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยแต่ละสโมสรจะมีค่าลิขสิทธิ์ไม่เท่ากัน แตกต่างกันไป ทั้งนี้จะเป็นการตอกย้ำการเป็นโกลบอลแบรนด์และขยายตลาดยุโรปด้วย จากเดิมที่เน้นแต่ตลาดละตินอเมริกากับเอเซียเท่านั้น
เนื่องจากทั้ง 4 ทีมนี้ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆของฟุตบอลอังกฤษ ขณะที่ฟุตบอลอังกฤษเองก็เป็นที่สนใจของคนทั่วโลกมากที่สุดด้วย โดยมีการถ่ายทอดการแข่งขันใน 200 ประเทศ และมีผู้ชมมากกว่า 600 ล้านครัวเรือน หรือเกือบ 3,000 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้เป็นประชากรในเอเซียมากถึง 38% หรือมากกว่า 900 ล้านคน และเข้าถึงมากกว่า 570 ล้านคนในยุโรป หรือคิดเป็นจำนวนเวลาที่มีการถ่ายทอด ผ่านจอทีวีมากกว่า 47,447 ชั่วโมงในยุโรป หรือประมาณ 3,906 ชั่วโมงในเอเชีย โดยสิทธิ์ที่บิ๊กโคล่าจะได้รับคือ การโฆษณาในแอลอีดีบอร์ดในสนามฟุตบอลทั้ง 4 สโมสร การใช้ภาพนักเตะของสโมสรเหล่านั้นและภาพของสโมสรในการทำกิจกรรมทางการตลาดแบบ360องศา การใช้สิทธิ์ตราสัญลักษณ์ของสี่สโมสร การได้ตั๋วฟุตบอล เป็นต้น และอาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตทั้ง4สโมสรนี้อาจจะเดินทางมาเมืองไทยด้วย
นายฆอร์เก้ โลเปซ โดริก้า ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บิ๊กโคล่า อาเจ กรุ๊ป จากประเทศเปรู เปิดเผยว่า กลุ่มอาเจบิ๊กโคล่าจะใช้ไทยเป็นฐานในการทำตลาดในกลุ่มตลาดเอเชีย เนื่องจากตลาดเอเชียมีความสำคัญและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก โดยมีเป้าหมายที่จะให้สัดส่วนรายได้จากทวีปเอเชียเพิ่มเป็น 70% และตลาดละตินอเมริกาเหสือสัดส่วน 30% ภายใน 2 ปีจากนี้ จากปัจจุบันเอเซียมีสัดส่วนเพียง 30% เท่านั้น ส่วนละตินอเมริกามีสัด่วน 70% ซึ่งปีที่แล้วรายได้รวมทั่วโลกของบริษัทฯเติบบโต 20%
โดยล่าสุดบริษัทแม่ได้โยกฐานบัญชาการด้านการตลาดโลกมาไว้ที่ประเทศไทย จากเดิมอยู่ที่เมืองมาดริด ประเทศสเปน โดยมีตัวเขาเองคือ นายฆอร์เก้ซึ่งเป็นซีเอ็มโอและ อีกคนคือตำแหน่ง Head Marketing ของเอเซีย มานั่งบัญชาการที่ประเทศไทย เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมานี้
“ประเทศไทยมีศักยภาพหลายด้านทั้งการตลาดและยังเป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคมสำหรับการกระจายสินค้าไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียได้ด้วย รวมทั้งไทยยังมีศักยภาพทางด้านความคิด ดังนั้นไทยจึงมีความเหมาะสมในการเป็นฐานการตลาดในเอเซีย” นายฆอร์เก้กล่าว
ส่วนแผนลงทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจจึงเตรียมแผนสร้างโรงงานการผลิตเพิ่มในเอเซียอีก จากปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมในภูมิภาคเอเชียแล้ว 4 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งในไทยทำตลาดมาแล้ว 5 ปี มีส่วนแบ่ง 22-25% เป็นอันดับ3ของตลาดน้ำดำ ขณะที่ในเวียดนามเพิ่งทำตล่าดได้ 6 เดือนปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นที่ 3 ในประเทศเวียดนาม ส่วนตลาดใหม่ๆที่ต้องการขยายเช่น จีน เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่มาก
นายฆอร์เก้ กล่าวด้วยว่า การรุกตลาดเอเชียจะมีความสำคัญมากขึ้น ล่าสุด ได้ใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อเซ็นสัญญาเป็นออฟฟิศเชียลพาร์ทเนอร์ (Official Partner) ของ 4 ทีมสโมรสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ คือ ทีมสโมสรเอฟเวอร์ตัน สโมสรสโตกซิตี้ สโมสรเวสต์บรอมวิชอัลเบียน และสโมสรวีแกนแอธเลติก เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยแต่ละสโมสรจะมีค่าลิขสิทธิ์ไม่เท่ากัน แตกต่างกันไป ทั้งนี้จะเป็นการตอกย้ำการเป็นโกลบอลแบรนด์และขยายตลาดยุโรปด้วย จากเดิมที่เน้นแต่ตลาดละตินอเมริกากับเอเซียเท่านั้น
เนื่องจากทั้ง 4 ทีมนี้ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆของฟุตบอลอังกฤษ ขณะที่ฟุตบอลอังกฤษเองก็เป็นที่สนใจของคนทั่วโลกมากที่สุดด้วย โดยมีการถ่ายทอดการแข่งขันใน 200 ประเทศ และมีผู้ชมมากกว่า 600 ล้านครัวเรือน หรือเกือบ 3,000 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้เป็นประชากรในเอเซียมากถึง 38% หรือมากกว่า 900 ล้านคน และเข้าถึงมากกว่า 570 ล้านคนในยุโรป หรือคิดเป็นจำนวนเวลาที่มีการถ่ายทอด ผ่านจอทีวีมากกว่า 47,447 ชั่วโมงในยุโรป หรือประมาณ 3,906 ชั่วโมงในเอเชีย โดยสิทธิ์ที่บิ๊กโคล่าจะได้รับคือ การโฆษณาในแอลอีดีบอร์ดในสนามฟุตบอลทั้ง 4 สโมสร การใช้ภาพนักเตะของสโมสรเหล่านั้นและภาพของสโมสรในการทำกิจกรรมทางการตลาดแบบ360องศา การใช้สิทธิ์ตราสัญลักษณ์ของสี่สโมสร การได้ตั๋วฟุตบอล เป็นต้น และอาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตทั้ง4สโมสรนี้อาจจะเดินทางมาเมืองไทยด้วย