วานนี้ (29ส.ค.)นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม ในฐานะกรรมาธิการสามัญตรวจสอความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบพ.อ.นที สุกลรัตน์ นายพนา ทองมีอาคม รักษาการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกสทช. ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 279-280 จากกรณีอนุมัติงบประมาณ 84 ล้านบาท ให้กับวุฒิสภาดำเนินโครงการอิ่มบุญ 999 วัด ในช่วงระหว่างกำลังมีกระบวนการสรรหา กสทช.
โครงการดังกล่าวได้มีการอนุมัติเมื่อเดือน ธ.ค.2553 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) มีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่าเมื่อกฎหมายบังคับใช้การสรรหากสทช.จะต้องเริ่มขึ้น แต่กทช.ในฐานะเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ที่เข้ารับการสรรหากลับมีการอนุมัติเงินดังกล่าว ทำให้เป็นเหตุสงสัยว่ามีลักษณะของผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ และเป็นการจ่ายซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ เพราะวุฒิสภามีอำนาจคัดเลือก กสทช.
นอกจากนี้เงินจำนวน 84 ล้านบาทของ กสทช. แท้ที่จริงจะดำเนินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมของเยาวชน เนื่องในวโรกาศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุ 84 พรรษา แต่ปรากฏว่ามีการอนุมัติเงินดังกล่าวให้วุฒืสภาในช่วงคาบเกี่ยวกับการสรรหา โดยส.ว.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวคือ นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานโครงการอิ่มบุญ ที่นำเงินดังกล่าวไปดำเนินการทุกจังหวัด ขณะเดียวกันทราบมาว่ามีส.ว.หลายคนที่ร่วมเป็นกรรมการโครงการดังกล่าว ได้ขอถอนตัวภายหลัง อาทิ นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง นายโสภณ ศรีมาเหล็ก ส.ว.น่าน นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์
“ทั้งนี้หากผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ปรากฏว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจริง ขอให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พิจารณาดำเนินการโดยให้ถือเป็นเหตุให้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งกทช. ตามรัฐธรรมนูญด้วย อย่างไรก็ตามการประชุมวุฒิสภา เพื่อลงมติเลือก กสทช. ในวันที่ 5-6 ก.ย.นี้ จะดำเนินการตามปกติ โดยจะไม่ยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภาชะลอการนำเสนอระเบียบวาระดังกล่าวออกไป”นายสมชาติกล่าว
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ สว.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานโครงการอิ่มบุญ ชี้แจงว่า โครงการอิ่มบุญได้ริเริ่มตั้งแต่ปี 2552 โดยเป็นแผนงานของคณะกรรมมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ก่อนที่จะมีพ.ร.บ.กสทช.และเป็นหนึ่งใน 8 โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาส 84 พรรษา ของทางวุฒิสภา โดยประธานวุฒิสภาได้ตั้งคณะกรรมการ 20 คน มาจากหน่วยราชการ เอกชน และสว.10 คนทั้งนี้กรรมการไม่ได้เป็นผู้ถือเงินแต่การใช้งบประมาณผ่านทางสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งมีระเบียบการเงินการคลังทางราชการไม่สามารถใช้เงินได้ตามอำเภอใจ
“ยืนยันว่าโครงการนี้ไม่เกี่ยวกับการหาเสียงการเลือกกสทช.และไม่มีใครได้ประโยชน์ส่วนตัว กรรมการทุกคนมีความตั้งใจที่จะพัฒนาเยาวชนให้มีคุณธรรม ดังนั้นจึงขอเรียกร้องว่าการหาเสียงของกสทช.โดยใครจะช่วยใครก็ทำไปแต่อย่าไปมุ่งโจมตีคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย อย่าเอาเกมส์การเมืองมาทำลายโครงการอิ่มบุญซึ่งถิอเป็นประโยชน์ให้กับศาสนา และสังคม อย่างไรก็ตามหากการร้องเรียนมีความเกี่ยวข้องผมในฐานะกรรมการก็ยินดีที่จะไปชี้แจงข้อซักถามต่อไป”นายสิริวัฒน์
โครงการดังกล่าวได้มีการอนุมัติเมื่อเดือน ธ.ค.2553 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) มีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่าเมื่อกฎหมายบังคับใช้การสรรหากสทช.จะต้องเริ่มขึ้น แต่กทช.ในฐานะเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ที่เข้ารับการสรรหากลับมีการอนุมัติเงินดังกล่าว ทำให้เป็นเหตุสงสัยว่ามีลักษณะของผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ และเป็นการจ่ายซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ เพราะวุฒิสภามีอำนาจคัดเลือก กสทช.
นอกจากนี้เงินจำนวน 84 ล้านบาทของ กสทช. แท้ที่จริงจะดำเนินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมของเยาวชน เนื่องในวโรกาศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุ 84 พรรษา แต่ปรากฏว่ามีการอนุมัติเงินดังกล่าวให้วุฒืสภาในช่วงคาบเกี่ยวกับการสรรหา โดยส.ว.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวคือ นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานโครงการอิ่มบุญ ที่นำเงินดังกล่าวไปดำเนินการทุกจังหวัด ขณะเดียวกันทราบมาว่ามีส.ว.หลายคนที่ร่วมเป็นกรรมการโครงการดังกล่าว ได้ขอถอนตัวภายหลัง อาทิ นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง นายโสภณ ศรีมาเหล็ก ส.ว.น่าน นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์
“ทั้งนี้หากผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ปรากฏว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจริง ขอให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พิจารณาดำเนินการโดยให้ถือเป็นเหตุให้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งกทช. ตามรัฐธรรมนูญด้วย อย่างไรก็ตามการประชุมวุฒิสภา เพื่อลงมติเลือก กสทช. ในวันที่ 5-6 ก.ย.นี้ จะดำเนินการตามปกติ โดยจะไม่ยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภาชะลอการนำเสนอระเบียบวาระดังกล่าวออกไป”นายสมชาติกล่าว
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ สว.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานโครงการอิ่มบุญ ชี้แจงว่า โครงการอิ่มบุญได้ริเริ่มตั้งแต่ปี 2552 โดยเป็นแผนงานของคณะกรรมมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ก่อนที่จะมีพ.ร.บ.กสทช.และเป็นหนึ่งใน 8 โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาส 84 พรรษา ของทางวุฒิสภา โดยประธานวุฒิสภาได้ตั้งคณะกรรมการ 20 คน มาจากหน่วยราชการ เอกชน และสว.10 คนทั้งนี้กรรมการไม่ได้เป็นผู้ถือเงินแต่การใช้งบประมาณผ่านทางสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งมีระเบียบการเงินการคลังทางราชการไม่สามารถใช้เงินได้ตามอำเภอใจ
“ยืนยันว่าโครงการนี้ไม่เกี่ยวกับการหาเสียงการเลือกกสทช.และไม่มีใครได้ประโยชน์ส่วนตัว กรรมการทุกคนมีความตั้งใจที่จะพัฒนาเยาวชนให้มีคุณธรรม ดังนั้นจึงขอเรียกร้องว่าการหาเสียงของกสทช.โดยใครจะช่วยใครก็ทำไปแต่อย่าไปมุ่งโจมตีคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย อย่าเอาเกมส์การเมืองมาทำลายโครงการอิ่มบุญซึ่งถิอเป็นประโยชน์ให้กับศาสนา และสังคม อย่างไรก็ตามหากการร้องเรียนมีความเกี่ยวข้องผมในฐานะกรรมการก็ยินดีที่จะไปชี้แจงข้อซักถามต่อไป”นายสิริวัฒน์