xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจการฯ ชี้ 5 ปี ภาพรวมจริยธรรมของชาติเสื่อมทราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปราโมทย์ โชติมงคล  (แฟ้มภาพ)
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุ 5 ปีภาพรวมจริยธรรมชาติเสื่อมทราม การทะเลาะกันระหว่างสีเสื้อ สะท้อนคนคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่เคารพสิทธิ ความเดือดร้อนคนอื่น หวังนายกฯ ปู ทำตามคำพูดแก้ไขไม่แก้แค้น

วันนี้ (11 ส.ค.) คณะกรรมการจริยธรรมสภาพัฒนาการเมือง สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้จัดเสวนา เรื่อง “การขับเคลื่อนประมวลจริยธรรมสู่การปฏิบัติ”

โดยนายบวรศกดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ปัญหาเรื่องจริยธรรมที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ตลอดเวลาไม่ว่ากรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทะเลาะวิวาท ชกต่อยกันในสภา หรือมีบางคนนำคลิปการประชุมของศาลรัฐธรรมนูญมาเผยแพร่ พร้อมทั้งพาดพิงถึงตุลาการบางคนในศาลบางศาล รวมถึงทัศนคติของประชาชนจากการผลสำรวจที่มีความเห็นว่ารัฐบาลสามารถทำการทุจริตได้ เพื่อแลกกับการพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญขึ้น แต่จริยธรรมคือความประพฤตที่ดีงาม มีศีลธรรม คุณธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 40 ได้มีบทบัญญัติมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่กลไกการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติยังไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ดังนั้น รัฐธรรมนูญปี 50 จึงได้นำเรื่องจริยธรรมมากำหนด เช่น มาตรา 279 และมาตรา 280 ที่บัญญัติถึงเรื่องจริยธรรมว่าผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำหน้าที่ควบคุมดูแลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากมีการฝ่าฝืนอย่างร้ายแรงนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่งได้

เมื่อรัฐธรรมนูญให้ความสำคัญประกอบกับให้มีการจัดตั้งสภาพัฒนาการเมืองขึ้นที่มีหน้าที่พัฒนาการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย และส่งเสริมคุณจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้น ทั้ง 3 หน่วยงานจึงมีหน้าที่ขับเคลื่อนประมวลจริยธรรม เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม หากทุกหน่วยงานช่วยกันเสริมสร้างขับเคลื่อนสิ่งที่ดีงามแล้วตนเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราก็จะลดลง

ขณะที่ นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวในหัวข้อเรื่อง “ภาพรวมจริยธรรมของชาติ” ใจความตอนหนึ่งว่า ช่วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองเรามีปัญหา หากติดตามข่าวสารจะพบว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันนั้นมีความรุนแรงมากขึ้น จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่ส่วนใหญ่สามารถยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่นเพื่อแลกกับการพัฒนาบ้านเมืองถือว่าเป็นการสะท้อนความเสื่อมทรามด้านจริยธรรมของผู้คน นอกจากนี้ การแตกแยกไม่ยอมแพ้ชนะ ไม่ว่าเสื้อสีอะไรที่ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่คิดว่าตนเองมีสิทธิ โดยอ้างว่าทำเพื่อแผ่นดิน ไม่สนใจว่าคนอื่นจะได้รับความเดือดร้อน เช่น ปิดถนน ปิดสนามบิน ซึ่งหากใครไม่เห็นด้วยก็เห็นว่า เป็นศัตรคู่แค้น แสดงถึงความเสื่อมทรามทางวิธีคิดที่คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่เคารพสิทธิและความเดือดร้อนของผู้อื่น ทั้งที่สิ่งที่คนเหล่านี้ทำเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองในส่วนรวม

นอกจากนี้ คนในสังคมยังมีค่านิยมยอมรับผู้ประสบความสำเร็จทั้งที่ได้มาโดยไม่ถูกต้อง ส่วนผู้ทำหน้าที่โดยสุจริตกลับไม่ได้การยกย่องเชิดชู ดังนั้นขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องถูกปลูกฝังว่า ต้องเข้ามาทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ที่สำคัญต้องความพร้อมใน 2 ด้าน ทั้งฐานะความเป็นอยู่และความรู้ความสามารถที่จะมาตัดสินใจเชิงนโยบายได้ ไม่ใช่นำใครมาเป็นรัฐมนตรีก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลุ้มใจ เพราะคนที่มาเป็นรัฐมนตรีต้องมาให้ไม่ใช่มาเอา หากมาเอาต้องเอาชื่อเสียงเกียรติยศ ไม่ใช่มาเอาความร่ำรวยหรือเอาเปรียบคนอื่น และต้องเป็นตัวอย่างทีดีต่อเยาวชน

“เวลานี้บ้านเมืองเราบอบช้ำ เสียหาย หยุดนิ่ง มีปัญหารอบด้วยด้วยพื้นฐานหลักจากคนเสื่อมถอย ยึดประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนร่วม เมื่อส่วนร่วมเสียหาย ไม่ว่าเสื้อสีไหนจะชนะ แต่สิ่งที่แพ้คือประเทศ ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญ หากเราหวังพึ่งคนยุคนี้ไม่ได้ ต้องปลูกฝังที่เยาวชน สถานศึกษา ผมตั้งความหวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ย้ำว่าจะเข้ามาแก้ไขไม่แก้แค้นนั้นก็ขอให้ทำสมกับคำพูด”
กำลังโหลดความคิดเห็น