ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้โพลให้ ส.ส.-ส.ว.-ข้าราชการมีสำนึกต่ำ สะท้อนความหวังของชาวบ้านมีปัญหา หวั่นกลายเป็นค่านิยมไม่ดี ชี้ยุค “นช.แม้ว” จุดเริ่มแตกสามัคคี โกงเพราะโลภ เด้งไม่เป็นธรรม เล็งถกหัวหน้าพรรคปลุกสำนึกให้ พร้อมสร้างเครือข่ายคุณธรรม
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่สถาบันพระปกเกล้าได้เผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำงานของ ส.ส., ส.ว. และข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งปรากฏว่าประชาชนให้คะแนนด้านความสำนึกรับผิดชอบในระดับที่ต่ำ และยังให้คะแนนความไว้วางใจในการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภาแค่ปานกลางว่า ผลการสำรวจดังกล่าวเป็นการสะท้อนว่าสังคมบ้านเราที่ผ่านมา ผู้ที่มีอำนาจรัฐที่เป็นความหวังของประชาชนกำลังมีปัญหา เพราะ ส.ส.และส.ว.ถือว่าเป็นแบบอย่างของประชาชนที่มุ่งหวังในสิ่งที่เกิดขึ้น หากทำไม่ดีก็เกรงว่าเยาวชนก็จะนำไปเป็นแบบอย่างและกลายเป็นค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง
นายปราโมทย์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าบ้านเมืองของเรา ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีปัญหาเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่าง แตกความสามัคคี มีความพยายามเอาเป็นเอาตาย เอาชนะกัน และการใช้ความรุนแรงเหมือนอีกฝ่ายเป็นศัตรู ปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันเนื่องจากความโลภ รวมถึงปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นความอยากได้ใครมี ดังนั้นผู้ตรวจการฯมีภาระหน้าที่ปลูกจิตสำนึกให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีจิตสำนึกรับผิดชอบ ตนคิดว่าเราต้องทำอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการทำงานของ ส.ส.ที่ผ่านมา มีการแบ่งหน้าที่ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ที่จ้องจะเอาชนะกัน จึงทำให้เกิดปัญหาที่ประชุมสภาล่มมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการมีสภาฯ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทำให้ภาพรวมของบ้านเมืองเราเกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นตนคิดว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะทำโครงการพบพรรคการเมือง เพื่อขอหารือกับหัวหน้าพรรคการเมือง หรือผู้ที่มีบารมีในพรรคการเมือง แบบเปิดอก กำชับลูกพรรคให้เป็นแบบอย่างในการทำงานเพื่อบ้านเมือง ตนเชื่อว่าหากได้รับความร่วมมือก็จะผลที่ดีต่อบ้านเมือง
“ผมอยากบอกคนที่ทำงานการเมืองว่า เมื่ออาสาเข้ามาทำงานแล้วก็ควรจะทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม ต้องมาทุ่มเทให้บ้านเมือง ไม่ใช่เข้ามาแล้วก็จะมาเอา ผมจะสร้างเครือข่ายคุณธรรมจริยธรรมให้มาก เพื่อขยายผลและบอกต่อ รวมทั้งให้กระทรวงต่างๆ มาเป็นตัวอย่างต้นแบบของความซื่อตรง ข้าราชการกินเงินเดือนประชาชน ต้องบริหารประชาชนด้วยจิตใจที่งามด้วย” ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าว
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่สถาบันพระปกเกล้าได้เผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำงานของ ส.ส., ส.ว. และข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งปรากฏว่าประชาชนให้คะแนนด้านความสำนึกรับผิดชอบในระดับที่ต่ำ และยังให้คะแนนความไว้วางใจในการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภาแค่ปานกลางว่า ผลการสำรวจดังกล่าวเป็นการสะท้อนว่าสังคมบ้านเราที่ผ่านมา ผู้ที่มีอำนาจรัฐที่เป็นความหวังของประชาชนกำลังมีปัญหา เพราะ ส.ส.และส.ว.ถือว่าเป็นแบบอย่างของประชาชนที่มุ่งหวังในสิ่งที่เกิดขึ้น หากทำไม่ดีก็เกรงว่าเยาวชนก็จะนำไปเป็นแบบอย่างและกลายเป็นค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง
นายปราโมทย์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าบ้านเมืองของเรา ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีปัญหาเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่าง แตกความสามัคคี มีความพยายามเอาเป็นเอาตาย เอาชนะกัน และการใช้ความรุนแรงเหมือนอีกฝ่ายเป็นศัตรู ปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันเนื่องจากความโลภ รวมถึงปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นความอยากได้ใครมี ดังนั้นผู้ตรวจการฯมีภาระหน้าที่ปลูกจิตสำนึกให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีจิตสำนึกรับผิดชอบ ตนคิดว่าเราต้องทำอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการทำงานของ ส.ส.ที่ผ่านมา มีการแบ่งหน้าที่ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ที่จ้องจะเอาชนะกัน จึงทำให้เกิดปัญหาที่ประชุมสภาล่มมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการมีสภาฯ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทำให้ภาพรวมของบ้านเมืองเราเกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นตนคิดว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะทำโครงการพบพรรคการเมือง เพื่อขอหารือกับหัวหน้าพรรคการเมือง หรือผู้ที่มีบารมีในพรรคการเมือง แบบเปิดอก กำชับลูกพรรคให้เป็นแบบอย่างในการทำงานเพื่อบ้านเมือง ตนเชื่อว่าหากได้รับความร่วมมือก็จะผลที่ดีต่อบ้านเมือง
“ผมอยากบอกคนที่ทำงานการเมืองว่า เมื่ออาสาเข้ามาทำงานแล้วก็ควรจะทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม ต้องมาทุ่มเทให้บ้านเมือง ไม่ใช่เข้ามาแล้วก็จะมาเอา ผมจะสร้างเครือข่ายคุณธรรมจริยธรรมให้มาก เพื่อขยายผลและบอกต่อ รวมทั้งให้กระทรวงต่างๆ มาเป็นตัวอย่างต้นแบบของความซื่อตรง ข้าราชการกินเงินเดือนประชาชน ต้องบริหารประชาชนด้วยจิตใจที่งามด้วย” ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าว