ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้เวลารัฐบาลพิสูจน์ฝีมือ 6 เดือน แนะให้ย้อนไปดูบทเรียนสมัย “ทักษิณ-อภิสิทธิ์” มาปรับใช้ ระบุแม้ “มาร์ค” โปร่งใส แต่ควบคุมคนอื่นไม่ได้ก็ล้มเหลวเช่นกัน พร้อมเสนอให้ยึดหลักหิริโอตัปปะ
นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า เป็นแนวทางที่รัฐบาลนี้จะบอกกับรัฐสภาว่าในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้าจะทำอะไรบ้าง อะไรเร่งด่วนจะทำก่อน จะเชื่อมั่นได้มากน้อยแค่ไหนว่ารัฐบาลจะทำได้จริง ซึ่งขณะนี้ก็เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น แต่ตนจะให้โอกาสรัฐบาลทำงานในระยะเริ่มแรก 6 เดือน ว่าที่ได้มีการแถลงนโยบายไว้มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน หากวิพากษ์วิจารณ์ตอนนี้จะไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล
นายปราโมทย์กล่าวว่า ในส่วนของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ดูแลเรื่องความเป็นธรรม และจริยธรรม ตนเห็นด้วยที่รัฐบาลประกาศนโยบายว่าจะทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยไม่มุ่งเน้นเฉพาะพรรคพวก ซึ่งรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรหันไปมองบทเรียนจากความล้มเหลวที่ผ่านมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ และนำมาเป็นหลักคิด ซึ่งก็อย่าไปซ้ำรอยในความล้มเหลวนั้น
สำหรับนายอภิสิทธิ์ เท่าที่ผ่านมานั้นทุกคนก็การยอมรับว่ามีความโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ แต่ไม่สามรถควบคุมคนอื่นได้ ก็ประสบกับความล้มเหลว น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะพูดว่าจะไม่แสวงหาผลประโยชน์ และพร้อมจะให้ตรวจสอบ แต่หากไม่สามารถควบคุมคณะรัฐมนตรีได้ ความล้มเหลวก็จะเกิดขึ้น มีหลักเดียวในการบริหารงานทั้งภาครัฐและเอกชนคือ ให้ยึดประโยชน์ส่วนรวมโดยมีหิริโอตัปปะ ละอายต่อการทำผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างไร นายปราโมทย์กล่าวว่า 1.การรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐ และ2.การส่งเสริมจิตสำนึกด้านจริยธรรม ซึ่งการทำไม่ดีไม่มีวันหมด แต่ต้องทำให้เหลือน้อยที่สุด ถ้าจะคอร์รัปชั่นก็ให้เหลือนิดเดียว เรื่องคอร์รัปชันตนไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบโดยตรง แต่หากเริ่มปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ไปโดยปริยาย
“ทุกประเทศในโลกนี้ ในอดีตจนถึงปัจจุบัน พบว่าผู้หญิงที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำหน่วย ไม่ว่าจะในระดับไหนก็ตาม น้อยมากที่จะพบผู้หญิงคอร์รัปชัน เพราะที่ผ่านมามีแต่ผู้ชาย ซึ่งตรงนี้เป็นข้อได้เปรียบ ผมก็จะติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าจะยังอยู่ในสถิติที่ผู้หญิงมีการคอร์รัปชันน้อยที่สุดหรือไม่ ซึ่งก็เป็นนิมิตหมายที่ดีของบ้านเมือง”