วานนี้ (15 ส.ค) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กล่าวถึงนโยบายพลังงานนิวเคลียร์ที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงและปฏิเสธที่จะไม่นำพลังงานนิวเคลียยร์มาใช้ว่า ได้ถามเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และสำนักงานเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) แล้ว ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพียงแต่ให้ความรู้ด้านนิวเคลียร์ และนำพลังงานนิวเคลียร์ไปใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและการแพทย์เท่านั้น
“โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไม่ใช่เป็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์ แต่เป็นของกระทรวงพลังงาน อย่างไรก็ตามในช่วงของการหาเสียง ตนได้พูดในพรรคเพื่อไทยว่าตนไม่เอาพลังงานนิวเคลียร์ ก็ยังยืนยันว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่น่าทำในประเทศไทย ที่สำคัญประเทศที่เจริญแล้วและมีนิวเคลียร์หลายประเทศก็กลับไปทบทวนเกี่ยวกับการนำพลังงานนิวเคลียร์รวมทั้งการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพื่อจะดูว่าทำอย่างไรจึงจะให้ประชาชนปลอดภัย ขณะที่อีกหลายประเทศหันไปหาพลังงานทดแทนในด้านอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยที่ยังไม่มีความจำเป็นเรื่องนิวเคลียร์”นายปลอดประสพ กล่าว
**เตรียมชง ครม.นัดแรกของบวิจัย
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 16 ส.ค.นี้เตรียมเสนอของบประมาณจากนายกรัฐมนตรี ถ้านายกรัฐมนตรียอมรับว่าวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยจะพยายามผลักดันงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาให้ขยับขึ้นมาเป็น 1% ของจีดีพี ที่สำคัญอยากให้นักวิทยาศาสตร์กลับไปมองคนจน เพราะพรรคตนมาจากประชาชนฐานราก เช่นการนำความรู้จากการวิจัยนำไปสู่การปฏิบัติ ให้เกิดประโยชน์ เข้าถึงได้ในราคาถูก และนำเสนอข้อมูลทางวิชาการจาก 2 หน่วยงานได้แก่ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) มาให้คำแนะนำและวางแผนบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งการพยากรณ์น้ำ เพื่อหาทางรับมือไม่ให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา
**ลั่นจะทำกระทรวงวิทย์ เป็นเกรดเอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น นายปลอดประสพ เดินทางเข้ากระทรวงวันแรกตามกำหนดการ 9.50 น. โดยสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 มีทั้งข้าราชการประจำกระทรวงวิทยาศาสตร์ และ ข้าราชการจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงร่วมแสดงความยินดีและให้การตอนรับ
ก่อนเรียกผู้บริหารเข้าประชุมในทันทีเพื่อมอบนโยบาย บริเวณชั้น 4 ของอาคารพระจอมเกล้า กระทรวงวิทยาศาสตร์ ถนนพระราม 6
โดยนายปลอดประสพให้สัมภาษณ์ว่า คนทั่วไปมักจะมองว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นกระทรวงเกรดซี แต่ตนเป็นข้าราชการและนักการเมืองเกรดเอ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาถ้าใครจะมองว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นกระทรวงเกรดอะไรก็ตามแต่ และตนอยากจะถามว่าที่บอกว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นกระทรวงเกรดซีนั้นวัดจากอะไร ในเมื่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ ถือเป็นกระทรวงแม่ของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพียงแต่ปัจจุบันงบประมาณน้อย คนน้อย เพราะงานของกระทรวงส่วนใหญ่เป็นงานวิจัย ไม่ใช่งานก่อสร้าง นักการเมืองจึงไม่สนใจจะมาเป็นรัฐมนตรี แต่เมื่อตนมาเป็นรัฐมนตรีแล้ว ยืนยันว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อย่างแน่นอน
รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่จะดำเนินงานนับจากนี้คือการทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่บนฐานของสติปัญญาความรู้ และทำให้วิทยาศาสตร์มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ เรียกว่าเศรษฐกิจบนฐานนวัตกรรมใหม่ โดยจะโน้มน้าวให้นักวิทยาศาสตร์มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพราะงานวิจัยจะเก็บไว้คงไม่เกิดประโยชน์อะไร นอกจากนี้จะทำให้วิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
“โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไม่ใช่เป็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์ แต่เป็นของกระทรวงพลังงาน อย่างไรก็ตามในช่วงของการหาเสียง ตนได้พูดในพรรคเพื่อไทยว่าตนไม่เอาพลังงานนิวเคลียร์ ก็ยังยืนยันว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่น่าทำในประเทศไทย ที่สำคัญประเทศที่เจริญแล้วและมีนิวเคลียร์หลายประเทศก็กลับไปทบทวนเกี่ยวกับการนำพลังงานนิวเคลียร์รวมทั้งการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพื่อจะดูว่าทำอย่างไรจึงจะให้ประชาชนปลอดภัย ขณะที่อีกหลายประเทศหันไปหาพลังงานทดแทนในด้านอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยที่ยังไม่มีความจำเป็นเรื่องนิวเคลียร์”นายปลอดประสพ กล่าว
**เตรียมชง ครม.นัดแรกของบวิจัย
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 16 ส.ค.นี้เตรียมเสนอของบประมาณจากนายกรัฐมนตรี ถ้านายกรัฐมนตรียอมรับว่าวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยจะพยายามผลักดันงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาให้ขยับขึ้นมาเป็น 1% ของจีดีพี ที่สำคัญอยากให้นักวิทยาศาสตร์กลับไปมองคนจน เพราะพรรคตนมาจากประชาชนฐานราก เช่นการนำความรู้จากการวิจัยนำไปสู่การปฏิบัติ ให้เกิดประโยชน์ เข้าถึงได้ในราคาถูก และนำเสนอข้อมูลทางวิชาการจาก 2 หน่วยงานได้แก่ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) มาให้คำแนะนำและวางแผนบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งการพยากรณ์น้ำ เพื่อหาทางรับมือไม่ให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา
**ลั่นจะทำกระทรวงวิทย์ เป็นเกรดเอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น นายปลอดประสพ เดินทางเข้ากระทรวงวันแรกตามกำหนดการ 9.50 น. โดยสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 มีทั้งข้าราชการประจำกระทรวงวิทยาศาสตร์ และ ข้าราชการจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงร่วมแสดงความยินดีและให้การตอนรับ
ก่อนเรียกผู้บริหารเข้าประชุมในทันทีเพื่อมอบนโยบาย บริเวณชั้น 4 ของอาคารพระจอมเกล้า กระทรวงวิทยาศาสตร์ ถนนพระราม 6
โดยนายปลอดประสพให้สัมภาษณ์ว่า คนทั่วไปมักจะมองว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นกระทรวงเกรดซี แต่ตนเป็นข้าราชการและนักการเมืองเกรดเอ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาถ้าใครจะมองว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นกระทรวงเกรดอะไรก็ตามแต่ และตนอยากจะถามว่าที่บอกว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นกระทรวงเกรดซีนั้นวัดจากอะไร ในเมื่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ ถือเป็นกระทรวงแม่ของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพียงแต่ปัจจุบันงบประมาณน้อย คนน้อย เพราะงานของกระทรวงส่วนใหญ่เป็นงานวิจัย ไม่ใช่งานก่อสร้าง นักการเมืองจึงไม่สนใจจะมาเป็นรัฐมนตรี แต่เมื่อตนมาเป็นรัฐมนตรีแล้ว ยืนยันว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อย่างแน่นอน
รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่จะดำเนินงานนับจากนี้คือการทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่บนฐานของสติปัญญาความรู้ และทำให้วิทยาศาสตร์มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ เรียกว่าเศรษฐกิจบนฐานนวัตกรรมใหม่ โดยจะโน้มน้าวให้นักวิทยาศาสตร์มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพราะงานวิจัยจะเก็บไว้คงไม่เกิดประโยชน์อะไร นอกจากนี้จะทำให้วิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
