xs
xsm
sm
md
lg

เรียกส.ส.แจงฮุบส.ป.ก.วังน้ำเขียว อดีตหน.อุทยานฉาว!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ส.ป.ก.โคราช เดินหน้าเชือดนายทุนฮุบที่ ส.ป.ก.วังน้ำเขียว เผยตรวจสอบแล้ว 572 รายพบเปลี่ยนมือ-ใช้ผิดวัตถุประสงค์อื้อกว่า 40% ส่วนรีสอร์ต 25 แห่งเป็นของนายทุน 21 รายรวม “ลูกสาว ส.ส.”ชื่อดัง แจ้งให้ชี้แจงใน 15 วัน ก่อนสั่งรื้อถอนลั่นหากดื้อแจ้งดำเนินคดีตาม กม.อุทยานฯทับลานติดป้ายสั่งรื้อถอนแล้ว 33 แห่งลุยฟันแก๊งบุกรุกป่าต่อเนื่อง แฉตั้งกก.สอบเอาผิดอดีตหน.อุทยานฯ-จนท.ฉาว กว่า 10 ราย ร่วมฮุบป่าทับลาน

วานนี้ (14 ส.ค.) นายประเสริฐ วิศิษฐจินดา ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบปัญหาการเปลี่ยนมือ การใช้ประโยชน์ผิดวัตถุประสงค์ และนายทุนบุกรุกสร้างรีสอร์ตบ้านพักตากอากาศหรูในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 พื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ว่า จนถึงขณะนี้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)จังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้วรวม 572 ราย จากทั้งหมด 6,412 รายพื้นที่รวมประมาณ 1.4 แสนไร่พบว่ากว่า 40 % ถูกเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิมและใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. ผิดวัตถุประสงค์ เช่น นำไปให้เช่า หรือ คนเก่าเสียชีวิตไปแล้วแต่ไม่ใช่ลูกหรือทายาทเป็นผู้รับมรดก และ อีก 60% เกษตรกรยังใช้ทำการเกษตรเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518

ส่วนรีสอร์ตทั้ง 25 แห่ง ที่เบื้องต้นพบเข้าข่ายตั้งอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.นั้น จากการลงตรวจสอบในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่พบว่ าความจริงแล้วมีเพียง 21 แห่งเท่านั้น ส่วนอีก 4 แห่งเป็นสวนองุ่น และมีชื่อเจ้าของรีสอร์ต รายเดียวซ้ำกันหลายแปลง ขณะนี้ทาง ส.ป.ก.นครราชสีมา ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเกษตรกรเจ้าของที่ดินเดิมที่ได้รับสิทธิ์ทำกินในที่ ส.ป.ก. 4-01 และ เจ้าของรีสอร์ต ให้นำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงการครอบครองที่ดินดังกล่าว โดยให้เวลา 15 วัน นับจากวันได้รับหนังสือ ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ปิดกิจการหนี การส่งหนังสือของเจ้าหน้าที่จึงทำได้อย่างล่าช้า ซึ่งเราส่งทั้งทางไปรษณีย์แบบตอบรับ และส่งตรงกับมือเจ้าตัวกรณีที่อยู่ไม่ชัดเจน แต่รีสอร์ตมักจะปิดหนี ไม่มีคนอยู่ ล่าสุดมีเจ้าของรีสอร์ตทำหนังสือตอบกลับมา 2 ราย ว่า ขอขยายเวลาการชี้แจงออกไป 1 เดือน เพื่อรวบรวมหลักฐานต่างๆ มาชี้แจงแก่เจ้าหน้าที่

**เรียกรีสอร์ตลูกสาว ส.ส.แจงฮุบเขา“ส.ป.ก.”

ต่อข้อถามกรณีรีสอร์ตของลูกสาว นายประนอม โพธิ์คำ ส.ส.นครราชสีมาพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตั้งอยู่บนเนินเขากว่า 500-600 ไร่ และเพิ่งเปลี่ยนชื่อจาก “โพธิ์คำดรากอนฮิลล์”มาเป็น“โกลด์ เมาท์เทน วังน้ำเขียว”นั้น ถูกดำเนินการอย่างไรบ้าง นายประเสริฐ กล่าวว่า รีสอร์ตดังกล่าว เป็น 1 ใน 21 แห่งที่ได้ทำหนังสือแจงให้มาชี้แจงสิทธิ์การครอบครอง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่ใช้ทำรีสอร์ตดังกล่าวเป็นภูเขา ซึ่ง ส.ป.ก.ได้รับมอบมาจากกรมป่าไม้ แต่ไม่ได้จัดสรรให้เกษตรกรเนื่องจากเป็นภูเขา ไม่สามารถจัดสรรให้เกษตรกรเข้าทำกินได้ต้องกันพื้นที่คืนให้กับกรมป่าไม้หรือฟื้นฟูเป็นพื้นที่ป่าเท่านั้น อย่างไรก็ตามกรณีโกลด์เมาท์เทน วังน้ำเขียว ทาง เราก็ให้สิทธิ์ในการเข้ามาชี้แจงรายละเอียดต่างๆ เช่นกับรายอื่นๆ

การดำเนินการจากนี้ไป หลังจากแจ้งให้เกษตรกรและเจ้าของรีสอร์ตบ้านพักมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่แล้ว หากพบ เป็นที่ดิน ส.ป.ก.ชัดเจน เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพื่อดำเนินการปรับสภาพกลับคืนเช่นเดิม หากผู้ประกอบการหรือเจ้าของที่ดินยังนิ่งเฉยไม่มาพบเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วันก็จะแจ้งความดำเนินคดีฟ้องร้องต่อศาลตามกฎหมายต่อไป

“จากข่าวการบุกรุกป่าหรือที่ ส.ป.ก.ที่ออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ลงไปทำงานในพื้นที่ทำงานกันค่อนข้างลำบาก เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้าน และผู้ประกอบการ บางครั้งถึงขั้นข่มขู่เจ้าหน้าที่ก็มีบ้าง อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องทำงานกันอย่างหนักและต้องดำเนินการการตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.พื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ ตามกำหนดระยะเวลาที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้” นายประเสริฐ กล่าว

ส่วนกรณีกรมป่าไม้ขอคืนพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ยังไม่จัดสรรให้เกษตรกรนั้น ขณะนี้ ส.ป.ก.ส่วนกลางได้ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 10 คนลงพื้นที่ อ.วังน้ำเขียวเพื่อทำการรังวัดและสำรวจพื้นที่จริง หรือที่เรียกว่า“ปิดป่าสำรวจ”โดยเจ้าหน้าที่ชุดนี้จะตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2.4 แสนไร่ที่ได้รับมอบมาจากกรมป่าไม้ เพื่อแยกประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินออกให้ชัดเจน จากนั้นจะทราบว่า เหลือพื้นที่อีกเท่าใดที่สามารถจะนำส่งคืนให้กับทางกรมป่าไม้ได้ แต่ที่ผ่านมามีการทำข้อตกลงร่วมกันตั้งแต่ปี 2538 ในการกำหนดให้ ส.ป.ก.กันคืนที่ดินที่ได้รับจากกรมป่าไม้กรณีพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมภายใน 2 ปี ซึ่งบางส่วน ส.ป.ก.ได้คืนไปแล้ว แต่ยังเหลืออีกบางส่วนซึ่งมีข้อตกลงกันรอบ 2 ในปี 2541 ว่า หากยังไม่มีการกันคืนพื้นที่คืนก็ให้หน่วยงานของกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก.ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้พื้นที่ดังกล่าวปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่าร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม การกันพื้นที่คืนดังกล่าวเป็นอำนาจในระดับดับกรมและกระทรวงที่จะตัดสินใจ ซึ่งต้องให้ผู้ใหญ่ระดับสูงคุยกันเองว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

***ทับลานติดป้ายสั่งรื้อแล้ว 33 แห่ง ลุยอีก 10

ด้านนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ทั้งในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ว่าขณะนี้ทางอุทยานฯได้ดำเนินการเข้าติดป้ายประกาศอุทยาน สั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามอำนาจในมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ไปแล้วทั้งสิ้น 33 แห่งและในวันอังคารนี้ 16 ส.ค.จะเดินหน้าติดประกาศเพิ่มอีก 10 แห่งและจะดำเนินการติดป้ายประกาศให้แล้วเสร็จทั้ง 50 แห่งที่มีสิ่งปลูกสร้างภายในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมด 105 แห่งภายในเดือนนี้

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ รายใหม่เพิ่มเติม โดยเข้าไปทำการปลูกยางพาราในพื้นที่ ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งคนที่ถูกจับได้เป็นเพียงคนเฝ้าไร่ให้กับนายทุนชาวไต้หวัน ชื่อ “เสี่ยเฉิน“ พบว่ามีการบุกรุกป่ารวม 80 ไร่ และเจ้าหน้าที่ยังจะเดินหน้าตรวจสอบต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันการดำเนินการของกลุ่มนายทุนไม่ใช่กลุ่มเข้ามาบุกรุกใหม่ แต่เป็นการซื้อต่อจากชาวบ้านที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ทำกิน ตามมติ ครม.30 มิ.ย.41 แต่ชิงขายให้นายทุนไปก่อนแล้วตัวเองก็ไปเป็นลูกจ้างเฝ้าไร่ให้นายทุน

สำหรับการดำเนินการกับเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตนั้นล่าสุดมีผู้ประกอบการยื่นอุทธรณ์เข้ามา 10 ราย ซึ่งต้องต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป ส่วนกรณีที่คดีสิ้นสุดแล้วแต่ผู้ประกอบการรีสอร์ตยังนิ่งเฉย จะยืนขอให้ศาลสั่งบังคับคดีเพื่อให้เจ้าของรีสอร์ต และบริวารออกจากพื้นที่ และทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างด้วย โดยกรณีนี้มีจำนวนประมาณ 20 ราย

**ตั้ง กก.สอบ อดีตหน.อุทยานฯฉาวร่วมฮุบป่า

ต่อข้อถามว่ามีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ รู้เห็นเป็นใจในการบุกรุกป่า หรือไม่นายเทวินทร์ กล่าวอีกว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรุกป่าและปล่อยปละละเลยในการแก้ไขปัญหา เบื้องต้นทราบว่า ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต้นสังกัดของอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานแล้วเบื้องต้นคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีข้าราชการระดับสูงรวมอยู่ด้วย หากการตรวจสอบพบผิดชัดเจนจะมีการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับข้าราชการระดับสูงที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบดังกล่าว เป็นอดีตหัวอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลานทำไร่ปลูกยางพาราเสียเอง โดยใช้แรงงานลูกจ้างของอุทยานฯด้วย ก่อนถูกคำสั่งย้ายด่วนออกจากพื้นที่และถูกตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดอยู่ในขณะนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น