xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบวังน้ำเขียวเดือดปิดถนน จี้รัฐหยุดเชือดปชช.-นายทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ม็อบชาววังน้ำเขียวโคราชกว่า 1 พันเดือดฮือปิดถนน 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี ร้องรัฐหยุดดำเนินการทาง กม.กับ ปชช.-นายทุนรีสอร์ตรุกป่าจนกว่า รบ.ใหม่มีนโยบายชัดเจน พร้อมล่า 5 หมื่นรายชื่อยื่นรัฐบาลใหม่เสนอแก้ กม.ป่า 3 ฉบับกันแนวเขตอุทยานฯ-ป่าสงวนฯออกจากที่ทำกินชาวบ้านและสร้างเป็นเมืองท่องเที่ยวพิเศษ

วานนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่แหล่งเรียนรู้เกษตรเพื่อการพึ่งพาตนเองและสิ่งแวดล้อม สวนลุงโชค บ้านคลองทุเรียน หมู่ 6 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา คณะกรรมาธิการทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการฯ เดินทางมารับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง, เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน และพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อ.วังน้ำเขียว เป็นวันที่ 2 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกลุ่มอนุรักษ์และผู้แทนภาคประชาชน ในพื้นที่ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว เข้าร่วมชี้แจงข้อมูลกว่า 100 คน

นายสุรชัยเผยว่า ไม่คาดคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นที่นี่มีปัญหาหลายเรื่องที่หน่วยงานของรัฐยังไม่เข้าใจและเข้าถึงสภาพปัญหาที่แท้จริง รอให้สภาพปัญหาขยายตัวไปมาก กระทั่งขณะนี้กลายเป็นความวิตกกังวลของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ไปแล้ว เนื่องจากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นประกอบด้วยผู้คนที่เข้ามาใช้ประโยชน์จากที่ดินมีหลายรูปแบบ และกลุ่มนี้ต่างวิตกกังวลว่าตัวเองจะถูกไล่ออกจากพื้นที่ และเป็นที่น่าเสียดายว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในเรื่องนี้อย่างเพียงพอ ซึ่งปัญหาต่างๆ นี้ตนจะทำรายงานและเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ให้เข้าแก้ไขปัญหา คาดว่าจะเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่ได้ประมาณ กลางเดือน ส.ค.นี้

ทั้งนี้ สาเหตุของปัญหาจากที่ได้รับฟังจากทุกภาคส่วนสรุปได้ว่ามาจาก 3 ประเด็นหลัก คือ 1.ปัญหาความไม่ชัดเจนของแนวเขตทั้ง อุทยานแห่งชาติทับลาน, ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง และ เขต ส.ป.ก. ซึ่งกลายเป็นปัญหาข้อโตแย้งทั้งระหว่างประชาชน -ภาคเอกชนกับรัฐ และระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกันเอง 2.ปัญหาการเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดิน ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ตามกฎหมายและไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป จากวิถีการเกษตรดั้งเดิม

และ 3.การบังคับใช้กฎหมาย ที่ผ่านมาหน่วยงานและเจ้าหน้าที่หย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมาย ก่อให้เกิดสภาพปัญหารุกรามขยายตัวใหญ่โตออกไป สุดท้ายจะถูกต่อต้านไม่สามารถบังคับใช้ได้ และไม่เป็นไปตามหลักการของกฎหมายที่เป็นเครื่องมือในการสร้างความสงบสุขให้กับสังคมและประชาชน

ด้านนายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีกรมป่าไม้ ยื่นขอหมายศาลจากศาลจังหวัดสีคิ้ว อ.สีคิ้ว เพื่อเข้าดำเนินการตรวจค้นพื้นที่บ้านพักรีสอร์ตที่ทางกรมป่าไม้ระบุว่าบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว บริเวณเขาแผงม้า รวม 22จุดว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่นำข้อมูลหลักฐาน ซึ่งเป็นพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติปี 2528 พร้อมแผนที่ระบุพิกัด ที่ตั้งของรีสอร์ตบ้านพัก ที่เชื่อได้ว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ในแต่ละจุดและหลักฐานรายละเอียดประกอบต่าง ๆ ยื่นต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาเป็นที่เรียบร้อยทั้ง 22 จุดแล้ว จากนี้ไปขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล หากได้รับการอนุมัติเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าพื้นที่ปฏิบัติงานทันที ซึ่งล่าสุดทราบว่าศาลได้อนุมัติออกหมายค้นแล้วจำนวน 10 ราย

ขณะที่ผู้ประกอบการบ้านพักรีสอรต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 22 แห่ง บริเวณเขาแผงม้า ที่ถูกระบุว่า บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่เข้ามาดำเนินกิจการบ้านพักรีสอร์ตในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียวไม่มีใครเข้ามาทำลายป่า ทุกคนมาร่วมกันสร้างป่า และไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่ดินที่ถูกซื้อขายกันมาหลายทอดแล้วจะเป็นป่าสงวนฯ เพราะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็รับรอง โดยมี ใบ ภบท.5 เป็นหลักฐานและเสียภาษีบำรุงท้องที่มาโดยตลอด ที่สำคัญอยู่กันมานาน 5-10 ปีแล้ว สุดท้ายมาถูกดำเนินการเช่นนี้ ไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการเลย

ฉะนั้น จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นใจผู้ประกอบการที่ลงทุนไปแล้ว และไม่รู้ว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ มาถึงวันนี้อยากให้มีการจัดโซนนิ่งให้ชัดเจนดีกว่าจะมาใช้กฎหมายบังคับอย่างเคร่งครัด และกำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่ต่อไปได้ พร้อมร่วมกันปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่าและป้องกันไม่มีปัญหาการบุกรุกเพิ่มเติมอีก

ขณะเดียวกันตั้งแต่เวลา 09.30 น.เป็นต้นมาที่บริเวณตลาด กม.79 เขตเทศบาลตำบลศาลเจ้าพ่อ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว ชาว อ.วังน้ำเขียว กว่า 1,500 คนได้ชุมนุมเปิดเวทีปราศรัยต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 และวันนี้ได้มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชน 50,000 รายชื่อเพื่อเตรียมยื่นต่อรัฐบาลชุดใหม่ให้พิจารณาเสนอแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และที่ดิน 3 ฉบับได้แก่ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 เพื่อกันแนวเขตอุทยานฯ-ป่าสงวน ฯ ออกจากที่ทำกินของชาวบ้านแบะ เปิดโอกาสให้ประชาชนที่เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว
สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินสร้างเป็นเมืองท่องเที่ยวได้อย่างถูกต้องโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย

เวลา 14.30 น.กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตัดสินใจเคลื่อนมวลชนเข้าปิดถนนทางหลวงหมายเลข 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี บริเวณหน้าตลาด กม.79 เขตเทศบาลตำบลศาลเจ้าพ่อดังกล่าว ส่งผลให้การจราจรและรถยนต์ของประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาติดขัดเป็นระยะทางยาว ทั้งนี้ เพื่อกดดันยื่นข้อเรียกร้องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการดังนี้ 1.ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป่าไม้, อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชหยุดให้ข่าวใส่ร้ายป้ายสีประชาชนชาว อ.วังน้ำเขียวว่าเป็นผู้บุกรุกทำลายป่า โดยขาดข้อเท็จจริง และไม่เป็นธรรมกับชาว อ.วังน้ำเขียวและให้ออกมาขอโทษประชาชนผ่านสื่อ

2.หยุดดำเนินการทางกฎหมายใดๆ กับประชาชนและผู้ประกอบการ บ้านพัก รีสอร์ต ที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าทุกรายจนกว่าจะมีนโยบายการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนจากรัฐบาลใหม่ 3.ให้มีการประกาศกฤษฏีกาเพิกถอนพื้นที่ทับซ้อนชุมชนจากการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ปี 2524 จำนวน 15 ต.76 หมู่บ้าน โดยยึดหลักแนวเขตที่มีข้อตกลงร่วมกันปี 2543, 4.ให้มีคณะกรรมการร่วมกำหนดแนวเขตโซน C ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ให้ชัดเจนโดยมีข้อตกลงการจัดการพื้นที่ร่วมกันทุกภาคส่วนตามสภาพความเป็นจริง , 5.ให้มีการวางแผนผังจัดโซนนิ่งการจัดการพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว ร่วมกันทุกภาคส่วนและ 6.ให้มีนโยบายกำหนดวังน้ำเขียวเป็นพื้นที่พิเศษการจัดการการเท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

จากนั้นนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานกรรมาธิการฯ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ได้มารับหนังสือข้อเรียกร้องตามความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีนายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล ส.อบจ.นครราชสีมา เขต อ.วังน้ำเขียว และนายประณัย ประณีตพลกรัง อดีตผู้ใหญ่บ้านสวนห้อม หมู่ 2 ต.วังน้ำเขียว เป็นแกนนำมอบหนังสือ โดยนายสุรชัย รับปากจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอรัฐบาลใหม่เพื่อให้เข้ามาแก้ไขปัญหาโดยเร็ว พร้อมย้ำว่า การดำเนินการกับเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตที่บุกรุกป่าของกรมป่าไม่และอุทยานฯ ในอยู่ในขณะนี้จะไม่ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่แน่นอน ทำให้ผู้ชุมนุมพอใจจึงยอมเปิดการจราจรและสลายการชุมนุม.
กำลังโหลดความคิดเห็น