ASTVผู้จัดการรายวัน- ป่าไม้ยื่นศาลขอหมายค้นรีสอร์ต 22 แห่งรุกป่า "เขาแผงม้า" อ.วังน้ำเขียว แล้ว ลั่นศาลอนุมัติวันไหนลุยเป้าหมายทันที ด้านอธิบดีกรมป่าไม้รุดถก"มทภ. 2 -ผู้ว่าฯ โคราช"ผวาม็อบย้ายที่ประชุมด่วนซุกค่ายทหาร ขณะจนท.อุทยานฯ เข้าติดป้ายสั่งรื้อรีสอร์ตเพิ่มแล้ว 10 แห่ง ใน อ.นาดี ส่วน อ.วังน้ำเขียวอีก 10 แห่งลุยต่อวันนี้ ด้านชาวบ้านวังน้ำเขียว กลุ่ม "ส.ส."รีสอร์ตหรูระดมพลเปิดเวทีแสดงพลังต้านรัฐต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่วน กมธ.วุติสภา ลงตรวจสอบ "วังน้ำเขียว" 4-5 ส.ค.
วานนี้ (3 ส.ค.54) นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กรมป่าไม้ เปิดเผยถึงการดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ยื่นขอหมายศาลเพื่อเข้าตรวจค้นรีสอร์ตและบ้านพักที่ตรวจสอบพบว่า บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวงจำนวน 22 แห่งแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หากศาลอนุมัติวันไหนเจ้าหน้าที่ก็พร้อมลงพื้นที่เข้าตรวจค้นรีสอร์ตเป้าหมายดังกล่าวทันที เพื่อดำเนินแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินกับผู้บุกรุกตามขั้นตอนของกฎหมายต่อ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ดำเนินการเข้าตรวจค้นรีสอร์ต บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ในพื้นที่ อ.ปากช่อง ไปแล้ว จำนวน 2 แห่ง ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของภาครัฐ ( ป.ป.ท.) ได้ร้องเรียนเข้ามาและจะทยอยดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 09.00 น. นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ จะเดินทางลงพื้นที่และหารือร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 และ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา เกี่ยวกับกรณีปัญหาการบุกรุกป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว ดังกล่าว ซึ่งเดิมทีได้กำหนดสถานที่ประชุมไว้ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา แต่เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะมีชาวบ้านมาชุมนุมคัดค้านจึงต้องย้ายสถานที่เข้าไปประชุมภายใน กองทัพภาคที่ 2 แทน
นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า วานนี้ (3 ส.ค.) ได้ส่งชุดเจ้าหน้าที่ นำโดย นายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน เป็นหัวหน้าทีม ลงพื้นที่ติดป้ายประกาศอุทยานแห่งชาติ สั่งให้ผู้บุกรุกสร้างรีสอร์ตและบ้านพักในเขตอุทยานฯทับลาน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามอำนาจในมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 เพิ่มอีกจำนวน 10 ราย ในพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี (จากเดิมที่ติดประกาศคำสั่งรื้อถอนไปแล้ว 15 ราย จากทั้งหมด 105 ราย มีสิ่งปลูกสร้าง 50 ราย ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง 55 ราย )
ประกอบด้วย 1. ที่ป่าบ้านซับบอน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ของ นางมาดี บุญยะโชติ จำนวน 18 ไร่ เป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง , 2. ป่าบ้าน กม. 80 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ของนายธีรพจน์ สว่างแจ้ง 5 ไร่ เป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 2 หลัง , 3.ป่าห้วยสาลิกา ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ของ นายไพโรจน์ ศรีสมสุข จำนวน 12 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 2 หลัง , 4. ป่าห้วยสาลิกา ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ของ นายสุรเดช จิตภักดีบดินทร์ จำนวน 7 ไร่ เป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 2 หลัง
5.ป่าซับบอน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ของ นายปรีชา เทพรัตน์ จำนวน 28 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง , 6. ป่าซับบอน ของ นายจรูญ บุญวงศ์ จำนวน 6 ไร่ บ้านพักมั่นคงถาวร 1 , 7.ป่าซับบอน ของนายจรัญ ดวงกระโทก จำนวน 1 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง , 8. ป่าซับบอน ของนายบัญชา เล็กเจริญสุข จำนวน 7 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง , 9. ป่าซับบอน ของ นาย ธานินทร์ กฤษณีไพบูลย์ จำนวน 7 ไร่ บ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง และ 10. ในพื้นที่ป่าซับบอนเช่นกัน ของ นางสุภาพร เกตุวิทยการ จำนวน 5 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 2 หลัง
ส่วนอีก 10 ราย ในเขต อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะให้ดำเนินการติดป้ายพร้อมกันได้ตั้งแต่วานนี้นั้น ต้องเลื่อนเป็นวันนี้ ( 4 ส.ค.) เนื่องจากมีคณะ กอ.รมน. เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูล เจ้าหน้าที่จึงลงปฏิบัติหน้าที่ไม่ทัน จำเป็นต้องเลื่อนออกไป
ยังมาขู่!ปลดพนง.หากรัฐรื้อถอน
ด้าน นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับบ้านพักรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ในเขตป่าต่างๆ อย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ ผู้ประกอบการได้มาประชุมหารือกันบ่อยครั้ง ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยวใน อ.วังน้ำเขียวได้รับผลกระทบอย่างมาก ผู้ประกอบการโรงแรมรีสอร์ตหลายแห่งจ่อเจ๊งหรือต้องเลิกกิจการในเร็ววันนี้ ที่สำคัญลูกจ้างในโรงแรมรีสอร์ต ที่มีกว่า 500 แห่ง รวมห้องพักกว่า 10,000 ห้องในอ.วังน้ำเขียว เกิดการจ้างแรงงานท้องถิ่น 4,000-5,000 คน กำลังจะตกงาน เนื่องจากผู้ประกอบการทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวเพราะรายได้ไม่ได้มีเข้ามาเลย
ส่วนเมื่อ เวลา 17.00 น. วันเดียวกันนี้ ( 3 ส.ค.) ที่บริเวณลานหน้าตลาดศาลเจ้าพ่อ กม. 79 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา กลุ่มผู้นำชุมชน นำโดย นายสมศักดิ์ โจทย์กลาง กำนันตำบลวังหมี อ.วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นชาวบ้านในกลุ่มของ นายประนอม โพธิ์คำ ส.ส. นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งมีชื่อของลูกสาวเป็นเจ้าของ"โกลด์เมาท์เท่น วังน้ำเขียวรีสอร์ท" รีสอร์ตหรูขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 500-600 ไร่ ในเขตป่า ส.ป.ก. ได้เปิดเวทีปราศรัยต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อชี้แจงให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว และ เป็นการแสดงพลังต่อต้านการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ที่ใช้กฎหมายเข้าจัดการกับชาวบ้านและผู้ประกอบการที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าอย่างเด็ดขาดรุนแรง และไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ป่าในปัจจุบัน
นายสมศักดิ์ โจทย์กลาง กำนันตำบลวังหมี อ.วังน้ำเขียว กล่าวว่าการจัดเวทีปราศรัยดังกล่าวเพื่อต้องการแสดงพลังของชาว อ.วังน้ำเขียวว่าไม่เห็นด้วยกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่มาไล่จับชาวบ้าน และเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านซึ่งขณะนี้ทุกคนมีความหวาดระแวงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีไล่รื้อถอน ซึ่งมีประชาชนชาว อ.วังน้ำเขียว เข้าร่วมชุมนุมกว่า 1,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 4-5 ส.ค. คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และคณะ มีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีการบุกรุกป่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ,เขตอุทยานแห่งชาติทับลานและพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่กรมป่าไม้มอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยวันที่ 4 ส.ค.เวลา 14.30 -16.30 น. จะลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการบุกรุกป่าสงวนฯ , ป่าอุทยานฯ และ ส.ป.ก. ในเขต ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว และ วันที่ 5 ส.ค.เวลา 09.00-12.00 น. เข้ารับฟังข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีการบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียว ที่ สวนลุงโชค บ.คลองทุเรียน ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมทั้งประชาชน และผู้แทนภาคประชาชน
วานนี้ (3 ส.ค.54) นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กรมป่าไม้ เปิดเผยถึงการดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ยื่นขอหมายศาลเพื่อเข้าตรวจค้นรีสอร์ตและบ้านพักที่ตรวจสอบพบว่า บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวงจำนวน 22 แห่งแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หากศาลอนุมัติวันไหนเจ้าหน้าที่ก็พร้อมลงพื้นที่เข้าตรวจค้นรีสอร์ตเป้าหมายดังกล่าวทันที เพื่อดำเนินแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินกับผู้บุกรุกตามขั้นตอนของกฎหมายต่อ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ดำเนินการเข้าตรวจค้นรีสอร์ต บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ในพื้นที่ อ.ปากช่อง ไปแล้ว จำนวน 2 แห่ง ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของภาครัฐ ( ป.ป.ท.) ได้ร้องเรียนเข้ามาและจะทยอยดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 09.00 น. นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ จะเดินทางลงพื้นที่และหารือร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 และ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา เกี่ยวกับกรณีปัญหาการบุกรุกป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว ดังกล่าว ซึ่งเดิมทีได้กำหนดสถานที่ประชุมไว้ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา แต่เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะมีชาวบ้านมาชุมนุมคัดค้านจึงต้องย้ายสถานที่เข้าไปประชุมภายใน กองทัพภาคที่ 2 แทน
นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า วานนี้ (3 ส.ค.) ได้ส่งชุดเจ้าหน้าที่ นำโดย นายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน เป็นหัวหน้าทีม ลงพื้นที่ติดป้ายประกาศอุทยานแห่งชาติ สั่งให้ผู้บุกรุกสร้างรีสอร์ตและบ้านพักในเขตอุทยานฯทับลาน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามอำนาจในมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 เพิ่มอีกจำนวน 10 ราย ในพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี (จากเดิมที่ติดประกาศคำสั่งรื้อถอนไปแล้ว 15 ราย จากทั้งหมด 105 ราย มีสิ่งปลูกสร้าง 50 ราย ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง 55 ราย )
ประกอบด้วย 1. ที่ป่าบ้านซับบอน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ของ นางมาดี บุญยะโชติ จำนวน 18 ไร่ เป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง , 2. ป่าบ้าน กม. 80 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ของนายธีรพจน์ สว่างแจ้ง 5 ไร่ เป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 2 หลัง , 3.ป่าห้วยสาลิกา ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ของ นายไพโรจน์ ศรีสมสุข จำนวน 12 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 2 หลัง , 4. ป่าห้วยสาลิกา ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ของ นายสุรเดช จิตภักดีบดินทร์ จำนวน 7 ไร่ เป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 2 หลัง
5.ป่าซับบอน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ของ นายปรีชา เทพรัตน์ จำนวน 28 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง , 6. ป่าซับบอน ของ นายจรูญ บุญวงศ์ จำนวน 6 ไร่ บ้านพักมั่นคงถาวร 1 , 7.ป่าซับบอน ของนายจรัญ ดวงกระโทก จำนวน 1 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง , 8. ป่าซับบอน ของนายบัญชา เล็กเจริญสุข จำนวน 7 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง , 9. ป่าซับบอน ของ นาย ธานินทร์ กฤษณีไพบูลย์ จำนวน 7 ไร่ บ้านพักมั่นคงถาวร 1 หลัง และ 10. ในพื้นที่ป่าซับบอนเช่นกัน ของ นางสุภาพร เกตุวิทยการ จำนวน 5 ไร่ สร้างเป็นบ้านพักมั่นคงถาวร 2 หลัง
ส่วนอีก 10 ราย ในเขต อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะให้ดำเนินการติดป้ายพร้อมกันได้ตั้งแต่วานนี้นั้น ต้องเลื่อนเป็นวันนี้ ( 4 ส.ค.) เนื่องจากมีคณะ กอ.รมน. เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูล เจ้าหน้าที่จึงลงปฏิบัติหน้าที่ไม่ทัน จำเป็นต้องเลื่อนออกไป
ยังมาขู่!ปลดพนง.หากรัฐรื้อถอน
ด้าน นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับบ้านพักรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ในเขตป่าต่างๆ อย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ ผู้ประกอบการได้มาประชุมหารือกันบ่อยครั้ง ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยวใน อ.วังน้ำเขียวได้รับผลกระทบอย่างมาก ผู้ประกอบการโรงแรมรีสอร์ตหลายแห่งจ่อเจ๊งหรือต้องเลิกกิจการในเร็ววันนี้ ที่สำคัญลูกจ้างในโรงแรมรีสอร์ต ที่มีกว่า 500 แห่ง รวมห้องพักกว่า 10,000 ห้องในอ.วังน้ำเขียว เกิดการจ้างแรงงานท้องถิ่น 4,000-5,000 คน กำลังจะตกงาน เนื่องจากผู้ประกอบการทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวเพราะรายได้ไม่ได้มีเข้ามาเลย
ส่วนเมื่อ เวลา 17.00 น. วันเดียวกันนี้ ( 3 ส.ค.) ที่บริเวณลานหน้าตลาดศาลเจ้าพ่อ กม. 79 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา กลุ่มผู้นำชุมชน นำโดย นายสมศักดิ์ โจทย์กลาง กำนันตำบลวังหมี อ.วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นชาวบ้านในกลุ่มของ นายประนอม โพธิ์คำ ส.ส. นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งมีชื่อของลูกสาวเป็นเจ้าของ"โกลด์เมาท์เท่น วังน้ำเขียวรีสอร์ท" รีสอร์ตหรูขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 500-600 ไร่ ในเขตป่า ส.ป.ก. ได้เปิดเวทีปราศรัยต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อชี้แจงให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว และ เป็นการแสดงพลังต่อต้านการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ที่ใช้กฎหมายเข้าจัดการกับชาวบ้านและผู้ประกอบการที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าอย่างเด็ดขาดรุนแรง และไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ป่าในปัจจุบัน
นายสมศักดิ์ โจทย์กลาง กำนันตำบลวังหมี อ.วังน้ำเขียว กล่าวว่าการจัดเวทีปราศรัยดังกล่าวเพื่อต้องการแสดงพลังของชาว อ.วังน้ำเขียวว่าไม่เห็นด้วยกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่มาไล่จับชาวบ้าน และเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านซึ่งขณะนี้ทุกคนมีความหวาดระแวงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีไล่รื้อถอน ซึ่งมีประชาชนชาว อ.วังน้ำเขียว เข้าร่วมชุมนุมกว่า 1,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 4-5 ส.ค. คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และคณะ มีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีการบุกรุกป่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ,เขตอุทยานแห่งชาติทับลานและพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่กรมป่าไม้มอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยวันที่ 4 ส.ค.เวลา 14.30 -16.30 น. จะลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการบุกรุกป่าสงวนฯ , ป่าอุทยานฯ และ ส.ป.ก. ในเขต ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว และ วันที่ 5 ส.ค.เวลา 09.00-12.00 น. เข้ารับฟังข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีการบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียว ที่ สวนลุงโชค บ.คลองทุเรียน ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมทั้งประชาชน และผู้แทนภาคประชาชน