แดงอกหัก : บทพิสูจน์เลือดไพร่มันไร้ค่า

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กล่าวสำหรับคนเสื้อแดงที่วันนี้เลือดไพร่มันไร้ค่าเพราะพลาดทุกเก้าอี้รัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นแดงตัวพ่อที่เพิ่งออกมาจากคุกอย่างเดอะคางคก-นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รวมถึงท่านรองโรมานอฟ-พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ที่อกหักจากเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจนน้อยใจประกาศไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ นั้น ก็ต้องถือเป็นบทเรียนและจำต้องกลืนเลือดอย่างชนิดที่ไม่อาจเป็นอย่างอื่นใด

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คนถือเป็นตัวเต็งที่น่าจะได้รับการปูนบำเหน็จจากนายใหญ่ เพราะเอาเลือด เอาเนื้อ และเอาชีวิตต่อสู้จนมีคดีติดตัวเป็นหางว่าว แต่สุดท้ายแล้วก็ เป็นไปตามคำประกาศิตของจอมนางกระบังหลวงอย่างคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ที่ประกาศชัดเจนว่า ครม.ปู1 จะต้องไม่มีคนเสื้อแดงแม้แต่เก้าอี้เดียว

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ คนเสื้อแดงจึงต้องตีอกชกตัวเป็นธรรมดา และนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่ไว้หน้าเช่นกัน

เริ่มจากนายสมชาย ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงอดรนทนไม่ไหวต้องออกมาบอกว่า “การตั้ง ครม.ครั้งนี้ เราไปแคร์ความรู้สึกศัตรูมากกว่ามิตร แต่ทุกครั้งเสื้อแดงยอมให้มิตรเท่านั้น ถึงยอมกลืนเลือดเพื่อให้ประเทศและรัฐบาลเดินต่อไปได้ การต่อสู้ของคนเสื้อแดงถือว่าสาหัส ก็ควรมีรางวัลให้กับคนรบ แต่กลับมาบอกว่า ไม่มีเสื้อแดงเป็นการรักษาหน้าตาครม.อยากถามว่า เสื้อแดงเลวตรงไหน”

ยิ่งเมื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเตรียมเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่คนเสื้อแดงถือเป็นศัตรูด้วยแล้ว ก็ยิ่งจี๊ดในความรู้สึกของคนเสื้อแดงไม่น้อย

“วันนี้มีคนมาพูดเหมือนกับว่า พรรคเพื่อไทยยอมแล้ว ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยทรยศก็พร้อมต่อสู้ แต่ถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทอดทิ้ง ก็พร้อมที่จะยืนอยู่คนละฟาก แต่ต้องรอให้ถึงเวลานั้นก่อน ทั้งนี้ยอมรับว่า มีบางคนอาจคิดตั้งพรรคใหม่ แต่อยากฝากมิตรรักรอเวลาไว้ก่อน”นายสมชายกล่าวข่มขู่

ขณะที่วิภูแถลง พัฒนาภูมิไทย อีกหนึ่งแกนนำคนเสื้อแดงวิเคราะห์ปรากฏการณ์ที่เสื้อแดงถูกเขี่ยพ้นครม.ว่า เป็นเพราะอำนาจพิเศษที่อยู่เหนือพรรคเพื่อไทยและอยู่เหนืออำนาจประชาชน 15 ล้านเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทยมา อำนาจพิเศษนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่มีอิสระที่จะเลือกใครเป็นรัฐมนตรี อย่างกรณี พ.อ.อภิวันท์ทราบมาว่า ผู้มีอำนาจมีอิทธิพลทางการเมืองไทยไม่สบายใจที่จะให้ไปรับตำแหน่งในฝ่ายบริหาร

อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ดูเหมือนว่า เวลานี้คนเสื้อแดงยังถูกทอดทิ้งอย่างไร้ค่าอีกต่างหาก ดังเช่นที่นายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ แกนนำมวลชนคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี กล่าวถึงสภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า “ขอยินดีด้วยกับ ส.ส.ปทุมธานีทั้ง 6 คนที่ได้รับตำแหน่ง แต่ ส.ส.เหล่านี้ไม่เคยกลับมาดูแลคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานีอย่างที่พูด เพราะหลังจากเสร็จการเลือกตั้ง พวกเราเหมือนกลุ่มนักสู้มวลชนที่ถูกลืม”

แต่สุดท้ายแล้วการที่แกนนำแดงไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ เลยในคณะรัฐมนตรีอาจจะทำให้พวกเขาดีใจก็เป็นได้ เพราะการรับตำแหน่งดังกล่าวอาจแสลงใจในความรู้สึกของพวกเขาบ้างไม่มากก็น้อย

เพราะต้องไม่ลืมว่า พวกเขาประกาศตัวชัดเจนว่า เกลียดอำมาตย์ ดังนั้น การที่พวกเขาก้าวขึ้นไปเป็นอำมาตย์จึงน่าจะขัดต่อความรู้สึกของพวกเขา ไม่เช่นนั้นในวันที่พวกเขาคิดว่านารีขี่ม้าขาวจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ แต่ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาคิด คงไม่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขรมทั่วทั้งพรรคเพื่อไทย ์จึงน่าจะขัดต่อความรู้ลงใจในความรู้หาก ดังเช่นที่ และเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยก็มีอารมณ์ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 8 สิงหาคม โดยระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เปิดกรวยดอกไม้ กลุ่มคนเสื้อแดงได้ส่งเสียงตะโกนไชโยๆๆๆ พร้อมกับเรียกชื่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์ๆๆๆ ดังสนั่นที่ทำการพรรคเพื่อไทยจนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีซึ่งปรากฏการณ์ส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวายเช่นนี้ ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ดังนั้น การที่แกนนำของพวกเขาไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ จากพรรคเพื่อไทยก็ต้องถือว่า เป็นสิ่งที่สมควรแล้วและถูกโฉลกกับวิถีทางของพวกเขาเป็นที่สุดแล้ว