“เสรีพิศุทธ์” ชื่อนี้ยังต้องจับตา

“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”แบเบอร์คว้าหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทยสู้เลือกตั้ง พร้อมกับการเปิดหน้าชูตัวว่าที่ผู้สมัครเกือบครบหมดแล้ว หลังจากมีปัญหาหลายระลอกเรื่องคนย้ายเข้าย้ายออก

สุดท้าย “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” คนตัวเล็กแต่อยากใหญ่ ก็ต้องหมดฤทธิ์สิ้นท่ากลับมาเป็นไม้ประดับในพรรคเพื่อไทยเหมือนเคย

เพราะจังหวะการเดินพลาดพลั้ง รีบเร่งอัตราก้าวเร็วรวบรัดจนตกหลุม จึงเสียรังวัดชนิดกู่ไม่กลับ อิทธิฤทธิ์บารมีที่เคยมี เจือจางจนจืดชืด ด้วยน้ำมือนายใหญ่คนกันเอง นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ยังหลบหนีคดีอาญาอยู่ต่างแดน

ส่วน “เสนาะ เทียนทอง” ผู้เฒ่าไดโนเสาร์เหลาเหย่ ก็ฉี่ไม่พ้นง่ามขา ไปไหนไม่รอดต้องกลับมาร่วมหอลงโลงกับพรรคเพื่อไทย วัวเคยขาม้าเคยขี่ แม้ก่อนหน้านี้จะขึ้นเวที “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ด่า “นายห้างดูไบ” ชนิดสาดเสียเทเสียมาแล้ว

แผนการตั้งพรรคใหม่ที่ “มิ่งขวัญ-เสนาะ”คิดไว้ก็ต้องพังพาบไป เนื่องจากไม่มีแรงสนับสนุนที่แน่นหนาพอ อีกทั้ง ส.ส.ในสังกัดพรรคเพื่อไทย เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครกล้าแหกค่ายไปตายเอาดาบหน้า เมื่อ “นายใหญ่” คำรามเสียงดังมาที 2 ที ส.ส.เหล่านี้ก็ขี้หดตดหาย ม้วนหางเข้าคอกตามเดิม

เมื่อบริหารจัดการภายในได้อยู่หมัดแล้ว พรรคเพื่อไทยก็สามารถเดินเกมดูดคนภายนอกเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ที่เด่นดังคือ พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เจ้าของฉายา“อินทรีอีสาน บินสูงมองไกล เหยียบยอดไผ่ไม่ไหวติง” เป็นบุคลากรระดับเซียนเหยียบเฆมที่มาเพิ่มเขี้ยวเล็บ เพิ่มเพาเวอร์ให้พรรค

ถูกวางให้เป็นแม่ทัพคนสำคัญในภาคอีสาน โดยเฉพาะอีสานเหนือ และส่อว่าจะได้มาดูพื้นที่โคราช เมืองย่าโมด้วย

อย่างไรก็ดี นายตำรวจชื่อดังอีกคนหนึ่งที่มีข่าวว่าจะมาด้วย เพราะถือเป็นขุนพลคู่ใจของพล.ต.อ.ประชา แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ปรากฏชื่อ ปรากฏตัว นั่นก็คือ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

เดิมทีพรรคเพื่อไทย วางตัวให้เป็นแม่ทัพอีสานเช่นกัน แต่เป็นโซนอีสานใต้ ต้องการให้ไปลุยแบบปะฉะดะกับพรรคภูมิใจไทย ลุยแถบๆ บุรีรัมย์ ที่เนวิน ชิดชอบ ประจำการอยู่ ก่อนหน้านี้เคยจับคดียี้ห้อย 120 วันนี้อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่ห้อยมากขึ้น คงต้องจับเงินมากขึ้น

วันนี้ยังไม่มา และดูเหมือนว่าจะไม่มาเสียแล้วกระมัง

เจ้าตัวเองยังไม่แน่ชัดว่าคิดอย่างไร แต่คนในพรรคเพื่อไทยบางคนไม่สบายใจแน่ โดยเฉพาะมวลสมาชิกชมรมคนเสื้อแดง ที่เคยถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตามเล่นงาน สมัยบุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

แกนนำเสื้อแดงหลายคนยังฝังใจกับเหตุการณ์ในอดีต ทั้งณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อาจรู้สึกแปลกๆ หากต้องประสานงานร่วมกับอริเก่า ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เองก็มีตัวตนสูง อีโก้สูง และถือยศอย่างศักดินาสูง แกนนำในพรรคย่อมคิดถึงความจริงเหล่านี้เช่นกัน

อย่างไรก็แล้วแต่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เคยมีข่าวถึงขั้นจะมาเป็นถึงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยเลยทีเดียว ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ใครดี เด่น ดัง จะมาร่วมต่อสู้เคียงข้างกับพรรค แน่นอนว่ามันยากที่จะปฏิเสธ สร้างมิตรไว้ดีกว่าสร้างศัตรู ฉาบปูนให้แข็งดีกว่ารอวันถูกกะเทาะให้ร้าว

ไม่แน่ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ชื่อ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” อาจโผล่พรวดพราดขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีเลยก็ได้ ใครล่ะจะรู้ อะไรที่ว่าเป็นไปไม่ได้มันก็เป็นไปได้เสมอในวงการการเมือง!!