งานเปิดแคมเปญใหญ่ เตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ของพรรคเพื่อไทย เมื่อ 23 เม.ย. 54 โดย “นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญา วิดีโอลิงก์เปิดนโยบาย เคาะตัวว่าที่ผู้สมัครไปแล้ว ท่ามกลางเสียงเฮฮาและฮือฮา
การเปิดตัวนโยบายขายฝันหลายเรื่อง นับว่าน่าสนใจทีเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะมีโอกาสได้ลงมือทำหรือไม่ ส่วนการเปิดตัวผู้สมัคร ก็แสดงให้เห็นถึงความพร้อมลงสนามเลือกตั้งเต็มที่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มากันเกือบครบทุกคน ทุกเขต
ไฮไลต์เปิดหน้าคนใหม่คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่รู้กันวงในนานแล้วว่า ต้องมาร่วมหัวจมท้ายกับพรรคเพื่อไทยแน่ ก่อนหน้านี้ถึงขั้นเพื่อไทย สนับสนุนเป็นนายกฯ โหวตแข่งกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาแล้ว
ก่อนจะได้ตัวเป็นๆ ของ “ประชา”มาได้ “ทักษิณ” ถึงกับลงทุนส่งแกนนำผู้บริหารพรรคนำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัวแทนนายใหญ่ ไปกล่อมถึงบ้าน คงต้องจัดหาตำแหน่งเหมาะๆไว้รองรับ แต่จะถึงขั้นเป็นแคนดิเดตนายกฯเลยหรือไม่ ยังต้องจับตา
สำหรับอีกคนที่มีข่าวว่าจะมาด้วย เพราะถือเป็นขุนพลคู่ใจของ พล.ต.อ.ประชา แต่ยังไม่ปรากฏตัวคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ซึ่งพรรคเพื่อไทยวางตัวให้เป็นขุนพล หัวหมู่ทะลวงฟันในสนามอีสานใต้ รบราฆ่าฟันกับพรรคภูมิใจไทยของ เนวิน ชิดชอบ
แว่วว่า ถ้ามาวันนั้นอาจจะยังไม่เหมาะ เพราะวีรกรรมในอดีตของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้สร้างความขัดเคืองใจให้ใครบางคนไว้ไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง หากจำกันได้สมัยคนเสื้อแดง ยังเป็น “นปก.” เคยบุกบ้าน “ป๋าเปรม” และก็มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คนนี้เป็นหัวหอกราวีคนเสื้อแดง
ซึ่งการเปิดตัววันนั้น คนเสื้อแดงที่ยืน 2 ขาควบพรรคเพื่อไทย มากันพรึ่บพรั่บ ทั้ง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ฯลฯ หากมาเปิดหน้าเชิดชูกันโต้ง ๆ อาจเกิดอาการเขม่นกันตั้งแต่เรือยังไม่ออกจากท่า ฉะนั้นน่าจะใช้วิธีซึมๆ เข้ามาน่าจะสวยกว่า
อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตเหลือเกินว่า การเปิดตัวใหญ่ของพรรคเพื่อไทยหนนี้ กลับไม่ปรากฏเงาของ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แกนนำสำคัญคนหนึ่งของพรรค ที่เคยขึ้นหม้อ เป็นถึงว่าที่แคนดิเดตนายกฯ
หลังจากถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ติดเบรกเอบีเอส กดหัวไม่ให้เดินเกมผลักดันตัวเองเป็นนายกฯ จนออกนอกหน้า ผนวกกับกระแสข่าวว่า “ยิ่งลักษณ์” น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ จะก้าวมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตัวจริงของพรรคเพื่อไทย จากนั้นมา “มิ่งขวัญ” ก็เงียบเชียบ โลว์โพรไฟล์ไป
จนเกิดกระแสข่าวลือต่อเนื่องว่า จะยกขบวน ส.ส.ในสังกัดย้ายไปตั้งพรรคใหม่ ร่วมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ เสนาะ เทียนทอง
วันนี้เมื่อทั้ง เสนาะ พล.อ.ชวลิต พร้อมด้วยลูกน้อง ส.ส.คนใกล้ชิด ประกอบกับ มิ่งขวัญ ไม่ปรากฏตัววันเปิดแคมเปญใหญ่ ที่เปรียบเสมือนเป็นการเช็กชื่อ มันยิ่งตอกย้ำกระแสข่าวลือการไปรวมตัวตั้งพรรคใหม่
แต่เมื่อไล่เรียงรายชื่อ ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่าอยู่ในกลุ่มก๊วนของ “มิ่งขวัญ” ก็ตบเท้ามากันพร้อมหน้าพร้อมตา ไอ้ที่บอกว่าจะยกโขยงตามมิ่งขวัญไป 40-50 คนนั้น เป็นเพียงราคาคุยมากกว่า
ธรรมชาติของ ส.ส.พรรคนี้ ใครจ่ายหนักก็ยกยอเชิดชู แต่พอถึงเวลาจริงแล้วตัวเองต้องเอาตัวเองรอดไว้ก่อน ไปอยู่พรรคอื่นมันเสี่ยงสอบตกมากกว่ากันเยอะแยะเลย