ASTVผู้จัดการรายวัน-กกต.รับรองส.ส.รอบ3เพิ่มอีก32คน แกนนำแดงรอด6ราย ส่วน"จตุพร-ณัฐวุฒิ-พายัพ"ต้องลุ้นต่อ กกต. ไม่สบายใจถูกกดดัน ด้าน“ปู” หน้าเสียถูกถามให้ปรามเสื้อแดง “มาร์ค” ซัดซ้ำ หัดปราบแกนนำบ้าง “ผบ.ทอ.”อัดอย่าใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย "เทือก"ขนหัวลุก กลัวนปช.เข้ามาเผาสภา
วานนี้ (21 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการพิจารณารับรองผลการเลือกตั้งในชุดที่ 3 ล่าสุดที่ประชุมกกต.ได้รับรองส.ส.เพิ่มเติมอีก 32 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 6 คน ได้แก่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย, น.พ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายพิชิฏ ชื่นบาน และนายวิเชียร ขาวขำ จากพรรคเพื่อไทย ส่วนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่เป็นอดีตแกนนำนปช.อีก 3 คน คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายพายัพ ปั้นเกตุ กกต.ยังไม่ได้รับรอง ขณะที่ส.ส.แบบแบ่งเขต กกต.ได้รับรองเพิ่มอีก 26 คน
อย่างไรก็ตาม นายการุณ โหสกุล ว่าที่ส.ส.แบบแบ่งเขต กทม.เขต 12 พรรคเพื่อไทย กกต.ยังไม่รับรองเนื่องจากมีเรื่องร้องเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในที่ประชุมกกต.ได้พิจารณาเรื่องร้องคัดค้านเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งจ.สุรินทร์ เขต5 และเขต7 จ.อุดรธานี เขต1 และ จ.อุบลราชธานี เขต5 โดยมีการประชุมอีกครั้งในเวลา14.00น. แต่เนื่องจากกกต.บางคนติดธุระ จึงต้องมีการประชุมรอบที่ 3 ในเวลา18.00น. ก่อนประชุมแล้วเสร็จในเวลา 20.00น.
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า ในวันที่ 22 ก.ค.นี้กกต.จะมีการประชุมกกต.เพื่อพิจารณาเรื่องต่างๆ โดยเป็นการประชุมพิเศษนอกเหนือจากปกติ
**“สมชัย” ชี้ควรประกาศรับรองส.ส.ไปก่อน
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ให้สัมภาษณ์ว่า ในเรื่องของคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเรื่องของคุณสมบัติของผู้สมัครแล้ว หากเห็นว่าคุณสมบัติไม่ถูกต้องก็ร้องต่อศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ระยะเวลาดังกล่าวได้ล่วงเลยไปจนถึงวันเลือกตั้งและได้ส.ส.แล้ว ตนจึงมีความเห็นว่าอยากให้กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ไปก่อน เนื่องจากพ.ร.บประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. มาตรา 8 ระบุว่า หากการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม กกต.ก็สืบสวนสอบสวนได้ เพราะกกต.ยังมีเวลาประกาศรับรองส.ส.ได้อีก 30 วัน ทั้งนี้ กกต.ทำงานเป็นองค์คณะ ซึ่งเสียงข้างน้อยจะต้องเคารพเสียงข้างมาก แต่ในความคิดเห็นของตนนั้นก็ไม่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น จะประกาศรับรองส.ส.ได้เท่าไรก็ต้องแล้วแต่ที่ประชุม
ส่วนเรื่องแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่ประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) และเรื่องการขาดคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคการเมืองในการส่งผู้สมัครนั้น เมื่อหัวหน้าพรรคเป็นผู้มายื่นสมัครและรับรองว่าคุณสมบัติครบถ้วน กกต.ได้ตรวจสอบในเบื้องต้น เมื่อไม่มีผู้ใดร้องคัดค้านกกต.ก็ได้ประกาศรับรองการเป็นผู้สมัคร ส.ส. จนกระทั่งมีการเลือกตั้ง และบุคคลนั้นได้รับการเลือกตั้ง ดังนั้น จะให้กกต.ไปตรวจสอบคุณสมบัติได้อีกอย่างไร ทำให้ตนมีความเห็นที่แตกต่างจากคนอื่น แต่ก็เคารพความคิดเห็นของคนอื่น
"กรณีคนเสื้อแดงออกมากดดัน ตนไม่สนใจ จะกดหรือดันก็ขอให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งสามารถทำได้ สังคมวันนี้ไม่มีระเบียบเรียบร้อย เดี๋ยวนี้คนในประเทศไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่เคารพสิทธิคนอื่น ไม่มีระเบียบวินัยอยากจะทำอะไรตามใจก็ชอบก็ทำก็ไม่ว่ากัน"
**กกต.ไม่สบายใจถูกกดดัน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ยอมรับว่ารู้สึกไม่สบาย ที่มีบางหน่วยงานกดดัน กกต. ซึ่งขั้นตอนการรับรองนั้น กกต. ยึดหลักตามขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันไม่มีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนที่มีการรับรองล่าช้า เห็นว่ายังมีเวลาที่จะพิจารณาอีกตามกรอบของหลักกฎหมาย
** “ปู”หน้าเสียถูกถามแดงกดดันกกต.
ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศรับรอง ส.ส.เพิ่มเติม ซึ่งมีรายชื่อของแกนนำกลุ่มนปช. รวมอยู่ด้วยว่า วันนี้ตนอยากจะให้ทุกคนรอการทำงานของ กกต. ไม่อยากให้มีการกดดัน และก็ขอความร่วมมือจากทุกๆ คน เพราะตนเชื่อว่า กกต.จะทำงานแบบเข้มแข็งและเป็นอิสระ
ส่วนที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำนปช.แถลงกดดันกกต.นั้น เห็นว่า ตนอยากจะให้ทุกอย่างสงบ เรียบร้อย รอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแบบยุติธรรม ซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของประชาชน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าทุกคนก็มีเหตุผล คงจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะขณะนี้ประเทศชาติกำลังก้าวไปข้างหน้า และเป้าหมายที่สำคัญ ก็คือ การหาเงินเข้าประเทศ
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน น.ส.ยิ่งลักษณ์มีสีหน้าที่เคร่งเครียด ตลอดเวลา โดยไม่มีรอยยิ้มแต่อย่างใด ซึ่งพอให้สัมภาษณ์เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้เดินหลีกผู้สื่อข่าวขึ้นไปด้านบนของที่ทำการพรรคเพื่อไทย
**"มาร์ค"วอนทุกฝ่ายอย่ากดดันกกต.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คนเสื้อแดงรวมตัวกดดันกกต.ว่า ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องใช้วิธีการแบบนี้ กกต.ต้องทำหน้าที่ตรงไปตรงมา หากสมควรได้รับการรับรองเป็นผู้แทนราษฎรก็จะได้รับการรับรอง แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ หรือเรื่องอื่นๆ กกต.ก็ต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจ แต่ถ้ามีมวลชนมากดดันข่มขู่เหมือนที่เป็นอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองคงไม่ต้องมีกติกา กลายเป็นว่ามีพวกมากก็มากดดัน ตนคิดว่าถึงวันนี้กกต.ได้สนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้รับชนะการเลือกตั้งแล้ว ฉะนั้นน่าจะเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ เขาได้ทำงาน ไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีปัญหาเรื่องมวลชนเข้ามากดดันกันไม่จบไม่สิ้น น่าจะพอได้แล้ว เพราะกกต.เองก็ทยอยพิจารณาอยู่
**บอก“ปู-ยงยุทธ”ให้ปรามเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าทิศทางของกลุ่มนปช.จะยังไม่พอแค่นี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องช่วยกันบอกให้พอ เพราะการยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ ก็เพื่อให้ก้าวพ้นสิ่งเหล่านี้ เมื่อถามว่า แล้วคนที่เป็นผู้นำต้องแสดงเจตนาให้ชัดเจนใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้เรียกร้องไปหลายครั้งว่า ทั้งพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น่าจะออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้บ้าง เพราะบ้านเมืองต้องการเดินไปข้างหน้า ต่อข้อถามว่า ถึงขณะนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไม่มารายงานตัว จนกว่าบรรดาแกนนำนปช.จะได้รับการรับรองด้วยเช่นเดียวกัน จะกลายเป็นข้ออ้างในการกดดันกกต.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นจากข่าวคงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเห็นดูฤกษ์ยามอยู่ อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่ควรอยู่ภายใต้ภาวการณ์กดดันใดๆ ทั้งสิ้น ตนขอให้กกต.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
"ตนขอย้ำว่า สภาพบ้านเมืองต้องการเดินไปข้างหน้า ลดความขัดแย้ง ดังนั้นต้องเลิกใช้มวลชนกดดัน เลิกสร้างข่าว สร้างความไขว้เขว สร้างความเข้าใจผิด เพราะทุกอย่างตอนนี้กำลังเดินไปตามระบบ อย่างที่ทุกคนต้องการมิใช่หรือ และต้องย้ำอีกว่า ทางพรรคเพื่อไทยและนปช.ผูกพันกับรัฐธรรมนูญปี 40 อย่างมาก ซึ่งองค์กรอย่างกกต. ป.ป.ช. ก็เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ตามที่เขาบอกว่า ประเด็นเหล่านี้เป็นประเด็นที่ต้องอาศัยการพิจารณาอย่างตรงไปตรงไม่เกี่ยว ข้องกับการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวข้องกับความนิยม และไม่เกี่ยวข้องกับเสียงข้างมาก เมื่อผูกพันกับรัฐธรรมนูญปี 40 ก็ช่วยเคารพรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวด้วย"นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีความพยายามจะอ้างเรื่องพลังที่มองไม่เห็น และถ้ากกต.ไม่รับรองก็จะกลายเป็นเรื่องสองมาตรฐาน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นี่คือความพยายามสร้างเรื่องขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ทุกฝ่ายต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า และตนเองตั้งแต่ก่อนผลการเลือกตั้งจะเรียบร้อย ตนเองก็ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เพื่อยืนยันว่า ไม่มีหรอก ไม่มีในเรื่องที่จะมาอ้างว่า มีการใช้อำนาจ มือที่มองไม่เห็น ไม่มี ขอให้ทุกคนเดินตามระบบและเคารพกติกา
เมื่อถามว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่สามารถยุติภาวการณ์เช่นนี้ได้ จะเป็นผู้นำบริหารประเทศได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าในวันข้างหน้า มันจะย้อนกลับมาทำให้เกิดปัญหากับรัฐบาลเอง ตนอยากให้ส่งสัญญาณให้ชัด จะได้เป็นการเริ่มต้นที่ดี และบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ รัฐบาลก็จะได้มีความเข้มแข็ง เพราะเรื่องมันจะย้อนกลับมาเพราะถ้าในที่สุดเกิดความคลางแคลงใจว่า การตัดสินใจต่างๆ ขององค์กรอิสระอยู่ภายใต้การกดดันหรือไม่ และอีกด้านหนึ่ง คือ ถ้าเรื่องนี้เป็นแบบอย่างว่าต่อไปนี้ การตัดสินใจใดๆ เป็นเรื่องของมวลชนกดดัน การบริหารงาน ของรัฐบาลต่อไปเองนั้นก็จะมีปัญหามากขึ้น ดังนั้น ควรส่งสัญญาณเสียตั้งแต่ต้นนี้เถิด เราจะได้เดินหน้าต่อไปด้วยกันทั้งสภา องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงมีการขยายเครือข่ายไปทั่วประเทศให้เป็นสมัชชาคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเด็นการต่อสู้ของคนเสื้อแดงขณะนี้สังคมไทยรับทราบ และมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะแก้ปัญหาพื้นฐาน ซึ่งคิดว่าเป็นที่มาของข้อเรียกร้องต่างๆ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องการปฏิรูปด้านต่างๆ การให้ความเป็นธรรม ในขณะที่เรากำลังกลับเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย รัฐสภา อย่างที่ทุกคนต้องการ และได้เรียกร้องมา ตนจึงคิดว่าจุดนี้น่าจะเป็นจุดที่ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย รวมถึงรัฐบาลใหม่ตัดสินใจได้แล้วว่า การที่จะไปแบ่งแยกประชาชน แบ่งแยกต้องเป็นมวลชนไม่น่าจะเป็นผลดี ส่วนการที่กลุ่มคนเขาคุ้นเคยผูกพันกัน จนต้องการติดตามการเคลื่อนไหวกันนั้น ถือเป็นสิทธิเสรีภาพไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นลักษณะการแบ่งแยก และไม่มีความชัดเจนว่า จะนำไปสู่อะไรนั้น มันเป็นผลดีกับใครทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า หากเขายังใช้มวลชนเพื่อการรักษาฐานอำนาจ แล้วสิ่งที่นายอภิสิทธิ์เรียกร้องจะเกิดขึ้นได้อย่างนั้นหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องถามกันว่า ตกลงเราจะทำการเมืองกันแบบไหน ตนคิดว่าเมื่อวันนี้ชนะการเลือกตั้งแล้วก็ขอให้คิดถึงอนาคตของประเทศ อนาคตของส่วนรวม ตนได้พูดคุยกับหนึ่งในทูตที่เคยไปพบกับพรรคเพื่อไทยท่านบอกว่า ตอนถามพรรคเพื่อไทยถึงเรื่องหมู่บ้านเสื้อแดง คนของพรรคเพื่อไทยได้บอกว่า เป็นเพื่อประโยชน์ในเรื่องการจัดตั้งฐานเสียงในการเลือกตั้ง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ควรจะจบได้แล้ว
**ผบ.ทอ.ไม่เห็นด้วยใช้กฎหมู่
พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ว่า ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นการสะท้อนความต้องการจากประชาชนที่ต้องการความสงบสุข ไม่ต้องการให้มีข้อขัดแย้งหรือให้มีสีต่างๆ ออกมาประท้วงอีก เพราะที่ผ่านมา มีการนำประชาธิปไตยไปอ้าง ประชาธิปไตยต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ และการปฏิบัติต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ไม่ใช่มาอ้างประชาธิปไตยแต่เอากฎหมู่มาบังคับ คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการความสงบสุข เหตุการณ์ที่ผ่านมา ประเทศชาติวุ่นวายมามากพอสมควรแล้ว เมื่อมีเลือกตั้ง จะมีรัฐบาลก็ควรเป็นการดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่อะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่เป็นไปตามที่ตัวเองคิดก็จะเอากฎหมู่มา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างมาก คิดว่าประชาชนคนไทยคงติดตามดูว่าสิ่งที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
**“ชวน”เห็นใจ กกต.ถูกตำหนิการทำงาน
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกกต.ยังไม่รับรองผลส.ส.ที่เหลือว่า ตนเห็นใจคนทำงาน ทำอะไรก็ถูกวิจารณ์ แต่กฎหมายให้อำนาจกกต.อย่างไร ท่านก็ใช้อำนาจตามกฎหมายตรงไปตรงมา คงไม่มีปัญหาอะไร ความจริงคนทำงานจะต้องดูสำนวนและหลักฐาน เพราะฉะนั้นการจะวินิจฉัยเร็วหรือช้าไปก็ถูกตำหนิ ดังนั้น ต้องดูความพร้อม มีข้อมูลที่จะวินิจฉัยแต่ละบุคคลได้ ไม่ควรกดดันหรือเร่งรัดเกินกำลังที่จะทำได้ ตนเห็นใจคนทำงาน เพราะเวลาที่จะทำงานจริงๆ ไม่ง่ายอย่างที่คิดเหมือนอยู่ข้างนอก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าช่วงเวลาที่เหลืออยู่กกต.จะรู้ดีกว่าเราว่าจะทำอะไรให้เสร็จเมื่อไร
**"เทือก"ผิดหวังหากกกต.รับรองนปช.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง ถือว่าเป็นเรื่องของผู้ชนะ แต่หากมองฐานะประชาชนคนไทย ตนรู้สึกผิดหวัง เพราะแกนนำนปช.ได้ทำหลายสิ่งกับประเทศมาเยอะ และยังเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย หากได้เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร อาจจะอาศัยอภิสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองตัวเองให้พ้นจากการดำเนินคดีในระยะที่เปิดสมัยประชุม
“การประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอาจเป็นผลดีกับนปช. แต่ไม่เป็นผลดีกับชาติบ้านเมือง ซึ่งผมไม่เข้าใจกกต. หากเขารับรอง” นายสุเทพกล่าวและว่า คงยุ่งอยู่เหมือนกัน เพราะในฐานะที่เป็นนปช. เขาคงจะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกลักษณะหนึ่งที่ไม่ตรงกับที่พวกเราได้เห็น ได้ยินและได้ฟัง ส่วนแนวทางที่จะทำให้ทำงานร่วมกันได้นั้น ยังนึกไม่ออก แต่คงดีกว่าที่เจอเขาบนท้องถนน ตอนที่เขาออกมาอาละวาดเผาบ้านเผาเมือง คิดว่าเขาคงไม่มาเผาสภา ตนไม่มีปัญหา แต่อยากเห็นเขาพูดโต้ตอบกันด้วยเหตุด้วยผล ตนพอใจที่จะทำงานร่วมกันเขาในลักษณะนี้มากกว่า หากเป็นในสภา เขาคงไม่นำนิสัยที่ใช้ข้างนอกมาในสภา หากเป็นเช่นนั้นก็ตัวใครตัวมัน
**แนะกกต.อย่าปล่อยเพราะแรงกดดัน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รักษาการกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ออกมาระบุถึงแนวทางของนปช.หากกกต.ยังไม่รับรองว่า นี่คือข้อกังวลของสังคมไทยมาตั้งแต่ต้นว่า เพราะมีการใช้คนมวลชนที่ตัวเองสร้างขึ้นมากดดันการทำงานหลายๆ ฝ่าย ก่อนหน้าเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้พยายามชี้ให้เห็นแล้วว่าเกิดเลือกตั้งไปแล้ว ก็ไม่ควรใช้มวลชนคนเสื้อแดง ไปกดดันการทำงานอีก และตอนนี้ยิ่งน่ากังวลมากเพราะมีการออกมา กดดันกกต. และจากนี้ไปก็ต้องจับตาดูในส่วนของการทำงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่องผลการสอบสวนกรณีเหตุการณ์พฤษภาปีที่แล้วว่าจะถูกกดดันอีกหรือไม่
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากพรรคเพื่อไทยจะแสดงทีท่าที่ชัดเจนแล้วคงไม่พอ ควรจะมีการพูดจาให้ชัดเจนกับคนเสื้อแดงด้วยว่าจะต้องไม่มีการดดันการทำงานขององค์กรอิสระฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และกระบวนการยุติธรรมอีก ทั้งนี้หากมีการใช้มวลชนมากดดัน ก็จะทำให้การตรวจสอบรัฐบาลไม่สามารถที่จะทำได้ แม้แต่พวกตนที่เป็นส.ส.ฝ่ายค้านที่ต้องทำงานในด้านการตรวจสอบ กังวลว่าจะมีการกดดันในลักษณะนี้เหมือนกัน
เมื่อถามถึงความมั่นใจที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะปรามคนเสื้อแดง นายสาทิตย์ กล่าวว่า คงไม่ เพราะเขาเป็นกลุ่มเดียวกัน มีความเชื่อมโยงกัน และพุดคุยกันตลอดเวลา แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องการแบ่งหน้าที่กันทำงาน เพราะหากรัฐบาลนี้ มี 300 กว่าเสียงแล้วไม่สามารถตรวจสอบได้ แล้วมีมวลชนเสื้อแดงออกมากดดัน ทำให้การทำงานองค์กรต่างๆ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย
“พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง จะต้องพูดกันให้ชัดว่าท่าทีของพวกท่าน ต่อไปนี้จะต้องไม่ไปกดดันการทำหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาปรามว่าให้คนเสื้อแดงหยุดการกดดันการทำงานของ กกต.นั้น ผมมองว่า การแสดงจุดยืนแค่นี่คงไม่พอ ที่ผ่านมา ก็รู้กันหมดว่าใครเป็นใคร ควรที่จะมีการเรียกมาพูดจา เรื่องนี้จะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และกระบวนการตรวจสอบจะไม่สามารถทำได้”นายสาทิตย์กล่าว
**"อ๋อย"ทวิตไม่มีกฎแขวนแดง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย ทวิตข้อความกรณีของแกนนำนปช.ทั้ง 12 คน ที่กกต.จะพิจารณาว่า ยังมองไม่เห็นประเด็นที่จะทำให้ว่าที่ส.ส. ขาดคุณสมบัติได้ แม้แต่กรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ เข้าใจว่ากกต.จะไม่มีข้อกฎหมายมารองรับในการแขวนคนเหล่านี้ เว้นแต่จะมีการร้องค้านที่ไม่เปิดเผย จึงเหลือประเด็นเกี่ยวกับการถูกขังและไม่ไปใช้สิทธิ์ การอยู่ระหว่างถูกคุมขังในระหว่างเป็นผู้ต้องหา ไม่เป็นเหตุให้ขาดคุณสมบัติและกกต.ก็ยอมให้คุณจตุพรลงสมัครไปแล้ว จึงไม่เป็นประเด็นในตอนนี้
กกต.จึงควรจะรับรองคุณจตุพรไปก่อน แล้วหากเห็นว่าคุณจตุพรขาดคุณสมบัติในการเป็นสส. ก็ร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญในภายหลัง การไม่รับรองแกนนำนปช.หลายคนพร้อมๆ กันโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน จึงอาจถูกมองได้ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองมากกว่ากฎหมายได้
** “มาร์ค” รับหนังสือรับรองการเป็นส.ส.
วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำหรับบรรยากาศการเปิดรับหนังสือรับรองผลการเลือกตั้งการเป็นส.ส. ซึ่งเปิดให้รับเป็นวันที่ 8 เมื่อเวลา 08.40 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ และรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารับหนังสือรับรองผลการเลือกตั้งเป็นส.ส.เป็นคนแรกของวันนี้ หลังจากกกต. ได้ประกาศรับรองผลไปเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา
หลังจากที่เดินทางมาถึงสำนักงานกกต. นายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นไปรับหนังสือรับรองที่บริเวณชั้น 5 ซึ่งเป็นสถานที่รับหนังสือรับรองฯ หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ รับหนังสือรับรองฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วยังได้ร่วมลงนามในปณิธาน 8 ข้อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้แทนปวงชนชาวไทยที่ดี ที่ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดไว้ ก่อนที่จะเดินทางไปแสดงตนต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่อาคารรัฐสภาต่อทันที