ASTVผู้จัดการรายวัน - "ผลิตภัณฑ์ตราเพชร" ผนึกผู้ผลิตเหล็กรีดจากอังกฤษ ร่อนผลิตภัณฑ์ใหม่ โครงหลังคาเหล็ก ภายใต้แบรนด์ " ไดมอนด์ อัลต้า ทรัส " รุกทำตลาดครึ่งปีหลัง หวังหนุนกลุ่มกระเบื้องหลังคาคอนกรีตให้เติบโตมากขึ้น แต่ภาพรวมครึ่งปีหลังตัวเลขผลประกอบการอาจไม่ดีเท่าครึ่งปีแรก เหตุเป็นไปตามฤดูกาล ยอมรับมาตรการประชานิยม หากทำได้ดี แต่ระวังขึ้นค่าแรง 300 บาท กระเทือน เล็งขยายฐานส่งออกประเทศปากีสถานและศรีลังกา ในปีนี้
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังยังคงเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ภาพรวมอาจลดลงเล็กน้อยจากครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล โดยปกติรายได้ช่วงครึ่งปีหลังจะมีสัดส่วนราว 40% ของรายได้รวมทั้งปี แต่ถึงอย่างไรก็ดี มั่นใจรายได้รวมทั้งปีจะเติบโตตามเป้า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,300 ล้านบาท
สำหรับนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการคาดหวังรัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาดำเนินการนั้น นายสาธิต มองว่าหากสามารถปฏิบัติได้จริงก็จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวม ซึ่งบริษัทก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย
" ถ้าทำได้ก็จะดี แต่ก็มีเรื่องที่กังวล คือ การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ถ้าเกิดขึ้นจริงก็คงมีผลกระทบกับทุกองค์กร คิดว่าควรจะขึ้นแบบ step by step มากกว่า ปัจจุบันค่าแรงคิดเป็นต้นทุนของบริษัทไม่ถึง 10%"นายสาธิต กล่าว
ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนลูกค้าโครงการเพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5% แม้จะมีกำไร(มาร์จิ้น)น้อยกว่าการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย แต่ปริมาณการขายแต่ละครั้งจะมากกว่า ขณะที่สัดส่วนยอดขายในต่างประเทศจะพยายามรักษาไว้ที่ 10% ล่าสุดบริษัทเพิ่งกลับจากเวียดนาม หลังจากที่ได้เข้าไปพูดคุยกับลูกค้ารายใหม่
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าในตลาดใหม่ ๆ ทั้งปากีสถานและศรีลังกา โดยหวังว่าจะได้ข้อสรุปและเห็นคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาภายในปีนี้
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตร บริษัท แฮดเลย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าจากเหล็กรีดของอังกฤษ เปิดตัวสินค้าใหม่โครงหลังคาสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ " ไดมอนด์ อัลต้า ทรัส " เริ่มทำตลาดครึ่งปีหลัง โดยตั้งเป้ามียอดขายภายในปีแรกที่ประมาณ 100 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 2 พันหลังคา สามารถติดตั้งได้ประมาณ 200-300 หลังคา/เดือน และในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 600 หลังคา/เดือน
"เดิมเรามีกระเบื้องคอนกรีตอยู่แล้ว มีสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวม ตอนนี้มีสินค้าใหม่โครงสร้างหลังคาสำเร็จรูป ซึ่งมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เราตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ 100 ล้านบาท แม้จะมีราคาสูงกว่าสินค้าเดิม 3-5% หรือตกตารางเมตรละ 500 บาท แต่มีความคงทนและสามารถกันสนิมได้ดีกว่า เราก็คาดว่าตัวสินค้าใหม่จะช่วยเพิ่มยอดขายทางอ้อมให้กับตัวกระเบื้องหลังคาคอนกรีตในช่วงครึ่งปีหลังด้วย คาดยอดขายเติบโต 10-15% ขึ้นไป "นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังยังคงเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ภาพรวมอาจลดลงเล็กน้อยจากครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล โดยปกติรายได้ช่วงครึ่งปีหลังจะมีสัดส่วนราว 40% ของรายได้รวมทั้งปี แต่ถึงอย่างไรก็ดี มั่นใจรายได้รวมทั้งปีจะเติบโตตามเป้า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,300 ล้านบาท
สำหรับนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการคาดหวังรัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาดำเนินการนั้น นายสาธิต มองว่าหากสามารถปฏิบัติได้จริงก็จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวม ซึ่งบริษัทก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย
" ถ้าทำได้ก็จะดี แต่ก็มีเรื่องที่กังวล คือ การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ถ้าเกิดขึ้นจริงก็คงมีผลกระทบกับทุกองค์กร คิดว่าควรจะขึ้นแบบ step by step มากกว่า ปัจจุบันค่าแรงคิดเป็นต้นทุนของบริษัทไม่ถึง 10%"นายสาธิต กล่าว
ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนลูกค้าโครงการเพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5% แม้จะมีกำไร(มาร์จิ้น)น้อยกว่าการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย แต่ปริมาณการขายแต่ละครั้งจะมากกว่า ขณะที่สัดส่วนยอดขายในต่างประเทศจะพยายามรักษาไว้ที่ 10% ล่าสุดบริษัทเพิ่งกลับจากเวียดนาม หลังจากที่ได้เข้าไปพูดคุยกับลูกค้ารายใหม่
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าในตลาดใหม่ ๆ ทั้งปากีสถานและศรีลังกา โดยหวังว่าจะได้ข้อสรุปและเห็นคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาภายในปีนี้
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตร บริษัท แฮดเลย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าจากเหล็กรีดของอังกฤษ เปิดตัวสินค้าใหม่โครงหลังคาสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ " ไดมอนด์ อัลต้า ทรัส " เริ่มทำตลาดครึ่งปีหลัง โดยตั้งเป้ามียอดขายภายในปีแรกที่ประมาณ 100 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 2 พันหลังคา สามารถติดตั้งได้ประมาณ 200-300 หลังคา/เดือน และในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 600 หลังคา/เดือน
"เดิมเรามีกระเบื้องคอนกรีตอยู่แล้ว มีสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวม ตอนนี้มีสินค้าใหม่โครงสร้างหลังคาสำเร็จรูป ซึ่งมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เราตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ 100 ล้านบาท แม้จะมีราคาสูงกว่าสินค้าเดิม 3-5% หรือตกตารางเมตรละ 500 บาท แต่มีความคงทนและสามารถกันสนิมได้ดีกว่า เราก็คาดว่าตัวสินค้าใหม่จะช่วยเพิ่มยอดขายทางอ้อมให้กับตัวกระเบื้องหลังคาคอนกรีตในช่วงครึ่งปีหลังด้วย คาดยอดขายเติบโต 10-15% ขึ้นไป "นายสาธิต กล่าว