xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

พรรคแมลงสาบไปไม่เป็น ขุด “ศพแม้ว” - ย้ำแผลเผาบ้านเผาเมือง หาเสียงโค้งสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันที่ 3 ก.ค. ไม้เด็ดของพรรคประชาธิปัตย์ในการโกยคะแนนเสียงดูเหมือนจะทิ้งทุ่นและพุ่งเป้าไปที่การปลุกผี “นช.ทักษิณ ชินวัตร” และ “เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง” เป็นธงนำในการต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นสำคัญ โดยที่มิได้สนใจในนโยบายของพรรคที่จะนำเสนอต่อประชาชนเท่าใดนัก

ดังจะเห็นได้จากการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เวทีราชประสงค์ ในวาทกรรมสวยหรูที่ชื่อว่าดับไฟประเทศ ที่บรรดาขุนพลฝีปากกล้าของพรรค อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค หรือไล่ไปถึงบรรดาลูกพรรคคนอื่นๆ ก็ไหลไปในทางเดียวกันคือการ เริ่มต้นเคลียร์ทุกข้อครหา ทั้ง"ปม 91 ศพ" ทั้ง "นายกฯมือเปื้อนเลือด" ให้เป็นเรื่องของคน "เสื้อดำ"

จากนั้นก็พุ่งเป้าไปที่การไล่ถล่มคนเสื้อแดงว่าเป็นคนเผาบ้านเผาเมือง และหากเลือกพรรคเพื่อไทยก็ไม่ต่างจากพร้อมรับข้อเสนอนิรโทษกรรมให้ทักษิณ ชินวัตร เพื่อวาดภาพให้ประชาชนหวาดกลัวคนเสื้อแดงที่มาเผาบ้านเผาเมือง รวมทั้งตอกย้ำเรื่องความพยายามของนช.ทักษิณที่ต้องการเงิน4.6 หมื่นล้านที่ถูกศาลสั่งยึดไปจากการทุจริตคอรัปชั่น

ทั้งนี้ หากย้อนไปช่วงแรก ความจริงพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ปูทางขายนโยบายต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนเลือกกลับมาสานต่อสิ่งที่รัฐบาลได้เริ่มต้นเอาไว้แล้วบ้างเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกันรายได้ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะในวันที่เพื่อไทยยืนยันจะยกเลิกประกันรายได้ รื้อฟื้นระบบจำนำ หรือนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ย อสม. ที่ขายง่ายโดนใจชาวบ้านในพื้นที่ รวมไปถึงโฉนดชุมชน

ทว่า การนำเสนอนโยบายช่วงที่ผ่านมากลับไม่สามารถเรียกกระแส เรียกคะแนนได้เป็นเนื้อเป็นหนัง มีแต่สาละวันเตี้ยๆ ดูได้จากผลสำรวจโพลหลายสำนักที่ออกมาติดๆ กันหลายสัปดาห์  ไม่ว่าจะเป็นกระแสพรรค กระแสความเป็นผู้นำ หรือว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ก็ยังแพ้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หุ่นเชิดของ นช.ทักษิณ อยู่วันยังค่ำ

ด้วยเหตุนี้ ในสภาพหลังชนฝาจึงไม่มีวิธีใดทำได้ดีกว่า งัดวิชาก้นหีบเดิมๆ ของพรรคเก่าแก่ ด้วยการไล่ถล่มคู่ต่อสู้ทางการเมือง แทนการเสนอนโยบายอย่างสร้างสรรค์มันเสียให้รู้แล้วรู้รอด

สังเกตได้จากการลงพื้นที่หาเสียง โค้งสุดท้ายนี้...ประชาธิปัตย์พุ่งเป้าไล่ถล่มทักษิณ ชินวัตรเป็นการใหญ่เพราะรู้ดีว่า เป็นชนักติดหลังและเป็นจุดอ่อนที่สุดที่จะตัดคะแนนพรรคเพื่อไทยให้ลงมาได้บ้าง

เหนืออื่นใดก็คงต้องกล่าวว่า ยุทธศาสตร์ราชประสงค์ พรรคประชาธิปัตย์หวังผลไว้สูงพอสมควรว่าจะสามารถฝังภาพความเลวร้ายของระบอบทักษิณ ให้หวนกลับมาฝังใจประชาชนได้อีกครั้ง และดูเหมือนว่าก็ได้ผลเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ คงจะไม่ขยายแผลด้วยการเปิดแคมเปญเดินหน้า "ล้างพิษทักษิณ"

ก่อนจะตามมาด้วยป้ายหาเสียงระลอกสุดท้าย "ดับไฟประเทศ ปฏิเสธความรุนแรง"และ "ผมจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน แต่จะไม่ล้างผิดให้ใครคนใดคนหนึ่ง"

อีกทั้งเอกสารหาเสียงช่วงหลังจึงเพิ่มเติมจากแผ่นพับนโยบาย มาเป็นการนำเสนอข้อมูลที่ชี้แจงตอกย้ำสายสัมพันธ์ระหว่าง "เสื้อแดง-ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" พร้อมผูกโยงไปถึงเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมา  พร้อมเผยแพร่บทสัมภาษณ์ทักษิณกับสำนักข่าวต่างประเทศที่ระบุว่า "รัฐบาลขโมยเงินผมไป"

ประกบกับคู่กับคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยึดทรัพย์ทักษิณ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2553 ที่ศาลวินิจฉัยว่าทักษิณใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท ชินคอร์ป ก่อนจะขยายผลว่า การประกาศชัดว่าจะกลับประเทศเดินหน้าสร้างความปรองดองของทักษิณ มีการหมกเม็ดเพื่อทวงเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทที่ถูกยึดไป
สอดรับกับยุทธศาสตร์ในการหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่ต่างๆ ของบรรดาพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่พ้นจากวิธีการเช่นนี้ เพราะหลังจากบีบน้ำตาที่ราชประสงค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว การเดินทางลงพื้นที่หาเสียงของบรรดาพรรคประชาธิปัตย์ก็ดูจะเป็นไปในแนวทางนี้ชัดเจน ไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่นายสุเทพเริ่มเขี่ยลูกปราศรัยต่อสาขาพรรคที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ในยุทธศาสตร์ตอกย้ำภาพคนเสื้อแดงว่าเป็นคนเผาบ้านเผาเมือง ขยายแผลเก่า "เผาบ้านเผาเมือง"ประกาศตัวเป็นทางเลือกที่อาสาเดินหน้า"ปรองดอง" ค้าน "ล้างความผิด" พุ่งเป้าดักคอการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทของ นช.ทักษิณ ชินวัตร

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ก็เลือกที่จะถล่ม น.ส.ยิ่งลักษณ์เรื่องการนิรโทษกรรมว่า พอกระแสเรื่องนี้ตีกลับก็มาบอกว่าจะไม่นิรโทษกรรมแล้ว ทั้งที่ตอนแรกไปใช้นโยบายนี้หาเสียงตามพื้นที่ต่าง ๆ  ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการดำเนินการไปตามเกมของพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพราะสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ เน้นย้ำคำพูดเสมอก็ได้ปรากฏอยู่บนป้ายหาเสียงชัดว่า จะไม่ล้างผิดให้กับคนใดคนหนึ่ง

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ที่ยังต้องแบกหน้าลงไปหาเสียงในพื้นที่ของแสลง คือในภาคอีสาน ทั้งจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ ซึ่งประชาธิปัตย์หวังจะได้ ส.ส.จาก 3 จังหวัดนี้ถึง 10 คน โดยนายอภิสิทธิ์ได้ลงทุนทำตัวเป็นเด็กวัดเดินหาเสียง ด้วยการปราศรัยที่จังหวัดอุบลราชธานี นายอภิสิทธิ์ก็ได้เลือกเสิร์ฟอาหารเรียกน้ำย่อยในเรื่องนโยบายก่อนว่า ใครอยากได้เงินส่วนต่าง หรือการประกันราคา ก็ขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และชู 10 นิ้วขึ้น

แต่ท้ายสุดก็ยังไม่วายงัดวิชามารปล่อยของออกมาอีกจนได้ โดยนายอภิสิทธิ์เลือกตีกล่องดวงใจของคนเสื้อแดงอีกครั้ง "จำได้ไหม จ.อุบลราชธานี เขามาเผาศาลากลาง เงินของพี่น้องทั้งนั้น เหมือนกับเผาเงินของพี่น้องประชาชน จะยอมได้ไหมให้คนที่เคยเผาเงินพี่น้องไปเป็นรัฐบาล" และอีกไม่นานถัดจากนั้นที่จังหวัดยโสธร ก็ไม่พ้นการปราศรัยเปิดแผลเผาศาลากลางอีกเช่นเคย หรือจะเป็นที่อำนาจเจริญ ก็ยัง

เน้นย้ำรูปแบบเดิมว่า พรรคเพื่อไทยวนอยู่กับปัญหาของคนๆ เดียว ครอบครัวเดียว วันเลือกตั้งจะชี้ได้ว่าจะก้าวข้ามทักษิณ ชินวัตรไปได้หรือไม่ 

ไม่เว้นแม้แต่ระดับรัฐมนตรีคลัง อย่างนายกรณ์ จาติกวณิช ก็ยังลงทุนดีดลูกคิดรางแก้ว เปรียบเทียบเงิน 4.6หมื่นล้าน ที่ทักษิณถูกยึดว่า ถ้าหากคืนเงินให้ทักษิณ ต้องใช้เงินภาษีของประชาชนคนละ 1,078 บาท แถมดักคอว่าแบบเจ็บๆ แสบๆ ว่าก็เท่ากับเซ็น"เช็คช่วยแม้ว" เพราะหากเพื่อไทยได้กลับมาจริงแล้วเดินหน้าทวงเงินจำนวนนี้คืน ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 40 กว่าล้านคนจะต้องเสียเงินเฉลี่ยคนละ 1,078 บาท

และดูเหมือนจะได้ผลในระดับหนึ่งอีกด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วพรรคเพื่อไทยคงจะไม่แก้เกมด้วยการถึงขั้นออกแถลงการณ์ แบบทันท่วงทีว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยมีนโยบายทวงเงิน 4.6 หมื่นล้านคืน รวมไปถึงการนิรโทษกรรมให้ทักษิณ เพียงคนเดียวอีกด้วย

ขณะเดียวกัน พลพรรคแมงสาบฆ่าไม่ตาย ก็ยังมีคิวปิดท้าย หาเสียงในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งจะมีการตั้งเวทีคู่ขนานถึง 9 เวทีทั่วประเทศ ไปทั่วทุกภาค โดยจะมีการส่งแกนนำระดับไฮด์ปาร์ก ซึ่งภาคใต้จัดหนักส่ง ชวน หลีกภัย สุเพท เทือกสุบรรณ บัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหอก ภาคอีสานให้ วิฑูรย์ นามบุตร อิสสระ สมชัย เป็นตัวยืนภายใต้หัวข้อ"อนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน "

แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า จะต้องงัดกลยุทธ์เดิมๆ "ไม่ล้างผิดให้คนคนเดียว " อันเป็นวาทกรรมที่ติดป้ายหาเสียงอยู่ทั่วประเทศ มาขยายแผลซ้ำหวังกลบพรรคเพื่อไทยซ้ำอย่างแน่นอน 

มาถึงตรงนี้แล้วก็คงกล่าวได้คำเดียวว่าน่าเศร้าใจยิ่ง ที่บรรดาพรรคประชาธิปัตย์ยังคงคิดได้ตื้นๆ ด้วยการวาดภาพผีทักษิณ ให้ประชาชนกลัวเพื่อหวังว่าตัวเองจะได้สวมบทหมอปราบผีทักษิณ ตลอดไป ถามว่า 2 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ทำไมไม่จัดการระบอบทักษิณ ให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมถึงได้เพิ่งเอาออกมาหากินในช่วงหาเสียง  เพราะในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาบ้านเมืองวันนี้ไม่ใช่อยู่ที่ ตัว ทักษิณ ชินวัตร เพราะลำพังทักษิณ คนเดียว คงไม่มีความสามารถที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลที่หากบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และถึงแม้ว่าจะมาถึงวาระสุดท้าย พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่เคยไม่ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ก้าวข้ามทักษิณ เลือกที่จะเลี้ยงไข้ผีทักษิณไว้หากินตลอดเวลา เพราะหลักฐานก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ถ้าประชาธิปัตย์มีดีจริง คงไม่เลือกที่จะขยันเอาภาพผีทักษิณมาหากินในช่วงเวลานี้ จนไม่เคยมองว่าตัวเองเคยทำอะไรไว้บ้าง

และจวบจนมาโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งประชาชนตาดำๆ ก็ยังไม่เห็นการเมืองแบบสร้างสรรค์ด้วยการเสนอนโยบายที่ดีมาให้ประชาชนได้เลือก ได้พิจารณา เลยแม้แต่น้อย

ดังนั้นแล้ว คงไม่มีวิธีการใดสั่งสอนพรรคการเมืองที่ได้ฉายาว่า แมลงสาปฆ่าไม่ตาย ด้วยการเข้าคูหากากบาทในช่องโหวตโน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของประชาชนที่ส่งสัญญาณให้พรรคประชาธิปัตย์สำนึกว่า ประเทศไทยไม่มีที่ว่างให้กับพรรคการเมืองที่มีดีแค่ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น"
กำลังโหลดความคิดเห็น