ASTVผู้จัดการรายวัน- ก.พลังงานขีดเส้น 17 ก.ค.ท่อก๊าซฯเส้นที่ 1 จ่ายก๊าซฯได้ ยันค่าไฟต้องมีคนรับผิดชอบ เร่งแอลเอ็นจีแทรกเข้ามาอีก 1 ลำภายใน 26 ก.ค.นี้ ด้านปตท.ยอมรับเลื่อนส่งนักประดาน้ำลงไปปิดวาล์วเป็นวันที่ 2 ก.ค. ยันโรงแยกก๊าซฯและปิโตรฯเดินเครื่องอยู่เพียงแต่ลดกำลังผลิตลงเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณก๊าซฯ
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารเชื้อเพลิง วานนี้ (29มิ.ย.) ว่า ได้เชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาสอบถามความคืบหน้ากรณีท่อก๊าซฯที่อ่าวไทยรั่ว ซึ่งจากรายงานของบมจ.ปตท.คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นับจากวันที่ปตท.จะส่งนักประดาน้ำสำรวจรายละเอียดวันที่ 2 ก.ค.นี้จนถึงวันที่ 17 ก.ค.คาดว่าจะสามารถซ่อมแซมได้แล้วเสร็จและจะส่งผลให้ท่อเส้นที่ 1 สามารถส่งก๊าซฯได้ปกติ แต่ท่อกิ่งแหล่งปลาทองจะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะยังมีปัญหาฝุ่นทรายมากทำให้สำรวจยังลำบากอยู่
ทั้งนี้ ได้ประเมินว่า นับตั้งแต่ที่ท่อก๊าซฯรั่วเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2554-17 ก.ค.2554 จะใช้น้ำมันเตาทดแทนประมาณ 100-107 ล้านลิตร และเมื่อมาคำนวณส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเชื้อเพลิงที่คิดในค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)ที่ระดับ 1 แสนล้านบาทแล้ว ถือว่าน้อยมาก จึงไม่น่ามีปัญหาอะไร ประกอบกับนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานได้กำชับไม่ให้ผลักภาระค่าไฟดังกล่าวให้แก่ประชาชนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์)จะได้ไปพิจารณารายละเอียดถึงความรับผิดชอบร่วมกับปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)
ทั้งนี้ ปัญหาที่น่ากังวลคือการติดตามเรือขนก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) เพราะขณะนี้เรือแอลเอ็นจีลำที่3 ขนาด 7 หมื่นตันหรือ 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตกำลังโหลดก๊าซอยู่ ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณก๊าซแอลเอ็นจีที่อยู่ในสต๊อกอีก 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตนั้นจะสามารถใช้ได้แค่ 20 วันเท่านั้น จึงสั่งให้ ปตท.เร่งจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีเข้ามาแทรกเพิ่มอีก 1 ลำ ภายในวันที่ 26 ก.ค.นี้ก่อนที่เรือแอลเอ็นจีลำที่4 จะเข้ามาตามกำหนดในวันที่ 29 ก.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารจัดการเชื้อเพลิงได้ติดตามการดำเนินงานของ ปตท.และ กฟผ.หลังได้สั่งให้ กฟผ.ไปบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้เพียงพอโดยการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มและปรับแผนซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ส่วน ปตท.ก็ได้จัดหาซื้อน้ำมันเตา 0.5% จำนวน 30 ล้านลิตรให้โรงไฟฟ้าบางประกงได้ 6 ก.ค.นี้ และจัดหาน้ำมันเตา 2%ให้โรงไฟฟ้ากระบี่จำนวน 29 ล้านลิตรได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้
*** ปตท.เลื่อนปิดวาล์วท่อก๊าซฯเป็น 2ก.ค.นี้
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาท่อก๊าซฯรั่วว่า ตามที่ปตท.จะส่งนักประดาน้ำลงไปในทะเลบริเวณที่ท่อก๊าซฯรั่วเพื่อปิดวาล์วเพื่อตัดแยกระบบท่อก๊าซประธานในทะเลเส้นที่ 1 ขนาด 34 นิ้ว ออกจากท่อกิ่งขนาด 24 นิ้วที่รั่วในวันที่ 29 มิ.ย.นั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากต้องรออุปกรณ์ในการดำน้ำจากสิงคโปร์ และเรือที่จะส่งนักประดาน้ำไปนั้นต้องห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร จึงคาดว่าจะส่งนักประดาน้ำลลงไปปิดวาล์วได้ในวันเสาร์ที่ 2 ก.ค.นี้
หลังจากนั้นจะตรวจสอบว่าท่อประธาน เส้นที่ 1 มีน้ำทะเลไหลเข้าท่อหรือไม่ หากไม่มีน้ำทะเลในท่อก๊าซฯเส้นที่ 1 ก็สามารถจัดส่งก๊าซฯจากแหล่งเอราวัณได้ตามปกติประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ปริมาณก๊าซฯที่หายไปจากระบบมาจากแหล่งปลาทอง 150 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันเท่านั้น แต่หากพบว่าท่อก๊าซเส้นที่ 1 มีน้ำทะเลอยู่ในท่อฯก็ต้องใช้เวลาดำเนินการกำจัดน้ำทะเลออกจากระบบท่อฯก่อนที่จะกลับมาส่งก๊าซฯได้อีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ใด
ผลกระทบจากเหตุการณ์ท่อก๊าซฯในทะเลรั่วนั้น ทำให้ปริมาณก๊าซฯหายไป 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน โดยโรงแยกก๊าซธรรมชาติทั้ง 6 โรงของปตท.ยังเดินเครื่องผลิตตามปกติเพื่อป้อนให้ลูกค้า ขณะที่โรงแยกก๊าซฯ 5 ที่ปิดซ่อมบำรุงเมื่อเร็วๆนี้ได้กลับมาเดินเครื่องแล้ว แต่ยังเดินเครื่องไม่เต็ม เนื่องจากปริมาณก๊าซฯในช่วงนี้ลดลง ส่วนโรงแครกเกอร์กำลังการผลิต 1 ล้านต่อปีของ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มีแผนที่จะหยุดซ่อมบำรุงในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ทำให้ช่วงนี้เครื่องจักรเดินไม่เต็มที่อยู่แล้ว ส่วนก๊าซหุงต้มก็มีเพียงพอที่จะป้อนให้ภาคครัวเรือนและขนส่ง และมีการนำก๊าซLNG ไปเสริมระบบการผลิตไฟฟ้าด้วย
" ปริมาณก๊าซฯในอ่าวไทยและพม่าเข้าสู่ระบบประมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน โดยท่อฯเส้น 1 รับก๊าซฯ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งหยุดรับก๊าซฯจากแหล่งปลาทอง 150 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ส่วนปริมาณก๊าซฯที่จากแหล่งเอราวัณอีก 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันถูกส่งไปยังท่อก๊าซฯในทะเลเส้น 2 และเส้น 3 ประมาณ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันแทน ที่หายไปจริงแค่ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งปตท.ก็บริหารโดยลดกำลังผลิตโรงแยกก๊าซฯ นำแอลเอ็นจีและน้ำมันเตามาเสริม"
ปัจจุบันปตท.ได้จัดหาเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซฯที่ลดลง โดยมีปริมาณสำรองน้ำมันเตาอยู่ 120 ล้านลิตร แต่ที่ช้ในกรณีนี้ได้ คือ น้ำมันเตา กำมะถันต่ำ ร้อยละ 2 และ ร้อยละ 0.5 ซึ่งมีปริมาณสำรองประมาณ 50 ล้านลิตร และจะนำเข้ามาเพิ่มอีก 30 ล้านลิตร โดยจัดส่งน้ำมันเตาในปริมาณ 10 ล้านลิตร/วัน เพื่อใช้ ผลิตและจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เพิ่มขึ้นอีก 70,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการใช้ในการผลิตไฟฟ้า
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ผู้กระทำผิดจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจาก บริษัท ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสตรี ซึ่งเป็นผู้รับเหมาวางท่อก๊าซฯเชื่อมจากแหล่งปลาทองมายังท่อก๊าซฯเส้น 3 มีการยกสมอเรือเพื่อข้ามท่อแล้วไปเกี่ยวโดนท่อกิ่งขนาด 24 นิ้วทำให้ท่อดังกล่าวฉีกขาด
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารเชื้อเพลิง วานนี้ (29มิ.ย.) ว่า ได้เชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาสอบถามความคืบหน้ากรณีท่อก๊าซฯที่อ่าวไทยรั่ว ซึ่งจากรายงานของบมจ.ปตท.คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นับจากวันที่ปตท.จะส่งนักประดาน้ำสำรวจรายละเอียดวันที่ 2 ก.ค.นี้จนถึงวันที่ 17 ก.ค.คาดว่าจะสามารถซ่อมแซมได้แล้วเสร็จและจะส่งผลให้ท่อเส้นที่ 1 สามารถส่งก๊าซฯได้ปกติ แต่ท่อกิ่งแหล่งปลาทองจะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะยังมีปัญหาฝุ่นทรายมากทำให้สำรวจยังลำบากอยู่
ทั้งนี้ ได้ประเมินว่า นับตั้งแต่ที่ท่อก๊าซฯรั่วเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2554-17 ก.ค.2554 จะใช้น้ำมันเตาทดแทนประมาณ 100-107 ล้านลิตร และเมื่อมาคำนวณส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเชื้อเพลิงที่คิดในค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)ที่ระดับ 1 แสนล้านบาทแล้ว ถือว่าน้อยมาก จึงไม่น่ามีปัญหาอะไร ประกอบกับนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานได้กำชับไม่ให้ผลักภาระค่าไฟดังกล่าวให้แก่ประชาชนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์)จะได้ไปพิจารณารายละเอียดถึงความรับผิดชอบร่วมกับปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)
ทั้งนี้ ปัญหาที่น่ากังวลคือการติดตามเรือขนก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) เพราะขณะนี้เรือแอลเอ็นจีลำที่3 ขนาด 7 หมื่นตันหรือ 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตกำลังโหลดก๊าซอยู่ ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณก๊าซแอลเอ็นจีที่อยู่ในสต๊อกอีก 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตนั้นจะสามารถใช้ได้แค่ 20 วันเท่านั้น จึงสั่งให้ ปตท.เร่งจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีเข้ามาแทรกเพิ่มอีก 1 ลำ ภายในวันที่ 26 ก.ค.นี้ก่อนที่เรือแอลเอ็นจีลำที่4 จะเข้ามาตามกำหนดในวันที่ 29 ก.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารจัดการเชื้อเพลิงได้ติดตามการดำเนินงานของ ปตท.และ กฟผ.หลังได้สั่งให้ กฟผ.ไปบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้เพียงพอโดยการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มและปรับแผนซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ส่วน ปตท.ก็ได้จัดหาซื้อน้ำมันเตา 0.5% จำนวน 30 ล้านลิตรให้โรงไฟฟ้าบางประกงได้ 6 ก.ค.นี้ และจัดหาน้ำมันเตา 2%ให้โรงไฟฟ้ากระบี่จำนวน 29 ล้านลิตรได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้
*** ปตท.เลื่อนปิดวาล์วท่อก๊าซฯเป็น 2ก.ค.นี้
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาท่อก๊าซฯรั่วว่า ตามที่ปตท.จะส่งนักประดาน้ำลงไปในทะเลบริเวณที่ท่อก๊าซฯรั่วเพื่อปิดวาล์วเพื่อตัดแยกระบบท่อก๊าซประธานในทะเลเส้นที่ 1 ขนาด 34 นิ้ว ออกจากท่อกิ่งขนาด 24 นิ้วที่รั่วในวันที่ 29 มิ.ย.นั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากต้องรออุปกรณ์ในการดำน้ำจากสิงคโปร์ และเรือที่จะส่งนักประดาน้ำไปนั้นต้องห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร จึงคาดว่าจะส่งนักประดาน้ำลลงไปปิดวาล์วได้ในวันเสาร์ที่ 2 ก.ค.นี้
หลังจากนั้นจะตรวจสอบว่าท่อประธาน เส้นที่ 1 มีน้ำทะเลไหลเข้าท่อหรือไม่ หากไม่มีน้ำทะเลในท่อก๊าซฯเส้นที่ 1 ก็สามารถจัดส่งก๊าซฯจากแหล่งเอราวัณได้ตามปกติประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ปริมาณก๊าซฯที่หายไปจากระบบมาจากแหล่งปลาทอง 150 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันเท่านั้น แต่หากพบว่าท่อก๊าซเส้นที่ 1 มีน้ำทะเลอยู่ในท่อฯก็ต้องใช้เวลาดำเนินการกำจัดน้ำทะเลออกจากระบบท่อฯก่อนที่จะกลับมาส่งก๊าซฯได้อีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ใด
ผลกระทบจากเหตุการณ์ท่อก๊าซฯในทะเลรั่วนั้น ทำให้ปริมาณก๊าซฯหายไป 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน โดยโรงแยกก๊าซธรรมชาติทั้ง 6 โรงของปตท.ยังเดินเครื่องผลิตตามปกติเพื่อป้อนให้ลูกค้า ขณะที่โรงแยกก๊าซฯ 5 ที่ปิดซ่อมบำรุงเมื่อเร็วๆนี้ได้กลับมาเดินเครื่องแล้ว แต่ยังเดินเครื่องไม่เต็ม เนื่องจากปริมาณก๊าซฯในช่วงนี้ลดลง ส่วนโรงแครกเกอร์กำลังการผลิต 1 ล้านต่อปีของ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มีแผนที่จะหยุดซ่อมบำรุงในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ทำให้ช่วงนี้เครื่องจักรเดินไม่เต็มที่อยู่แล้ว ส่วนก๊าซหุงต้มก็มีเพียงพอที่จะป้อนให้ภาคครัวเรือนและขนส่ง และมีการนำก๊าซLNG ไปเสริมระบบการผลิตไฟฟ้าด้วย
" ปริมาณก๊าซฯในอ่าวไทยและพม่าเข้าสู่ระบบประมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน โดยท่อฯเส้น 1 รับก๊าซฯ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งหยุดรับก๊าซฯจากแหล่งปลาทอง 150 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ส่วนปริมาณก๊าซฯที่จากแหล่งเอราวัณอีก 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันถูกส่งไปยังท่อก๊าซฯในทะเลเส้น 2 และเส้น 3 ประมาณ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันแทน ที่หายไปจริงแค่ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งปตท.ก็บริหารโดยลดกำลังผลิตโรงแยกก๊าซฯ นำแอลเอ็นจีและน้ำมันเตามาเสริม"
ปัจจุบันปตท.ได้จัดหาเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซฯที่ลดลง โดยมีปริมาณสำรองน้ำมันเตาอยู่ 120 ล้านลิตร แต่ที่ช้ในกรณีนี้ได้ คือ น้ำมันเตา กำมะถันต่ำ ร้อยละ 2 และ ร้อยละ 0.5 ซึ่งมีปริมาณสำรองประมาณ 50 ล้านลิตร และจะนำเข้ามาเพิ่มอีก 30 ล้านลิตร โดยจัดส่งน้ำมันเตาในปริมาณ 10 ล้านลิตร/วัน เพื่อใช้ ผลิตและจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เพิ่มขึ้นอีก 70,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการใช้ในการผลิตไฟฟ้า
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ผู้กระทำผิดจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจาก บริษัท ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสตรี ซึ่งเป็นผู้รับเหมาวางท่อก๊าซฯเชื่อมจากแหล่งปลาทองมายังท่อก๊าซฯเส้น 3 มีการยกสมอเรือเพื่อข้ามท่อแล้วไปเกี่ยวโดนท่อกิ่งขนาด 24 นิ้วทำให้ท่อดังกล่าวฉีกขาด
