xs
xsm
sm
md
lg

เตือน“พท.-ปชป”.อย่าเผลอ ระวังถูกแซง “ชู”ลั่นพท.ฝ่ายค้าน3เดือนวุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(29 มิ.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าและผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย แถลงว่า ตนจะจัดปราศรัยใหญ่ที่สวนชูวิทย์ เวลา 18.00 น. วันที่ 1 ก.ค. โดยเนื้อหาจะเน้นนโยบายต้านทุจริตคอรัปชั่น ปัญหาการเมืองในปัจจุบัน และอนาคตประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ทั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านไลฟ์สตรีมบนเว็บไซต์ของตนด้วย
หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงนโยบายหาเสียงทุกพรรคการเมือง ว่า ล้วนเป็นนโยบายประชานิยมที่ไม่สามารถทำได้จริง เพราะต้องใช้เม็ดเงินจำนวนหลายล้านบาท ขณะเดียวกันเงินในคลังมีไม่เพียงพอ ดังนั้นหากรัฐบาลชุดหน้าเน้นแต่การทำนโยบายประชานิยม อาจทำให้รัฐไม่สามารถนำงบไปพัฒนาหรือลงทุนโครงการที่จำเป็นได้ เช่น สร้างถนน
“ผมมีตัวเลขนโยบายประชานิยมของแต่ละพรรคให้ดู โดยพรรคเพื่อไทยจะใช้เงินมากถึง 9.6 แสนล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์ 4.2 แสนล้านบาท พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 1.12 ล้านล้านบาท พรรคภูมิใจไทย 7.7แสนล้านบาท และพรรคชาติไทยพัฒนา 2.3 แสนล้านบาท ดังนั้นหากพรรคใดจะทำโครงการประชานิยมจำเป็นต้องหาเงินเข้ารัฐ 36 % แต่ขณะนี้ไม่มีพรรรคใดที่บอกวิธีหาเงิน” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า สถานทูตอังกฤษได้เชิญตนไปพบที่ที่ทำการสถานทูต โดยตนคาดว่าทางทูตต้องการทราบถึงสถานการณ์การเมืองและการเลือกตั้งของประเทศไทย จากคนที่มีข้อมูล ไม่ใช่คนซี้ซั้ว
ทั้งนี้ ายชูวิทย์ ยังได้ตอบคำถามถึงการตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านเชื่อว่าภายใน 3 เดือนจะเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ที่ลักษณะใกล้เคียงกับการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ และหากเพื่อไทยได้คะแนนไม่ถึง 251 คะแนน ส่วนพรรคภูมิใจไทยได้เสียง 60 เสียง พรรคเพื่อไทยอาจเป็นฝ่ายค้านที่แน่นอน

**ชทพ.ลงนราฯ อาสาดับไฟใต้
ที่ เทศบาล จังหวัดนราธิวาส นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ผู้สมัครส.ส.แบบบัญขีรายชื่อ นายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เปิดเวทีปราศรัยเพื่อช่วยผู้สมัครส.ส.ของพรรคจังหวัดนราธิวาส ทั้ง 4 เขต คือ นายวัชระ ยาวอหะซัน นายอาริส เจตาภิวัฒน์ นายแวอันวา แวยะปา และนายสหรัฐ มุณีรัตน์ ผู้สมัครส.ส.นราธิวาส พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนรา และนายนิกร จำนง กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมสังเกตการณ์นั่งฟังการปราศรัยครั้งนี้ด้วย

**“เสธ.หนั่น” เตือน พท.-ปชป.อย่าเผลอ
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เมื่อ 20กว่าปีตนก็ตระเวนแถวนี้ ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีเกษตรฯและรัฐมนตรีมหาดไทย แก้ไขปัญหาภาคใต้ในฐานะที่รับผิดชอบ กลางคืนก็เดินได้พี่น้องให้การต้อนรับอย่างดี มาวันนี้ไม่แน่ใจเดินได้เหมือนเดิมหรือเปล่า พรรคชาติไทยพัฒนามีนโยบายสำคัญสุดคือ ความปรองดองแห่งชาติ พรรคมุ่งมั่นสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นให้ได้ ติดตามปี 49 จะเห็นคสามแตกแยกในบ้านเรามีมาก เสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อหลากสี เกิดมาหลังการยึดอำนาจ เกือบ 5 ปีแล้ว และเกิดจากพรรคการเมืองทั้งสิ้นทื่ทำให้ประชาชนถือฝ่ายเอาเป็นพวก และไปต่อสู้กันเอง ปี 52-53จะเห็นไทยฆ่าไทยกันเอง มีผู้ล้มตาย บาดเจ็บมากกมาย พรรคจึงมีมติเป็นคนกลางนำความปรองดอง ให้ทุกฝ่ายลดละเลิกความขัดแย้ง ประกาศไปครั้งแรกทุกคนถามจะทำได้หรือ และหากเป็นรัฐบาล ตนจะขออาสาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งใน 3 จังหวัดภาคใต้

** ระวังชทพ.แซงตั้งรบ.หากทะเลาะไม่เลิก
ส่วนปัญหาขอความขัดแย้งในบ้านเมืองเราวันนี้ ถ้าไม่รีบแก้ไขหลังเลือกตั้ง 3 ก.ค.ใครเป็นฝ่ายตั้งรัฐบาลไม่มีทางอยู่ได้ สมมุติเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณออกมาต่อต้าน มีตัวแปรอยู่เยอะที่ไม่เอาเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ถ้าเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียงก็ตั้งรัฐบาลได้ แต่ถ้าไม่ถึงก็มีปัญหา หันไปทางประชาธิปัตย์วันนี้ก็กำลังโปรโมตแก้ปัญหา โยนปัญหาใส่กัน วันนี้ให้เขาทะเลาะกันไปก่อน ประชาธิปัตย์อยากตั้งรัฐบาล ในวงการบอกได้คะแนนน้อยกว่าเพื่อไทย รวบรวมแล้วไปจัดตั้งรัฐบาล สมมุติตั้งรัฐบาลได้ พวกเสื้อแดงที่ถือหางเพื่อไทยอยู่จะยอมไหม ก็ไม่ยอม และเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลแต่จัดตั้งรัฐบาลแล้วโยนให้ประชาธิปัตย์ไหมก็เป็นไปไม่ได้ ซึ่งหลังวันที่ 3 ก.ค.มีปัญหามากมาย ดังนั้นนโยบายปรองดองแห่งชาติจึงเป็นนโยบายที่สำคัญ
การปรองดองต้องพบกับผู้นำตัวจริงทุกฝ่าย และไปพบหมดแล้วและถามเห็นด้วยกับแนวทางปรองดองไหม แกนนำทั้งหมดบอกเห็นด้วย รวมถึงพรรคการเมือง เพราะตนเป็นคนกลางจริงๆ ไม่มีใครรังเกียจ ตนบอกว่า พี่น้องพรรคการเมืองทั้งหลายขอให้หยุดเข็นฆ่ากัน ลืมอดีตที่ถูกระทำ ความเครียดแค้นที่อยู่ในใจ ตนเคยได้รับความทุกข์ทรมานหลายเรื่องจากการปฏิวัติไม่สำเร็จถูกทหารอากาศซ้อม จนกรามหัก นึกไว้ว่า มีโอกาสจะกลับมาแก้แค้น แต่ตนก็ลืมมันไปก้าวผ่านตรงนี้ไป ถ้าคนไทยรู้จักขอโทษกัน ให้อภัยกัน ความสามัคคีปรองดองเกิดขึ้นได้ ได้พูดจากันทุกฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพบที่นอร์เวย์กอดกันรักกันแบบพี่แบบน้อง ท่านกลับบ้านเราเถอะ อยู่เมืองนอกมันเหงา ไม่มีความสุข กลับมาเลิกเล่นการเมืองเสีย เพราะท่านมีสมองช่วยบ้านเมือง ก็เห็นด้วยแต่ไม่ยอมกลับ คอยหลังวันที่ 3 ก.ค.จะกลับมา แต่เป็นปัญหาอีกเพื่อไทยประกาศนิรโทษเลยมีแรงต่อต้าน

**หลัง 3 ก.ค.มีปัญหาแน่ ชี้ปรองดองตัวจริง
ตนมีแนวคิดว่า หลัง 3 ก.ค.เชิญพรรคการเมืองต่างๆ คุยกัน ใครอยากนิรโทษก็เป็นศัตรูกัน ขิงก็ราข่าก็แรง มันไม่จบ อยากเห็นไทยมั่นคงเหมือนก่อน พี่น้องต้องร่วมมือกัน พรรคชาติไทยพัฒนาขอถือธงนำหน้าเพื่อความปรองดองในชาติ ใน 3 จังหวัดภาคใต้ตนเป็นห่วงอย่างมาก วันนี้ 3 จังหวัดภาคใต้ขัดแย้งอย่างมากยิ่งกว่าความขัดแย้งพรรคการเมือง ถ้าพรรคชาติไทยพัฒนาได้เป็นรัฐบาล คราวนี้ไม่แน่อย่าเผลออาจเป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลก็ได้ นโยบายพรรคที่จะแก้ปัญหาภาคใต้จะเอาความปรองดองมาแก้ไข ไม่ว่าไทยพุทธ ไทยมุสลิม ไทยเชื้อสายจีน ต้องอยู่ร่วมกันได้ วันนี้ยังไม่เห็นการเจรจา ยังไม่เห็นเชิญผู้นำตัวจริงมาเจรจา ใช้หลักเชิญผู้นำตัวจริงมาตั้งโต๊ะเจรจา รัฐบาลให้ได้แค่ไหนอย่างไร และเราต้องได้ข้อยุติ หากได้คุยกัน และใช้เวลาปรับนโยบายแต่ละฝ่ายเข้ามา หากรัฐบาลมอบตนมาดูแล 3 จังหวัดใต้ ตนจะอาสาแก้ไขและทำได้ ถ้าคนเราได้พูดจากันก็สำเร็จ ถ้าเสธ.หนั่นไม่มาทำเหยียบเลย 4 ท่าน
นายชุมพล กล่าววว่า ประกันได้เลยว่าทุกคนที่พรรคส่งมาทำงานให้กับทกุคน ตนไม่ได้ทวงบุญคุณพรรค แต่ขอ 4 คนนี้กลับมา 2 พรรคใหญ่คะแนนเยอะแล้วให้ไปก็ปะเนื้อช้าง แต่ปะให้ชาติไทยพัฒนามีผลมากกว่า ปรองดอง สร้างเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ และใต้ต้องสงบ ทุกคนที่สุพรรณบุรีรู้ ทั้งนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาพูดจริง ทำจริง เห็นได้จากที่สุพรรณบุรีที่นายบรรหารได้ทำไว้มากมาย ไม่พลาดหวัง เราพร้อมที่จะรับใช้พี่น้องชาวนราธิวาส
จากนั้นในช่วงท้ายการปราศรัยนายบรรหาร กล่าวว่า ตนถูกพาดพิง บังเอิญตนถูกเว้นวรรค 5 ปีให้เป็นใบ้ ลงคะแนนเสียงก็ไม่ได้ ปวดใจ บอกว่าจะยกสุพรรณบุรีมา ถ้ายกมาจริงก็ต้องปลูกบ้าให้ตนอยู่ และขอคนดูแลบ้านที่นี้ด้วย แต่ไม่เอาอายุ 60-70 ปี แต่เอาอยุ 18 ปี

**สุวัจน์ชาร์ตโทรรอทางไกลเทียบเชิญ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวที่จ.นครราชสีมาว่า ตนอยากเห็นการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย อยากเห็นทุกคน ทุกพรรคการเมือง ทุกนักการเมืองได้ช่วยกันเสียสละเพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อย สำหรับการเมืองเที่ยวนี้มันชัดเจนในเรื่องขั้วทางการเมืองที่ได้ถูกกำหนดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การเมืองวันนี้ เพราะที่ผ่านมายังไม่ชัดเจน ฉะนั้นการแข่งขันเลยต้องสูงมาก เพราะประกาศชัดเจนเป็นขั้วเหมือนมวยขึ้นไปมีมุมแดง กับมุมน้ำเงิน ตนคิดว่าก็เป็นเรื่องที่จะต้องแข่งขันกันมาก แต่ตนอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการตัดสินเหมือนกีฬา เมื่อจบแล้วก็ช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองกัน
เมื่อถามว่าดูเหมือนมุมแดงจะชิวๆมาแรงที่สุดในช่วงใกล้เลือกตั้งมองอย่างไร นายสุวัจน์ตอบว่า ตนก็ไม่ทราบว่ามุมไหน เพราะการเมืองวันนี้มีสองขั้ว แต่ขั้วไหนก็ไม่เป็นไร แต่ว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วเราก็ต้องทำงานร่วมกันสำหรับพรรคการเมืองทุกพรรค แพ้ ชนะก็เรื่องหนึ่ง ใครจะเป็นฝ่ายค้าน เป็นรัฐบาลก็เรื่องหนึ่ง แต่ว่าเอาเรื่องบ้านเมืองกันก่อน
ส่วนการพูดคุยกับแกนนำของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินในการทำงานพร้อมทำงานกับทั้งสองขั้วอะไรนั้น วันนี้ตนว่าพรรคเล็กๆไม่ได้เป็นคนเลือก แต่เป็นผู้ถูกเลือก แต่ตนก็อยากให้พรรคเล็กได้คำนึงถึงความรู้สึกและความต้องการของประชาชนและ สังคมว่าวันนี้เหนือสิ่งอื่นใดเราต้องการให้บ้านเมืองยุติความแตกแยกและ เดินไปข้างหน้าได้ ฉะนั้นก็อยากให้ทุกพรรคได้ตระหนักสิ่งนี้ พี่น้องประชาชนต้องจำเอาไว้เลยว่า ใครพูดอะไรไว้ต้องตามกันทวงถ้าไม่ทำ
ฉะนั้นอยากให้พรรคการเมืองได้มีคำมั่นสัญญาในสิ่งนี้แล้วทำสิ่งนั้นกันจริงๆ ส่วนพรรคเล็กเสนอนโยบายขายฝันเสนอได้ แต่ว่าในการที่จะให้นโยบาบนั้นสำเร็จโดยปกติแล้วพรรคใหญ่พรรคแกนนำเป็นผู้กำหนด แต่ว่าพรรคเล็กเองก็ต้องผลักดันว่า สิ่งที่ตนเองได้พูดกับประชาชนไว้สิ่งที่ตนเองอยากจะทำ ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีก็ต้องผลักดันในสิ่งนั้น เพื่อให้พรรคใหญ่เข้าใจและมีความเห็นตรงกัน
เมื่อถามถึง ตอนนี้ได้ชาร์ทแบตเตอรี่โทรศัพท์เต็มเตรียมพร้อมแล้วหรือเปล่า นายสุวัจน์ ยิ้มแล้วหัวเราะก่อนตอบว่า ก็รอให้ถึงวันนั้นก่อน ก็อยากให้พี่น้องประชาชนได้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากๆ เพราะยิ่งมาใช้สิทธ์เลือกตั้งมากเท่าไหร่ประชาธิปไตยมันก็จะเบ่งบานและยิ่ง ใช้มากเท่าไหร่ความชอบธรรมของคะแนนเสียงก็จะมีมากขึ้นและจะทำให้ผลของการเลือกตั้งนำไปสู่ความเรียบร้อยของประเทศชาติ
ต่อข้อถามถึงตกลงได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือยังในการทาบทามเชิญเป็นรัฐบาล นายสุวัจน์ ตอบว่า ตนยังไม่ได้คุย อันนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองเขาจะพูดคุยกันในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ส่วนการตั้งรัฐบาลต้องเป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล ตนว่าตอนนี้ทุกฝ่ายก็รู้สึกว่ามันเป็นพื้นฐานที่ทุกฝ่ายยอมรับอยู่แล้วว่า ด้วยประเพณีทางการเมืองและด้วยความรู้สึกต่างๆของพรรคการเมืองหรือสปิริตต่างๆและโดยประเพณีที่ปฏิบัติที่ผ่านมามันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วก็ไม่น่า จะมีปัญหาอะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น