“ชุมพล” ไม่เชื่อ ผบ.ทบ.ออกทีวีส่งสัญญาณปฏิวัติ ขวางเพื่อไทยตั้งรัฐบาล มั่นใจไม่มีผลต่อคะแนนนิยมใดๆ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ประชาชน ติง “ประยุทธ์” ควรพูดจาให้นุ่มนวลลดคำพูดแบบขวานผ่าซาก ส่วนการตั้งโต๊ะเจรจาปรองดองกับ ผบ.เหล่าทัพนั้น ยังใกล้เกินไปที่จะพูดถึง สำหรับตำนานงูเห่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ต้องดูผลเลือกตั้ง ถ้าคะแนนทิ้งห่างโอกาสเกิดยาก
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ออกมาระบุว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ออกมาพูดในขณะนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณจะมีการปฏิวัติ ว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีการปฏิวัติ เพราะ ผบ.ทบ.ชัดเจนแล้ว สิ้งที่ท่านพูดไม่ต้องไปกังวลว่าจะมีสัญญาณอะไรเกิดขึ้น ท่านพูดตรงไปตรงมาและนานๆ พูดที ท่านเป็นทหารตั้งแต่มาเป็นผบ.ทบ.ทุกคนก็ทราบดีว่าเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก จึงทำให้หลายคนตกอกตกใจ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องปฏิวัติ และการพูดถึงความจงรักภักดีก็ถือเป็นหน้าที่ของทหารอยู่แล้ว อย่าไปตีความคำพูดของท่านให้ไกลเกินไป เชื่อว่าการปฏิวัติไม่มีแน่นอน
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า หลังการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ดูเหมือนว่า กองทัพกับการเมืองไม่สามารถแยกออกจากกันได้ นายชุมพล กล่าวว่า การเมืองกับกองทัพแยกกันนานแล้ว เพียงแค่มาพูดในช่วงเลือกตั้งเท่านั้นเอง เมื่อมีการปฏิวัติในช่วงนั้น ก็ถือว่าเป็นธรรมดาที่กองทัพมาดูแลบ้านเมืองช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทหารกับการเมืองต้องแยกจากกันแล้ว ไม่ใช่มาพัวพันขนาดหนัก การพูดจาของทหารถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะทหารก็คือประชาชนคนหนึ่ง ใครแสดงความเห็นออกมาก็ต้องรับฟังกันทั้งนั้นดีกว่าเก็บไว้ข้างในแล้วไม่แสดงออกมาอย่างนี้น่ากลัว น้ำนิ่งน่ากลัว
ส่วนการที่ ผบ.ทบ.ออกมาพูดเป็นการขวางเพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายชุมพล กล่าวว่า ตนไม่ทราบเจตนารมณ์ของ ผบ.ทบ.แต่เท่าที่ฟังการแถลงไม่น่าไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะคะแนนที่ได้ประชาชนเป็นคนเลือกมา และพรรคเพื่อไทยก็มีคะแนนเสียงที่มากพอไม่น่าไปกังวลอะไร การไปตีความว่าจะมีอะไรขึ้นมาในอนาคตก็เป็นประเด็นที่มีการตีความกันไป และเมื่อมีเสียงสะท้อนมา ผบ.ทบ.ก็ต้องรับฟังด้วย คงอยากเห็น ผบ.ทบ.พูดให้นิ่มนวลกว่านี้หน่อย ไม่มีอะไรมากกว่านี้
เมื่อถามว่าการพูดของ ผบ.ทบ.จะเป็นเหตุผลทำให้ประชาชนตัดสินใจได้หรือไม่ว่าจะเลือกใคร นายชุมพล กล่าวว่า ไม่น่ามีผล และการที่ผบ.ทบ.ประกาศงดให้สัมภาษณ์จนกว่าจะเสร็จสิ้นการเลือกตั้งนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า ท่านรับฟังแล้ว เมื่อถามย้ำว่า การงดให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ.ถือว่าเป็นน้ำนิ่งหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่หรอก “คงแสดงให้เห็นว่า ผบ.ทบ.ฟังเสียงสะท้อนจากที่ตัวเองพูดออกมา ส่วนโทนเสียงก็ควรลดลงมานิดหนึ่ง ให้อ่อนนุ่มและนิ่มนวลหน่อย แต่อย่างว่าเรื่องบุคคลิกคงเปลี่ยนยาก คำพูดของ ผบ.ทบ.คงเปลี่ยนฐานเสียงทางการเมืองยาก” นายชุมพล กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยชนะคิดว่าทหารจะยอมรับได้หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ประชาธิปไตยผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ เพราะเป็นเสียงของประชาชนทุกฝ่ายต้องยอมรับ และฝ่ายทหารเองก็พูดออกมาแล้วว่ายอมรับผลการเลือกตั้ง
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะได้จัดตั้งรัฐบาลจะเชิญผบ.เหล่าทัพมาหารือถึงแนวทางปรองดอง นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไกลเกินไปที่จะพูดเรื่องอย่างนั้น เพราะเรื่องอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และไม่น่าจะพูดถึง จะทำให้มีปัญหาเปล่าๆ เมื่อถามว่าแนวทางดังกล่าวก็ตรงกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ที่จะตั้งโต๊ะเจรจาทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความปรองดอง นายชุมพล กล่าวว่า ถึงขนาดนั้นเลยหรือ ต้องดูว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะได้คะแนนเท่าไหร่ ไว้หลังเลือกตั้งก่อน อาจจะได้มาแค่ 5-10 เสียงไปแสดงบทบาทที่ใหญ่โต พรรคเราต้องเจียมเนื้อเจียมตัวหน่อย
ผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคชาติไทยพัฒนา กับ พรรคภูมิใจไทย เป็นอย่างไร เพราะมีกระแสว่าอาจจะเกิดกลุ่มงูเห่าของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายชุมพล กล่าวว่า การจับมือของสองพรรคเป็นอย่างไรก็เป็นไปอย่างนั้น ถือเป็นสัญญาประชาคมจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน มีอะไรก็หารือร่วมกันก็มีเท่านั้นที่ตกลงกันไว้ และทำต่อหน้าประชาชนแล้วก็คงไม่เปลี่ยน และคิดว่าเรื่องของงูเห่าคงไม่เกิดขึ้นแล้ว งูเห่าจะเกิดขึ้นก็ต้องภาวะวิกฤตจริง ทั้งหมดต้องดูวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.อย่างเดียว เพราะถ้าคะแนนเสียงชนะขาดลอยเสียงของงูเห่าก็ไม่มีประโยชน์รอผลการเลือกตั้งก่อน ครั้งก่อนที่มีงูเห่าเพราะคะแนนเสียงชนะกันนิดเดียว คะแนนเสียงที่จะชนะขาดลอยต้องเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลจะมีเสถียรภาพได้ต้อง 300 เสียงขึ้นและต้องเป็นรัฐบาลผสม และต้องดึงแนวร่วมที่สามารถทำงานร่วมกันได้
นายชุมพล ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวรอยเตอร์เสนอรายงานวิกิลีกส์ ที่ระบุว่า นายอีริค จี. จอห์น อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ทำรายงานถึงรัฐบาล ระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีโอกาสเป็นรัฐบาลนั้น นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เท่าที่ทราบ นายอีริค เคยทำรายงานไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีโอกาสเป็นนายกฯ ส่วนที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทย มีกระแสดี ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว และสำนักข่าวต่างประเทศก็ประเมินจากโพลที่ออกมา
ต่อข้อถามว่า จะมีส่วนให้พรรคขนาดกลางตัดสินใจอนาคตทางการเมืองว่าจะเลือกทางไหน นายชุมพล กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ไม่มีผลต่อการเลือกตัดสินใจของพรรค
นายชุมพล กล่าวว่า ในวันที่ 29 มิ.ย.จะลงพื้นที่หาเสียงที่จังหวัดนราธิวาส และในวันอังคารที่ 21 มิ.ย.จะไปหาเสียงจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้อยากได้ 4 ที่นั่ง เพื่อทำให้คะแนนเสียงของพรรคดีขึ้น แต่อย่างน้อยขอรักษา 2 ที่นั่งเดิมไว้ให้ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้พรรคจะชูนโยบายปรองดอง และจะเห็นได้ว่า พรรคไม่ขายนโยบายประชานิยมมากนัก