ผบ.ทร.ไม่ยอมแพ้ เตรียมดันเรือดำน้ำเข้า ครม.อีกรอบ หลังกลาโหมยังไม่ได้เสนอเข้าที่ประชุม พร้อมเจรจาเยอรมนีขอขยายเวลาซื้อ บ่นสตางค์แดงก็ไม่เคยได้ หวังทำเพื่อกองทัพเรือ บอก ผบ.เหล่าทัพก็หนุน แถมเคยคุย “มาร์ค” แล้วว่าให้เชื่อทหารอย่าไปฟังใคร สุดท้ายก็แห้ว ยัน “ประวิตร” ไม่ได้หนุนของเกาหลี หรือจีน หากหมดหวังรัฐบาลชุดนี้รอลุ้นสมัยหน้า ปลื้มประชาชนพร้อมลงขันซื้อให้
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำเยอรมันมือ 2 จำนวน 6 ลำที่ยังไม่ถูกนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก็ผิดหวัง แต่ไม่น้อยใจ เพราะเป็นทหารน้อยใจไม่ได้ คงต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง ที่ทำไมถึงไม่ให้ ที่ผ่านมากองทัพเรือได้แจ้งความจริงทุกอย่างให้ผู้บังคับบัญชา ประชาชนได้ทราบ ขอให้เข้าใจกองทัพเรือว่ากองทัพเรือรู้เรื่องนี้ดีที่สุด ถ้าหากท่านไม่เชื่อ ก็ไม่รู้ว่าจะให้ใครมาบอก แต่เราก็จะพยายามต่อไปไม่เป็นไร
พล.ร.อ.กำธรกล่าวว่า โครงการจัดหาเรือดำน้ำวงเงินประมาณ 7.5 ล้านบาท ที่ทางประเทศเยอรมันเสนอมา จะสายไปหรือเปล่าตนก็ไม่ทราบ แต่จะพยายามขอร้องกับทางประเทศเยอรมันว่าขอต่อเวลาได้หรือไม่ ถ้าต่อเวลาได้ ตนก็จะรอการอนุมัติและขอความกรุณาจาก ครม.ใหม่อีกครั้งว่าเห็นใจกองทัพเรือและลูกหลานของท่านที่ส่งไปรบเพื่อประเทศชาติ เพราะนั้นหมายถึงชีวิตของเขาซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตน แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องรอรัฐบาลหน้า ทั้งนี้ ขอบอกประชาชนว่าไม่ใช่ของแปลกใหม่ กองทัพเรือของเรามีอัตราเรือดำน้ำมานานแล้ว อยู่ในโครงสร้าง เพียงแต่เราไม่มีเงินไปซื้อ 60 ปีทำมาสองครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
ผบ.ตร.กล่าวว่า การจะติดอาวุธให้กองทัพเรือให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีขีดความสามารถที่จะรบชนะ หรือป้องกันตัวเองได้ คิดว่าไม่ได้ทำผิดอะไรกับประเทศชาติ มีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติที่ต้องการให้มีความเข้มแข็ง ไม่ได้ทำผิดคิดร้ายกับใคร มีหลายประเด็นที่โจมตีกองทัพเรือโดยไม่เข้าใจ ที่บอกว่าอ่าวไทยตื้น ขอให้เลิกคิดได้แล้ว ที่ผ่านมาเคยเสนอซื้อเรือดำน้ำ 4.8 หมื่นล้านบาท แต่ให้เรากลับไปปรับมาใหม่เพราะมากเกินไป กองทัพเรือจึงได้ปรับโครงการลงมาเหลือ 7.5 พันล้านบาท กองเรือทำได้ครบทุกอย่าง ทำเพื่อส่วนร่วมจริงๆ สตางค์แดงเดียวก็ไม่เคยได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาพูดเรื่องผลประโยชน์ ถ้ามีหนทางตนจะต้องขอร้องขอความกรุณาจากประชาชน จากผู้มีอำนาจให้เห็นใจกองทัพเรือ เห็นใจกำลังพลกองทัพเรือและลูกหลานของท่านที่ส่งไปรบ โดยอาวุธของเขาต่อกรกับชาวบ้านไม่ได้
พล.ร.อ.กำธรกล่าวว่า เมื่อเราเสนองบประมาณไปสูง และให้เราตัดแล้ว เราก็ปรับลดหลั่นลงมา มันก็เหมือนกับกองทัพบก หากเปรียบเทียบ ถ้าไม่มีรถถัง แล้วเราจะไปรบชนะกับคนที่มีรถถังได้อย่างไร อันนี้ก็เหมือนกัน กองทัพเรือไม่มีเรือดำน้ำซึ่งเป็นเครื่องมืออันหนึ่งที่จะมี ไม่ต้องถามว่าจำเป็นจะต้องมีหรือไม่ มันต้องมี แต่จะมีเมื่อไหร่ มีงบประมาณให้เราหรือเปล่าเท่านั้น ขอให้เข้าใจตามนี้
“เราพูดด้วยใจ ขอให้เชื่อใจกองทัพเรือ เพราะเราตรงไปตรงมา และทำเพื่อประเทศชาติ รักษาชีวิตของท่านที่เป็นทหารเรือ ที่จะออกไปรบ ให้เขาได้มีโอกาสต่อกรบ้าง ให้มีโอกาสชนะบ้าง หรืออย่างน้อยก็ให้เอาตลอด ไม่ใช่ออกไปแล้วถูกสอยทีละลำจากเรือที่เรามองไม่เห็น แต่อย่างน้อยผมก็ดีใจที่เราพูดไปเด็กๆ สมัยนี้ไปศึกษาจนเข้าใจ ให้รู้ถึงความจำเป็น บางคนก็แสดงความเสียใจต่อกองทัพเรือ บางคนก็อยากจะสละเงินให้ ก็รู้สึกอุ่นใจที่มีคนเข้าใจ แต่ผมก็อยากให้มีคนเข้าใจมากกว่านี้”
พล.ร.อ.กำธรกล่าวว่า ไม่ได้สอบถามเหตุผลที่กระทรวงกลาโหมไม่ได้เสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะว่าในการบรรยายในที่ประชุมสภากลาโหม ตนก็พูดทุกอย่างชัดเจน เปิดโอกาสให้ทุกคนสอบถาม ตนยังรู้สึกขอบคุณ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด วันนั้นท่านไม่อยู่ แต่ท่านบอกว่าท่านผ่านเรื่องให้เพราะเห็นใจกองทัพไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.บอกว่าจะเอาใจช่วย กองทัพก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้การรบชนะ ตนก็ขอบคุณทุกเหล่าทัพ ทั้งนี้ตนเคยนำเรียนนายกรัฐมนตรี ว่าถ้าไม่เชื่อทหารเรือและผู้บัญชาการทั้ง 2 เหล่าทัพ รวมทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุดแล้ว เรื่องเรือดำน้ำท่านนายกฯ จะต้องถามใครอีก
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากระทรวงกลาโหม ต้องการจัดหาเรือดำน้ำจากประเทศเกาหลี พล.ร.อ.กำธรกล่าวว่า ตนไม่ทราบ และ รมว.กลาโหม ก็ไม่เคยพูดว่าจะเอาของเกาหลี เพียงแต่ไปดูงานเท่านั้น ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเขียน ท่านไม่เคยพูด แม้กระทั่งประเทศจีน ท่านก็ไปดูงานเฉยๆ ทั้งนี้ ท่านไม่เคยพูดว่าอยากได้ของเกาหลี หรือจีน เมื่อถามว่าได้วิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไมไม่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. พล.ร.อ.กำธรกล่าวว่า ตนไม่ขอวิเคราะห์ เพราะได้ชี้แจงไปถึงความจำเป็นทุกอย่างไปแล้ว
พล.ร.อ.กำธรกล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ช่วงเลือกตั้งว่า ก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายของ รมว.กลาโหม ที่บอกว่าทหารอย่าไปยุ่งเกี่ยว อย่าไปทำเป็นผู้อิทธิพล ไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ ดำเนินการโดยมิชอบอย่าไปทำ เราก็ได้ตักเตือน รักใครชอบใครเลือกได้ตามสบาย และเป็นสิทธิที่ประชาชนทุกคนต้องไปเลือกตั้งด้วย ส่วนการห้ามไม่ให้กำลังพลไปตามนักการเมืองนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่มิชอบอยู่แล้ว และไม่ควรปฏิบัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะรุนแรงเพราะมีการลอบยิง ส.ส.เพื่อไทยไปแล้ว พล.ร.อ.กำธรกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากไหน อย่าไปวิจารณ์ อย่างไรก็ตาม หาก กกต.มีการร้องขอมา ทางกองทัพเรือก็พร้อมช่วยเท่าที่จะทำได้