xs
xsm
sm
md
lg

อัดก.ล.ต.เลี่ยงบาลี "แก้วสรร"บุกขอคำชี้แจงอุ้มปูแดง เดินหน้าฟ้องปปช.-ดีเอสไอฟันซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน-“แก้วสรร” บุกถึงรังก.ล.ต. อัดใช้กฏหมายผิดพลาด ตอบไม่ตรงคำถาม ทั้งที่มีความผิดในการแจ้งขายและซื้อเป็นเท็จ แจ้งโครงสร้างผู้ถือหุ้นเป็นเท็จในหนังสือชี้ชวน โทษจำคุกหนักถึง 5 ปี ลั่นเดินหน้าร้องทุกข์ต่อปปช.-ดีเอสไอ-อัยการ-ก.ล.ต.ฟันซ้ำ 21 มิ.ย.นี้ “ธีระชัย”ยันแถลงไม่มีแอบแฝง ไม่เกี่ยวการเมือง “กรณ์”ยังกังขา เผยไม่ช่วยให้หลุดข้อกล่าวหาจากภาคประชาชนได้

วานนี้ (14 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และแกนนำเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ (คนท.) ได้เดินทางมาที่สำนักงานก.ล.ต.

นายแก้วสรรเปิดเผยหลังเข้าพบฝ่ายกฎหมาย ก.ล.ต.เพื่อขอคำชี้แจงกรณี ก.ล.ต. ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.เกี่ยวกับการซุกหุ้นบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 ของพรรคเพื่อไทย ว่า คำแถลงการณ์ของ ก.ล.ต. แตกต่างจากความเห็นของคนท. เนื่องจากต้องการให้ตรวจสอบการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นของของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในบริษัท ชินคอร์ปฯ แต่ก.ล.ต.กลับตรวจสอบการถือหุ้นของบมจ. เอสซี แอสเสท

ทั้งนี้ คำชี้แจงของก.ล.ต.ในส่วนการดำเนินคดีแจ้งธุรกรรมหุ้นชินคอร์ปเป็นเท็จ ที่แจ้งว่าได้กล่าวโทษไปแล้ว ตามมาตรการ 246 ว่าทักษิณ และพวกแจ้งโอนหุ้นเป็นเท็จ แต่ดีเอสไอกับอัยการไม่เห็นด้วยจึงสั่งฟ้องจนคดียุติไปแล้วนั้น คนท.เห็นว่าเป็นการใช้กฎหมายโดยผิดพลาด ซึ่งต้องทบทวนดำเนินคดีใหม่และตั้งรูปคดีใหม่ เนื่องจากทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของชินคอร์ปที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นเท็จตั้งแต่ปี 2543-2459 เพราะมีชื่อลูกและน้องเข้ามาบังชื่อตัวจริงคือทักษิณและภรรยาไว้ จนถึงการขายธุรกิจให้ทุนสิงค์โปร์

โดยการกระทำดังกล่าวถือว่ามีการแจ้งขายและซื้อเป็นเท็จ แจ้งโครงสร้างผู้ถือหุ้นเป็นเท็จในหนังสือชี้ชวนและรายงานประจำปีซึ่งสมคบ โดยแบ่งงานกันทำทั้งทักษิณ ภรรยา เลขาภรรยา ลูกชาย ลูกสาว น้องสาว รวมถึงกรรมการบริหารชินคอรป์ด้วย แต่ก.ล.ต.กลับแจ้งว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ผิด เพราะไม่ได้เป็นผู้แจ้งขายหุ้นหรือซื้อหุ้น นอกจากนี้ ฐานความผิดที่ก.ล.ต.ต้องใช้ไม่ใช่มาตรการ 246 ที่เอาผิดฐานโอนหุ้นเปลี่ยนมือกันมากกว่า 5% แล้วละเว้นไม่แจ้งก.ล.ต. แต่กรณีนี้เป็นการโอนหุ้นกันปลอมๆ แล้วแจ้งเท็จ ไม่ใช่โอนจริง จึงเข้าข่ายความผิดมาตรา 302 ตาม พรบ.ตลาดหลักทรัพย์ฯ และมาตรา 278 เพราะออกหนังสือชี้ชวนเป็นเท็จ ซึ่งมีโทษจำคุกหนักถึง 5 ปี

ดังนั้น ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปพบและร้องทุกข์กับ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อัยการ และก.ล.ต. เพื่อให้กล่าวโทษน.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวก ทั้งทักษิณ ภรรยา ลูกชายและลูกสาว กรณียอมให้ใช้ชื่อโอนหุ้น เพื่อปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นของชินคอร์ป โดยขอยืนยันว่าจะดำเนินการให้คนที่ให้ความเท็จต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือต่อกระบวนการยุติธรรมต้องรับผิดชอบในสิ่งนี้ ส่วนสาเหตุที่ตนต้องออกมาสอบถามความคืบหน้า เนื่องจากเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส. รวมถึงหากพรรคเพื่อไทยไม่ประกาศกฎหมายนิรโทษกรรมและนำทักษิณกลับมา ตนคงไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้

**แปะป้ายผ้าประจาน-แจงข้อเท็จจริง

ด้านนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเครือข่ายกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า การตรวจสอบของ ก.ล.ต.เป็นการทำหน้าที่เพียงผิวเผิน ทำให้สาธารณะชนไม่ได้รับทราบความจริง ตนมองว่าความผิดของน.ส. ยิ่งลักษณ์ นอกจากจะไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว การให้การเท็จ ยังมีความผิดอาญามีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-7 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าวกลุ่ม คนท. ได้นำป้ายผ้ามาปิดบริเวณภายในอาคาร ก.ล.ต. แบ่งเป็น 3 หัวข้อ โดยระบุว่า ทักษิณและพี่น้องต้องคดีซุกหุ้นสองคดี คือคดีซุกหุ้นชินคอร์ปและซุกหุ้นเอสซีแอสเสท ศาลตัดสินเฉพาะคดีซุกหุ้นชินคอร์ป อย่าเอาคดีซุกหุ้นเอสซี แอสเสทมายุ่งเกี่ยว, ความผิดตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ฯ ของคดีซุกหุ้นชินคอร์ปคือสมคบกันหลอกตลาดหลักทรัพย์ฯ คือการซื้อขายหุ้นอันเป็นเท็จไม่ใช่การซื้อขายหุ้นโดยไม่รายงาน มาตรการ 246 และความผิดแท้จริงที่ คนท.ต้องการจะกล่าวโทษคือสมคบกันให้ถ้อยคำเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ (มาตรการ 302) และสมคบกันออกหนังสือชี้ชวนแจ้งโครงสร้างผู้ถือหุ้นอันเป็นเท็จ (มาตรา 278) ขณะที่ผู้บริหารก.ล.ต.ซึ่งเป็นเจ้าภาพสถานที่ก็ไม่ได้มีการออกมาชี้แจงหรือให้ข้อมุลเพิ่มเติม แต่หลังจากนายแก้วสรร แถลงข่าวเสร็จสิ้น ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ก.ล.ต.ได้เชิญนายแก้วสรร และนพ.ตุลย์ ไปพบปะกับผู้บริหารก.ล.ต. แต่นายแก้วสรร ปฎิเสธและเดินทางกลับ

**ธีระชัยอ้างทำถูกต้องไม่มีแอบแฝง

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการกลต. กล่าวว่า รับทราบเรื่องที่นายแก้วสรรมาร้องเรียนแล้ว ขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียด ซึ่งการออกแถลงการณ์ดังกล่าวเนื่องจากก.ล.ต. ถูกพาดพิง จึงต้องทำความเข้าใจหรือชี้แจง ยืนยันว่าไม่มีอะไรแอบแฝง อีกทั้งวันที่ออกแถลงได้ส่งหนังสือชี้แจงการทำงานของก.ล.ต. อย่างละเอียดถึงรมว.คลังแล้ว ส่วนตัวตระหนักดี และก็ระวังมากที่จะไม่ให้เข้าไปมีส่วนหรือมีผลทางการเมือง แต่ถ้าไม่มีการชี้แจงจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของก.ล.ต

** “มาร์ค”อัดก.ล.ต.ต้องรับผิดชอบ

วันเดียวกันนี้ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังก.ล.ต. ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีความผิดในกรณีซุกหุ้น ว่า ทาง ก.ล.ต. ต้องรับผิดชอบในคำวินิจฉัยนั้น เพราะถ้าหากว่ามันผิด ทาง ก.ล.ต.ก็จะผิดไปฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องอยู่ที่ข้อกฎหมาย ตนเองไม่ทราบเทคนิคข้อกฎหมายต่างๆ

***แนะ “แก้วสรร”ร้องป.ป.ช.สอบก.ล.ต.ละเว้น

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก.ล.ต. ยังชี้แจงไม่ชัดเจนในประเด็นที่คนท.สอบถามไป เพราะที่ถามไปเป็นการถามถึงเรื่องที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้การเท็จในคดีซุกหุ้นและยึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นโครงสร้างการถือหุ้นในบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น ไม่ใช่บมจ.เอสซี แอสเซส คอร์ปอเรชั่น

“ขณะนี้ก.ล.ต.กำลังพยายามทำให้คนสับสนในประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตไปว่า กรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปใหเการในศาลว่าเป็นเจ้าของหุ้นในบมจ.ชินคอร์ป แต่ศาลฎีกาก็ตัดสินแล้วว่ารับฟังไม่ได้และมีคำพิพากษาไปแล้วในการยึดทรัพย์ แสดงว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ให้การเท็จต่อศาลหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นในเรื่องการรายงานการถือหุ้นที่ว่า หากไม่ถึง 5% และไม่ได้กระทำการผิดพรบ.หลักทรัพย์แต่อย่างใด มันคนละเรื่อง”

นายกรณ์กล่าวต่อว่า ก.ล.ต.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับตรวจสอบมีหน้าที่ในการตรวจสอบการกระทำผิดที่เข้าข่ายพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว เพราะในกรณีดังกล่าวเมื่อศาลฎีกาตัดสินว่า ฟังไม่ขึ้น แสดงว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ให้การเท็จทำไมก.ล.ต.จึงไม่ดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งที่หลังจากศาลมีคำสั่งไปแล้ว ตนเองก็เตยสอบถามไปยังก.ล.ต.เช่นกัน แต่ก็ไมได้รับการชี้แจงหรือตอบกลับมาแต่ย่างใด ซึ่งกรณีดังกล่าวก.ล.ต.จะเข้าข่ายการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐละเว้รนการปฏิบัติหน้าที่ตามม.157 ได้ หากมีหน่วยงานหรือบุคคลใดยื่นฟ้องต่อสำนักงานคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)

ส่วนการที่ เลขาธิการก.ล.ต.ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าให้การของนส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ผิดตามกฏหมายว่า ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่า การออกมาพูดของนายธีระชัยไม่มีบริบท และไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ภาคประชาชนกล่าวหากับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการให้การเท็จต่อศาลแต่อย่างไร และเป็นเรื่องที่มีข้อสรุปออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญก็ควรแถลงออกมาตั้งแต่ปีที่แล้วก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกแถลงการณ์ในช่วงนี้เพื่อต้องการแก้ปัญหาให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ในการก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่าตนไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร แต่คงไม่ใช่เพราะสิ่งที่แถลงการณ์ออกมาไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับข้อกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ แต่ก็อาจจะทำให้คนเข้าใจผิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มีความผิด

ต่อข้อถามว่ามีการมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจพลาดไปหรือไม่มีการโยกย้ายนายธีระชัยซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจออกไป นายกรณ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจทางกฏหมายที่จะไปโยกย้าย ซึ่งตนเคารพอำนาจและบทบาทหน้าที่ขององค์กรอิสระ และกลต.ก็เหมือนแบงก์ชาติ มีกฏหมายเฉพาะ และการที่จะเข้าไปแทรกแซงโยกย้ายเพียงเพราะบุคคลนั้นอาจจะมีความเชื่อ อุดมการณ์ที่แตกต่างกันคงไม่ได้ และไม่คิดจะทำเพียงแค่อุดมการณ์แตกต่าง ขอให้ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และปฏบัติตามภาระที่ได้รับมอบหมายตามกรอบกฏหมายที่ครอบคลุมองค์กร ของตนเท่านั้น และนายธีระชัยก็จะหมดวาระในสิ้นเดือนกันยายนนี้อยู่แล้ว และ รัฐบาลได้ปูพรมไว้แล้วโดยแต่งตั้งประธานกลต.เสร็จแล้วจะมีผลวันที่14 ก.ค. โดยเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอด
กำลังโหลดความคิดเห็น