ASTVผู้จัดการรายวัน - เลขาฯ “กษิต” ยันจับ 3 สายลับเขมรไม่ใช่เรื่องการเมือง ยันมีเจตนาชัด ลั่นไทยอดทนแก้ปัญหาแบบเพื่อนบ้านที่ดี ไม่เคยสร้างเรื่อง ระบุ กระบวนการยุติธรรมไทยไม่มียัดข้อหา สับกัมพูชากินปูนร้อนท้อง ด้าน “ฮุนเซ็น” ระบุไทย - เขมรเปรียบเหมือนลิ้นกับฟันแยกกันไม่ได้
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การจับกุมตัวสายลับ 3 คน ชาวกัมพูชา เวียดนาม ที่เข้ามาในประเทศไทยนั้น ขอยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง และจากการสืบสวนมีความคืบหน้าไปมาก ได้เห็นเจตนาของทั้ง 3 คน ที่ขับรถเข้ามาทางจังหวัดตราด จอดที่หมู่บ้านภูมิซรอล พบแผนที่ระวางต่างๆ ติดตัวเข้ามาในพื้นที่ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ไทยไม่เคยสร้างเรื่องกับกัมพูชาก่อน คนไทยมีความอดทนแก้ปัญหาด้วยพื้นฐานความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ก็ไม่เคยสร้างเรื่องเอง ตามที่กัมพูชากล่าวหา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กระบวนการสืบสวนสอบของไทยจะเป็นไปอย่างมีมาตรฐานไม่มีการยัดเยียดข้อหา ผิดก็ว่าไปตามผิด
นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่รู้ว่ากัมพูชาจะมีคำว่ากินปูนร้องท้องหรือไม่ ซึ่งหากไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรออกมาทำอะไร ปล่อยให้กระบวนการสืบสวนเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการรวมเอกสารหลักฐานดำเนินการเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้กระทบกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลโลก โดยสัปดาห์หน้าตนเองจะไปร่วมประชุมยูเนสโก ที่ปารีส ฝรั่งเศส และหากศาลโลกไม่เลื่อนการพิจารณาก็จะไปประชุมรับฟังการพิจารณาที่กรุงเฮกในช่วงปลายเดือนนี้
***เปรียบไทย-กัมพูชาเหมือนลิ้นกับฟัน
หนังสือพิมพ์กัมพูชาใหม่ รายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายเอียง โซะพลแลต ผู้ช่วยของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงข่าวว่า นายสมปอง สงวนบรรพ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกัมพูชาคนใหม่ ได้เข้าพบแสดงความคารวะ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยการเข้าพบดังกล่าว สมเด็จฮุน เซน ได้กล่าวกับเอกอัครราชทูตไทย ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างทราบดีถึงปัญหานั้น เปรียบเหมือนลิ้นกับฟัน ซึ่งเห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่อาจเอาลิ้นกับฟันแยกออกจากกันได้ เช่นเดียวกับที่ไม่อาจแยกไทยและกัมพูชา ออกจากกันได้ ดังนั้น อะไรที่ควรทำ ควรพยายามแสวงหาหนทางสลายความขัดแย้งทุกช่องทาง เพื่อเป็นผลประโยชน์สำหรับประชาชน
พร้อมกันนี้ ผู้นำกัมพูชายังกล่าวอีกว่า กัมพูชาและไทย ควรร่วมมือกันในกรอบของอาเซียน เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในการสร้างประชาคมอาเซียน ใน พ.ศ. 2557
ขณะที่ นายสมปองกล่าวกับ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า การเดินทางมาทำหน้าที่ทูตของตนในกัมพูชา ในเวลานี้ จะประสานความร่วมมือกับรัฐบาล เจ้าหน้าที่ราชการ และประชาชนกัมพูชา เพื่อขยายความร่วมมือระหว่างประเทศทั้ง 2 ในทุกด้าน พร้อมได้ขอการสนับสนันจาก สมเด็จฮุน เซน เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจทูตของตนประสบผลสำเร็จ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา เอกอัคราชทูตไทย ได้เข้าพบ นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ได้มีการพูดคุยในปัญหาความขัดแย้งพรมแดน ซึ่ง นายฮอร์ นัมฮง ระบุว่า การนำเรื่องไปศาลโลกของกัมพูชา เป็นการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี พร้อมกับทวงถามชุดทางออก ที่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อ 9 พฤษภาคม และได้เน้นย้ำว่า ถ้าไทยไม่รับชุดทางออก ก็จะไม่มีการประชุม GBC และ JBC
***ถกแผนบริหารจัดการพื้นที่"พระวิหาร"
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะทำงานการเจรจามรดกโลกไทย เรียกประชุมคณะทำงานประกอบด้วย ตัวแทนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวแทนกองทัพ ตัวแทนกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกัน การประชุมได้หารือถึงร่างมติล่วงหน้าของที่ประชุมมรดกโลก เรื่องแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ที่นางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก เสนอให้ฝ่ายไทยพิจารณาร่างมติให้ไทยเข้าร่วมในแผนบูรณะตัวปราสาทพระวิหาร เพื่อแลกกับการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทออกไป
นายสุวิทย์ กล่าวว่า มีแนวโน้มที่ฝ่ายกัมพูชาจะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของยูเนสโก และจะเสนอให้ที่ประชุมมีมติรับรองแผนบริหารจัดการของกัมพูชา ส่วนข้อเสนอเรื่องแผนบูรณะตัวปราสาทของทางยูเนสโก ยอมรับว่า คณะทำงานยังมีความเห็นแตกต่างกัน และเห็นว่าก่อนบูรณะตัวปราสาท ควรจะถอนทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่รอบตัวปราสาท ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหาย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การจับกุมตัวสายลับ 3 คน ชาวกัมพูชา เวียดนาม ที่เข้ามาในประเทศไทยนั้น ขอยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง และจากการสืบสวนมีความคืบหน้าไปมาก ได้เห็นเจตนาของทั้ง 3 คน ที่ขับรถเข้ามาทางจังหวัดตราด จอดที่หมู่บ้านภูมิซรอล พบแผนที่ระวางต่างๆ ติดตัวเข้ามาในพื้นที่ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ไทยไม่เคยสร้างเรื่องกับกัมพูชาก่อน คนไทยมีความอดทนแก้ปัญหาด้วยพื้นฐานความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ก็ไม่เคยสร้างเรื่องเอง ตามที่กัมพูชากล่าวหา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กระบวนการสืบสวนสอบของไทยจะเป็นไปอย่างมีมาตรฐานไม่มีการยัดเยียดข้อหา ผิดก็ว่าไปตามผิด
นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่รู้ว่ากัมพูชาจะมีคำว่ากินปูนร้องท้องหรือไม่ ซึ่งหากไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรออกมาทำอะไร ปล่อยให้กระบวนการสืบสวนเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการรวมเอกสารหลักฐานดำเนินการเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้กระทบกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลโลก โดยสัปดาห์หน้าตนเองจะไปร่วมประชุมยูเนสโก ที่ปารีส ฝรั่งเศส และหากศาลโลกไม่เลื่อนการพิจารณาก็จะไปประชุมรับฟังการพิจารณาที่กรุงเฮกในช่วงปลายเดือนนี้
***เปรียบไทย-กัมพูชาเหมือนลิ้นกับฟัน
หนังสือพิมพ์กัมพูชาใหม่ รายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายเอียง โซะพลแลต ผู้ช่วยของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงข่าวว่า นายสมปอง สงวนบรรพ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกัมพูชาคนใหม่ ได้เข้าพบแสดงความคารวะ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยการเข้าพบดังกล่าว สมเด็จฮุน เซน ได้กล่าวกับเอกอัครราชทูตไทย ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างทราบดีถึงปัญหานั้น เปรียบเหมือนลิ้นกับฟัน ซึ่งเห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่อาจเอาลิ้นกับฟันแยกออกจากกันได้ เช่นเดียวกับที่ไม่อาจแยกไทยและกัมพูชา ออกจากกันได้ ดังนั้น อะไรที่ควรทำ ควรพยายามแสวงหาหนทางสลายความขัดแย้งทุกช่องทาง เพื่อเป็นผลประโยชน์สำหรับประชาชน
พร้อมกันนี้ ผู้นำกัมพูชายังกล่าวอีกว่า กัมพูชาและไทย ควรร่วมมือกันในกรอบของอาเซียน เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในการสร้างประชาคมอาเซียน ใน พ.ศ. 2557
ขณะที่ นายสมปองกล่าวกับ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า การเดินทางมาทำหน้าที่ทูตของตนในกัมพูชา ในเวลานี้ จะประสานความร่วมมือกับรัฐบาล เจ้าหน้าที่ราชการ และประชาชนกัมพูชา เพื่อขยายความร่วมมือระหว่างประเทศทั้ง 2 ในทุกด้าน พร้อมได้ขอการสนับสนันจาก สมเด็จฮุน เซน เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจทูตของตนประสบผลสำเร็จ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา เอกอัคราชทูตไทย ได้เข้าพบ นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ได้มีการพูดคุยในปัญหาความขัดแย้งพรมแดน ซึ่ง นายฮอร์ นัมฮง ระบุว่า การนำเรื่องไปศาลโลกของกัมพูชา เป็นการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี พร้อมกับทวงถามชุดทางออก ที่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อ 9 พฤษภาคม และได้เน้นย้ำว่า ถ้าไทยไม่รับชุดทางออก ก็จะไม่มีการประชุม GBC และ JBC
***ถกแผนบริหารจัดการพื้นที่"พระวิหาร"
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะทำงานการเจรจามรดกโลกไทย เรียกประชุมคณะทำงานประกอบด้วย ตัวแทนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวแทนกองทัพ ตัวแทนกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกัน การประชุมได้หารือถึงร่างมติล่วงหน้าของที่ประชุมมรดกโลก เรื่องแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ที่นางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก เสนอให้ฝ่ายไทยพิจารณาร่างมติให้ไทยเข้าร่วมในแผนบูรณะตัวปราสาทพระวิหาร เพื่อแลกกับการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทออกไป
นายสุวิทย์ กล่าวว่า มีแนวโน้มที่ฝ่ายกัมพูชาจะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของยูเนสโก และจะเสนอให้ที่ประชุมมีมติรับรองแผนบริหารจัดการของกัมพูชา ส่วนข้อเสนอเรื่องแผนบูรณะตัวปราสาทของทางยูเนสโก ยอมรับว่า คณะทำงานยังมีความเห็นแตกต่างกัน และเห็นว่าก่อนบูรณะตัวปราสาท ควรจะถอนทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่รอบตัวปราสาท ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหาย