นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงภาพรวมการลงพื้นที่หาเสียงว่า ช่วงแรก ชื่อพรรคไม่ค่อยปรากฏในสื่อเท่าใด แต่ระยะหลังนี้เริ่มดีขึ้น แต่ไม่มากเท่าที่ควร ถ้าเทียบกับพรรคใหญ่สองพรรค ก็ถือว่าไม่มากนักอย่างไรก็ตาม เราจะพยายามเต็มที่ อย่างน้อยขอพรรคชาติไทย คืน 24 ที่นั่ง และบวกอีก 10 ที่ถูกยึดไป ขอกลับคืนมา 35 ที่นั่ง แต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่
เมื่อถามว่าได้เคลียร์ใจเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในการประชุมครม.หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่าไม่ต้องให้เกียรติตนขนาดนั้น ที่พูดไปในฐานะครูบาอาจารย์ ที่พูดไปตามความรู้สึกระหว่างนายกฯ กับตน หรือระหว่างพรรคไม่มีปัญหาอะไรกัน ที่พูดไปไม่ได้มีความสำคัญอะไร เป็นเพียงสื่อเสนอข่าวไม่ตรงกับความจริง ตนเป็นเพียงผู้รับข่าวสาร และที่ตนพูดไม่ได้เป็นการพูดด้วยความรู้สึกที่น้อยใจ เพราะการเมืองน้อยใจไม่ได้ และคำพูดของนายกฯ ก็คือว่าเป็นเรื่องปกติในช่วงหาเสียง
เมื่อถามว่า แสดงว่าถ้าจับมือกันตั้งรัฐบาลก็ไม่มีปัญหา ใช่หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ถ้าพรรคอยู่ตรงข้ามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แล้วจะชูนโยบายปรองดองได้อย่างไร ดังนั้นเราจะเป็นคนกลาง เขาจะทะเลาะกัน อาตี๋คนนี้ จะเป็นคนกลางดูแลให้
เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับการจัดสูตรรัฐบาลของนายกฯ ที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย นายชุมพล กล่าวว่า ถ้าเป็นจริงอย่างนั้น ก็ให้เวลาเป็นเรื่องพิสูจน์ แต่ดูแล้วคงจะลำบาก เพราะรัฐธรรมนูญของไทยไม่เหมือนประเทศเยอรมัน และฝรั่งเศส ที่จะให้พรรคที่หนึ่ง หรือสอง มาตั้งรัฐบาลร่วมกัน ของไทยไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งแนวคิดของไทยมีแต่กฎหมาย ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ จับมือกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลได้ก็ดี บ้านเมืองจะได้เรียบร้อย เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของพรรคอยู่แล้ว บ้านเมืองจะได้เดินทางต่อไปได้ สังคมไม่แตกแยก อยากให้ลืมกันให้หมด แล้วไปตั้งต้นกันใหม่ ถ้าจะเอาความแค้นมาเป็นตัวตั้ง เมื่อถึงวันเลือกตั้งก็ไม่มีความสงบ บ้านเมืองก็เป็นผู้รับเคราะห์ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ปัญหาใหญ่มาจากนักการเมือง
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายออกมาพูดถึง อำนาจพิเศษ โดยเฉพาะ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา จะไม่ยอมให้มีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร นายชุมพล กล่าวว่า ขอยืนยันเรื่องนี้ไม่มีเด็ดขาด ที่พูดไปเป็นเรื่องของอารมณ์ค้างเก่าเท่านั้นเอง ตนเชื่อว่าไม่มีเด็ดขาด ขอให้สบายใจได้ อย่าพูดทำให้เกิดความเสียหาย หรือเลวร้ายขึ้นมาอีก อยากให้บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และปูทางไปสู่ความปรองดอง สังคมจะได้เลิกแตกแยก ถือข้างถือหางกัน ที่พูดขึ้นมาเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวตั้งในอนาคต ประชาชนยังเป็นใหญ่แน่ รับรองทุกคนหวังผลในการเลือกตั้งครั้งนี้
“เรื่องอำนาจพิเศษ เป็นเรื่องในอดีต อย่าไปโยงในอนาคต เรื่องของประชาธิปไตย จะมีอำนาจพิเศษได้อย่างไร ในเมื่อทุกคนเคารพแล้ว ผมยืนยันได้เลยว่าไม่มี แต่ครั้งที่แล้วเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า ดังนั้นขอให้เดินตามครรลองประชาธิปไตย เคารพเสียงประชาชน ใครได้มากอันดับ 1 ขอให้จัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะฉะนั้นเลิกเสียที เรื่องความหลัง อย่าจมอยู่ในอดีต เพราะไม่มีประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ" นายชุมพลกล่าว
เมื่อถามว่าหากมีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีก พรรคชาติไทยพัฒนา จะยอมรับหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า อย่าไปสมมติ ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไปมองอนาคตมากเกินไป อย่าเอาอนาคตมาผูกกับปัจจุบันและอดีต อย่าเอาประเด็นมาโยงกันไปหมด ไม่อย่างนั้นประชาชนจะสับสน ตนก็เสียที่เอาอดีตมาพูด แต่ก็ต้องถอนคำพูด
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ดูท่าทีไม่ค่อยสบายใจ ที่ฝ่ายการเมืองมองทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการ เลือกตั้ง นายชุมพล กล่าวว่า ทหารเข้ามาปราบปรามยาเสพติด อย่าไปตีขลุมว่า เป็นการเมืองทั้งระบบ เมื่อถามว่าจะเป็นเงื่อนทำให้เกิดการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ เพราะการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องที่ดำเนินการตามปกติ เป็นไปตามธรรมชาติ สิ่งที่กังวลเป็นเฉพาะบางเขตเท่านั้น ที่มีการแข่งขันกันสูง ก็อาจจะมีปัญหา บ้าง อย่าเหมาว่า 400 เขต จะมีปัญหากันหมด อยากให้การเลือกตั้งเดินหน้าไปสู่วันที่ 3 มิ.ย.
เมื่อถามว่า มาตรการชุดปราบปรามยาเสพติด 315 ควร จะยุติไปก่อนหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นข้ออ้างทางการเมือง นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ต้อง เมื่อเป็นระบบราชการก็ต้องทำไป แต่ถ้ามีพฤติกรรมไปกระทบกับการเลือกตั้ง ก็ว่าอีกประเด็นหนึ่ง อย่าไปถือเป็นประเด็นใหญ่ และทำให้ประชาชนตกใจ
** "ชุมพล"คึกเต้นแอโรบิกสวนลุมฯ
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ได้เข้าสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่หน้าสวนลุมพินี จากนั้นได้เดินหาเสียงแจกแผ่นพับกับประชาชนที่มาออกกำลังกายภายในสวนลุมพีนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายชุมพล เดินไปแจกแผ่นพับกับกลุ่มเสื้อแดงกว่า 10 คน ที่มาเต้นแอร์โรบิกด้านหน้าเวที ต่างก็ได้ชูเบอร์ 1 พร้อม กับเต้นแอโรบิกไปด้วย โดยไม่ได้แสดงอาการโห่ไล่ หรือไม่พอใจแต่อย่างใด ซึ่งนายชุมพล ก็ได้เข้าไปร่วมเต้นด้วย ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาหาเสียงเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถูกโห่ไล่ แสดงความไม่พอใจ จากนั้นนายชุมพล ได้เดินขึ้นเวทีเต้นแอร์โรบิก และนำแผ่นป้ายมาโชว์หาเสียงด้วย
** ช่วย"สดใส"หาเสียงที่รังสิต
ต่อมานายชุมพล และคณะได้เดินทางไปช่วย นายสดใส โรจนวิชัย ( สดใส รุ่งโพธิ์ทอง )ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 4 หาเสียงกับประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของในห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ทั้งนี้มีประชาชนเข้ามาพูดคุยกับนายชุมพลว่า เห็นด้วยกับนโยบายปรองดอง เพราะบ้านเมืองต้องการความสงบ โดยนายชุมพล กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งพรรคชาติไทยพัฒนา จะสร้างควาปรองดองให้ได้
เมื่อถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ระบุว่า หากพรรคการเมืองใดมีนโยบายตรงกัน ก็สามารถร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ นายชุมพล กล่าวว่า ตนขอพูดเรื่องที่เป็นปัจจุบัน การจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องอนาคต ต้องรอหลังวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า คนที่ชนะการเลือกตั้งอันดับหนึ่ง สอง และ สาม จะจับมือตั้งรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งหากตนพูดเรื่องนี้ก่อนล่วงหน้า จะเป็นการประมาท ดังนั้นขอให้รอหลังการเลือกตั้งค่อยมาคุยเรื่องนี้ดีกว่า
ด้านนายสดใส กล่าวว่า มั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้งอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้สมัครส่วนใหญ่ในเขตนี้เป็นคนพื้นที่อื่น ซึ่งแตกต่างจากตน ที่เป็นคนในพื้นที่อย่างยาวนาน เคยเป็น ส.ว.ปทุมธานี เมื่อปี 49 และจากการลงพื้นที่ ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชน แม้สองพรรคใหญ่จะกระแสแรง แต่ประชาชนส่วนมากหูตาสว่าง และตัดสินใจได้โดยดูจากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งการที่นายชุมพล ลงมาช่วยหาเสียงยิ่งทำให้เสียงตอบรับจากประชาชนดียิ่งขึ้น
เมื่อถามว่าได้เคลียร์ใจเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในการประชุมครม.หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่าไม่ต้องให้เกียรติตนขนาดนั้น ที่พูดไปในฐานะครูบาอาจารย์ ที่พูดไปตามความรู้สึกระหว่างนายกฯ กับตน หรือระหว่างพรรคไม่มีปัญหาอะไรกัน ที่พูดไปไม่ได้มีความสำคัญอะไร เป็นเพียงสื่อเสนอข่าวไม่ตรงกับความจริง ตนเป็นเพียงผู้รับข่าวสาร และที่ตนพูดไม่ได้เป็นการพูดด้วยความรู้สึกที่น้อยใจ เพราะการเมืองน้อยใจไม่ได้ และคำพูดของนายกฯ ก็คือว่าเป็นเรื่องปกติในช่วงหาเสียง
เมื่อถามว่า แสดงว่าถ้าจับมือกันตั้งรัฐบาลก็ไม่มีปัญหา ใช่หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ถ้าพรรคอยู่ตรงข้ามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แล้วจะชูนโยบายปรองดองได้อย่างไร ดังนั้นเราจะเป็นคนกลาง เขาจะทะเลาะกัน อาตี๋คนนี้ จะเป็นคนกลางดูแลให้
เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับการจัดสูตรรัฐบาลของนายกฯ ที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย นายชุมพล กล่าวว่า ถ้าเป็นจริงอย่างนั้น ก็ให้เวลาเป็นเรื่องพิสูจน์ แต่ดูแล้วคงจะลำบาก เพราะรัฐธรรมนูญของไทยไม่เหมือนประเทศเยอรมัน และฝรั่งเศส ที่จะให้พรรคที่หนึ่ง หรือสอง มาตั้งรัฐบาลร่วมกัน ของไทยไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งแนวคิดของไทยมีแต่กฎหมาย ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ จับมือกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลได้ก็ดี บ้านเมืองจะได้เรียบร้อย เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของพรรคอยู่แล้ว บ้านเมืองจะได้เดินทางต่อไปได้ สังคมไม่แตกแยก อยากให้ลืมกันให้หมด แล้วไปตั้งต้นกันใหม่ ถ้าจะเอาความแค้นมาเป็นตัวตั้ง เมื่อถึงวันเลือกตั้งก็ไม่มีความสงบ บ้านเมืองก็เป็นผู้รับเคราะห์ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ปัญหาใหญ่มาจากนักการเมือง
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายออกมาพูดถึง อำนาจพิเศษ โดยเฉพาะ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา จะไม่ยอมให้มีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร นายชุมพล กล่าวว่า ขอยืนยันเรื่องนี้ไม่มีเด็ดขาด ที่พูดไปเป็นเรื่องของอารมณ์ค้างเก่าเท่านั้นเอง ตนเชื่อว่าไม่มีเด็ดขาด ขอให้สบายใจได้ อย่าพูดทำให้เกิดความเสียหาย หรือเลวร้ายขึ้นมาอีก อยากให้บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และปูทางไปสู่ความปรองดอง สังคมจะได้เลิกแตกแยก ถือข้างถือหางกัน ที่พูดขึ้นมาเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวตั้งในอนาคต ประชาชนยังเป็นใหญ่แน่ รับรองทุกคนหวังผลในการเลือกตั้งครั้งนี้
“เรื่องอำนาจพิเศษ เป็นเรื่องในอดีต อย่าไปโยงในอนาคต เรื่องของประชาธิปไตย จะมีอำนาจพิเศษได้อย่างไร ในเมื่อทุกคนเคารพแล้ว ผมยืนยันได้เลยว่าไม่มี แต่ครั้งที่แล้วเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า ดังนั้นขอให้เดินตามครรลองประชาธิปไตย เคารพเสียงประชาชน ใครได้มากอันดับ 1 ขอให้จัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะฉะนั้นเลิกเสียที เรื่องความหลัง อย่าจมอยู่ในอดีต เพราะไม่มีประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ" นายชุมพลกล่าว
เมื่อถามว่าหากมีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีก พรรคชาติไทยพัฒนา จะยอมรับหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า อย่าไปสมมติ ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไปมองอนาคตมากเกินไป อย่าเอาอนาคตมาผูกกับปัจจุบันและอดีต อย่าเอาประเด็นมาโยงกันไปหมด ไม่อย่างนั้นประชาชนจะสับสน ตนก็เสียที่เอาอดีตมาพูด แต่ก็ต้องถอนคำพูด
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ดูท่าทีไม่ค่อยสบายใจ ที่ฝ่ายการเมืองมองทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการ เลือกตั้ง นายชุมพล กล่าวว่า ทหารเข้ามาปราบปรามยาเสพติด อย่าไปตีขลุมว่า เป็นการเมืองทั้งระบบ เมื่อถามว่าจะเป็นเงื่อนทำให้เกิดการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ เพราะการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องที่ดำเนินการตามปกติ เป็นไปตามธรรมชาติ สิ่งที่กังวลเป็นเฉพาะบางเขตเท่านั้น ที่มีการแข่งขันกันสูง ก็อาจจะมีปัญหา บ้าง อย่าเหมาว่า 400 เขต จะมีปัญหากันหมด อยากให้การเลือกตั้งเดินหน้าไปสู่วันที่ 3 มิ.ย.
เมื่อถามว่า มาตรการชุดปราบปรามยาเสพติด 315 ควร จะยุติไปก่อนหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นข้ออ้างทางการเมือง นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ต้อง เมื่อเป็นระบบราชการก็ต้องทำไป แต่ถ้ามีพฤติกรรมไปกระทบกับการเลือกตั้ง ก็ว่าอีกประเด็นหนึ่ง อย่าไปถือเป็นประเด็นใหญ่ และทำให้ประชาชนตกใจ
** "ชุมพล"คึกเต้นแอโรบิกสวนลุมฯ
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ได้เข้าสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่หน้าสวนลุมพินี จากนั้นได้เดินหาเสียงแจกแผ่นพับกับประชาชนที่มาออกกำลังกายภายในสวนลุมพีนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายชุมพล เดินไปแจกแผ่นพับกับกลุ่มเสื้อแดงกว่า 10 คน ที่มาเต้นแอร์โรบิกด้านหน้าเวที ต่างก็ได้ชูเบอร์ 1 พร้อม กับเต้นแอโรบิกไปด้วย โดยไม่ได้แสดงอาการโห่ไล่ หรือไม่พอใจแต่อย่างใด ซึ่งนายชุมพล ก็ได้เข้าไปร่วมเต้นด้วย ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาหาเสียงเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถูกโห่ไล่ แสดงความไม่พอใจ จากนั้นนายชุมพล ได้เดินขึ้นเวทีเต้นแอร์โรบิก และนำแผ่นป้ายมาโชว์หาเสียงด้วย
** ช่วย"สดใส"หาเสียงที่รังสิต
ต่อมานายชุมพล และคณะได้เดินทางไปช่วย นายสดใส โรจนวิชัย ( สดใส รุ่งโพธิ์ทอง )ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 4 หาเสียงกับประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของในห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ทั้งนี้มีประชาชนเข้ามาพูดคุยกับนายชุมพลว่า เห็นด้วยกับนโยบายปรองดอง เพราะบ้านเมืองต้องการความสงบ โดยนายชุมพล กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งพรรคชาติไทยพัฒนา จะสร้างควาปรองดองให้ได้
เมื่อถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ระบุว่า หากพรรคการเมืองใดมีนโยบายตรงกัน ก็สามารถร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ นายชุมพล กล่าวว่า ตนขอพูดเรื่องที่เป็นปัจจุบัน การจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องอนาคต ต้องรอหลังวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า คนที่ชนะการเลือกตั้งอันดับหนึ่ง สอง และ สาม จะจับมือตั้งรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งหากตนพูดเรื่องนี้ก่อนล่วงหน้า จะเป็นการประมาท ดังนั้นขอให้รอหลังการเลือกตั้งค่อยมาคุยเรื่องนี้ดีกว่า
ด้านนายสดใส กล่าวว่า มั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้งอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้สมัครส่วนใหญ่ในเขตนี้เป็นคนพื้นที่อื่น ซึ่งแตกต่างจากตน ที่เป็นคนในพื้นที่อย่างยาวนาน เคยเป็น ส.ว.ปทุมธานี เมื่อปี 49 และจากการลงพื้นที่ ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชน แม้สองพรรคใหญ่จะกระแสแรง แต่ประชาชนส่วนมากหูตาสว่าง และตัดสินใจได้โดยดูจากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งการที่นายชุมพล ลงมาช่วยหาเสียงยิ่งทำให้เสียงตอบรับจากประชาชนดียิ่งขึ้น