“เทพเทือก” ยันไม่มีพลังพิเศษช่วย ปชป.ตั้งรัฐบาล แค่คู่แข่งพูดให้ประชาชนสับสนช่วงเลือกตั้ง ขณะเดียวกันเชื่อจะไม่มีขั้วที่ 3 แต่เป็นการต่อสู้กันระหว่าง ปชป.กับ พท. ที่ร่วมงานกันไม่ได้เพราะอุดมการณ์ต่างกันคนละขั้ว ยัน ปชป.ไม่มีงูเห่าภายในพรรค
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุเรื่องพลังที่ไม่อาจเลี่ยง หรือมือพิเศษในการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้งว่า อยากจะเรียนทำความเข้าใจกัประชาชนว่า เรื่องนี้ต้องตั้งหลักให้ดี เพราะในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งจะมีความพยายามพูดจาสื่อสารที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดสับสนได้ แท้ที่จริงแล้วระบอบประชาธิปไตยมีขั้นตอนหลักการและวิธีการที่เรียกง่ายๆ ว่ามีวัฒนธรรมของระบอบประชาธิปไตยที่เขาใช้กันทั่วโลก
“ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนทั้งประเทศ ถ้าพี่น้องของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศตัดสินใจอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น เช่น ถ้าประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าพรรคอื่น ประชาธิปัตย์ก็จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และก็จะชวนพรรคอื่นมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้นใครจะพูดอย่างไรให้เข้าใจไขว้เข้ว สับสนก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เรารับฟังไว้ แต่ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอผลของการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.นี้”
ส่วนที่มีการสร้างกระแสโยงว่าพรรคเพื่อไทยจะตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่นไม่ได้ มีพลังพิเศษให้ตั้งกับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ปล่อยให้แต่ละฝ่ายพูดไปตนไม่ขอวิจารณ์ โต้แย้ง แต่ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ตรงไปตรงมา และขอเรียนกับประชาชนว่า ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เราเลือกกันในสภาฯ โดยประธานสภาฯ ต้องเรียกประชุม ส.ส.ทุกพรรคที่ได้รับเลือกตั้ง พร้อมเปิดโอกาสให้ ส.ส.เสนอชื่อคนที่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อมีคนเสนอชื่อและรับรองประธานจะขานชื่อ ส.ส.แต่ละคนเพื่อให้ ส.ส.ยืนยัน ว่าจะเลือกใครเป็นนายกฯ เราดำเนินการโดยเปิดเผย แต่บางครั้งคนแพ้ไม่ยอมรับก็ทำให้กลายเป็นปัญหา เพราะเขาไม่ยอมรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าไม่มีสูตรพิเศษที่ว่าจะต้องเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ไม่ต้องมีพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องที่เขาใช้อ้างกัน แต่ยืนยันว่าเมื่อร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไม่มีพรรคเพื่อไทยร่วมเป็นรัฐบาลอยู่แล้วแน่นอน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์ต่างกันชัดเจนอย่างฟ้ากับดิน พรรคประชาธิปัตย์ มีอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อชาติเพื่อบ้านเมือง รักษาชาติ รักษาเมือง รักษาแผ่นดิน พรรคเพื่อไทย คิดจะเปลี่ยนระบบนั้นระบบนี้มันก็ต่างกัน วิธีการอุดมการณ์ต่างกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีกระแสจากพรรคการเมืองบางพรรคชูกระแสนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคขั้วที่ 3 นายสุเทพกล่าวว่า ตนกล่าวไปตามข้อเท็จจริงก็จะมีคนโกรธอีก จึงขอเรียนสั้นๆ ว่า ใครจะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น ตราบใดที่ผลการเลือกตั้งยังไม่ออกมา ถ้าตนกล่าวว่าที่เขาพูดมาเป็นไปไม่ได้ เขาก็จะโกรธตนอีก ถ้าบอกว่าเป็นไปได้ คนในสังคมก็จะยิ่งสับสนกันไปใหญ่ แต่ข้อเท็จจริงเลือกตั้งครั้งนี้พรรคใหญ่ 2 พรรคแข่งกันคือ พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ถ้าประชาชนทั้งประเทศชอบพรรคเพื่อไทยอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นก็เลือกพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าประชาชนทั้งประเทศชอบพรรคประชาธิปัตย์ อยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯต่อไป เพราะเห็นว่าเป็นคนดีมีความตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ก็เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 10
“วันนี้มีคนแต่งตัวส่องกระจกทุกวัน พลิกซ้ายพลิกขวา แล้วถามภรรยาตัวเองว่าหน้าตาอย่างนี้เป็นนายกฯ ได้ไหม ถ้าผมไปพูดว่าเขาเป็นไม่ได้ เขาก็โกรธน่ะสิ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า 2-3 วันที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยออกมาพูดว่าในพรรคเขามีงูเห่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ มีงูเห่าแบบนั้นบ้างหรือไม่ ในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กลัวว่าจะมีแบบนั้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนเป็นคน ไม่มีงู ยืนยันพรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณณ์มารวมตัวเป็นพรรคการเมือง ไม่มีใครบีบบังคับหรือจ้างวาน ไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือเลขาธิการพรรค
