หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนานำทีมหาเสียงสวนลุมพินี เต้นแอโรบิกร่วมแดง ใจชื้นมีชื่อพรรคติดหน้าสื่อแล้ว ขอแค่ 35 ที่นั่งพอ บอก “มาร์ค” ไม่ต้องให้เกียรตินัดเคลียร์ใจเวที ครม. ยันไม่ได้น้อยใจแต่พูดตามความรู้สึก ย้ำขอแทรกกลางปรองดอง หนุน ปชป.จับมือ พท.ตั้งรัฐ เชื่อไม่มีจับขั้วในค่ายทหาร ชี้ “เสธ.หนั่น” พูดแค่อารมณ์ค้าง แนะอย่าพูดให้เสียหาย ระบุจมอยู่กับอดีตชาติไม่ได้อะไร
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่สวนลุมพินี นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ได้เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จากนั้นได้เดินหาเสียงแจกแผ่นพับกับประชาชนที่มาออกกำลังกายภายในสวนลุมพีนี ทั้งนี้เมื่อนายชุมพลเดินไปแจกแผ่นพับกับกลุ่มเสื้อแดงกว่า 10 คน ที่มาเต้นแอโรบิกด้านหน้าเวที ต่างก็ได้ชูเบอร์ 1 พร้อมกับเต้นแอโรบิกไปด้วยโดยไม่ได้แสดงอาการโห่ไล่หรือไม่พอใจแต่อย่างใด ซึ่งนายชุมพลก็ได้เข้าไปร่วมเต้นด้วย ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่มาหาเสียงเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมาถูกโห่ไล่แสดงความไม่พอใจ จากนั้นนายชุมพลได้เดินขึ้นเวทีเต้นแอร์โรบิกและนำแผ่นป้ายมาโชว์หาเสียงด้วย
นายชุมพลให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการลงพื้นที่หาเสียงว่า ช่วงแรกชื่อพรรคไม่ค่อยปรากฏเท่าไหร่จากสื่อ และการสำรวจประชานิยม แต่ในข่วง 2-3 วัน ก็ทำให้ใจชื้นมานิดหนึ่งมีชื่อพรรคชาติไทยพัฒนาปรากฏอยู่บ้างก็ยังดี ไม่อย่างนั้นก็มีแค่ชื่อพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ การตอบรับช่วงหลังกระเตื้องขึ้น แต่ไม่มากเท่าที่ควร ถ้าเทียบกับพรรคใหญ่สองพรรคก็คงได้ไม่มากนัก เมื่อถามว่าจะได้ตามเป้าที่วางไว้หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า พยายามเต็มที่อย่างน้อยขอพรรคชาติไทยคืน 24 ที่นั่ง และบวกอีก 10 ที่ถูกยึดไป ขอกลับคืนมา 35 ที่นั่ง แต่ไม่ทราบว่าจะได้หรือไม่
เมื่อถามว่า ได้เคลียร์ใจเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯในการประชุม ครม.หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ต้องให้เกียรติตนขนาดนั้น ที่พูดไปในฐานะครูบาอาจารย์ที่พูดไปตามความรู้สึก ระหว่างนายกฯ กับตน หรือระหว่างพรรคไม่มีปัญหาอะไรกัน ที่พูดไปไม่ได้มีความสำคัญอะไร เป็นเพียงสื่อเสนอข่าวไม่ตรงกับความจริง ตนเป็นเพียงผู้รับข่าวสาร และที่ตนพูดไม่ได้เป็นการพูดด้วยความรู้สึกที่น้อยใจ เพราะการเมืองน้อยใจไม่ได้ และคำพูดของนายกฯก็คือว่าเป็นเรื่องปกติในช่วงหาเสียง
เมื่อถามว่าแสดงว่าถ้าจับมือกันตั้งรัฐบาลก็ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ถ้าพรรคอยู่ตรงข้ามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วจะชูนโยบายปรองดองได้อย่างไร ดังนั้นเราจะเป็นคนกลาง เขาจะทะเลาะกันอาตี๋คนนี้จะเป็นคนกลางดูแลให้ เมื่อถามว่า มองอย่างไรการจัดสูตรรัฐบาลของนายกฯที่จะจับมือกับพรรคภูมิใจไทย นายชุมพลกล่าวว่า ถ้าเป็นจริงอย่างนั้นก็ให้เวลาเป็นเรื่องพิสูจน์ แต่ดูแล้วคงจะลำบาก เพราะรัฐธรรมนูญของไทยไม่เหมือนประเทศเยอรมันและฝรั่งเศสที่จะให้พรรคที่หนึ่ง หรือสองมาตั้งรัฐบาลร่วมกัน ของไทยไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งแนวคิดของไทยมี แต่กฎหมายไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จับมือกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้ก็ดีบ้านเมืองจะได้เรียบร้อย เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของพรรคอยู่แล้วบ้านเมืองจะได้เดินทางต่อไปได้ สังคมไม่แตกแยก อยากให้ลืมกันให้หมดแล้วไปตั้งต้นกันใหม่ ถ้าจะเอาความแค้นมาเป็นตัวตั้งเมื่อถึงวันเลือกตั้งก็ไม่มีความสงบ บ้านเมืองก็เป็นผู้รับเคราะห์ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ปัญหาใหญ่มาจากนักการเมือง
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายออกมาพูดถึงอำนาจพิเศษ โดยเฉพาะ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่ยอมให้มีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร นายชุมพลกล่าวว่า ขอยืนยันเรื่องนี้ไม่มีเด็ดขาด ที่พูดไปเป็นเรื่องของอารมณ์ค้างเก่าเท่านั้นเอง ตนเชื่อว่าไม่มีเด็ดขาด ขอให้สบายใจได้ อย่าพูดทำให้เกิดความเสียหายหรือเลวร้ายขึ้นมาอีก อยากให้บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และปูทางไปสู่ความปรองดอง สังคมจะได้เลิกแตกแยก ถือข้างถือหางกัน ที่พูดขึ้นมาเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวตั้งในอนาคต ประชาชนยังเป็นใหญ่แน่รับรองทุกคนหวังผลในการเลือกตั้งครั้งนี้
“เรื่องอำนาจพิเศษเป็นเรื่องในอดีตอย่าไปโยงในอนาคต เรื่องของประชาธิปไตยจะมีอำนาจพิเศษได้อย่างไร ในเมื่อทุกคนเคารพแล้ว ผมยืนยันได้เลยว่าไม่มี แต่ครั้งที่แล้วเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า ดังนั้นขอให้เดินตามครรลองประชาธิปไตย เคารพเสียงประชาชน ใครได้มากอันดับขอให้จัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะฉะนั้นเลิกเสียทีเรื่องความหลัง อย่าจมอยู่ในอดีต เพราะไม่มีประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ” นายชุมพลกล่าว
เมื่อถามว่า หากมีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีกพรรคชาติไทยพัฒนาจะยอมรับหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า อย่าไปสมมติฐานปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไปมองอนาคตมากเกินไป อย่าเอาอนาคตมาผูกกับปัจจุบันและอดีต อย่าเอาประเด็นมาโยงกันไปหมด ไม่อย่างนั้นประชาชนจะสับสน ตนก็เสียที่เอาอดีตมาพูดแต่ก็ต้องถอนคำพูด
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ดูท่าทีไม่ค่อยสบายใจที่ฝ่ายการเมืองมองทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง นายชุมพลกล่าวว่า ทหารเข้ามาปราบปรามยาเสพติด อย่าไปตีขลุมว่าเป็นการเมืองทั้งระบบ เมื่อถามว่าจะเป็นเงื่อนทำให้เกิดการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ เพราะการเลือกตั้งถือเป็นเรื่องที่ดำเนินการตามปกติเป็นไปตามธรรมชาติ สิ่งที่กังวลเป็นเฉพาะบางเขตเท่านั้นที่มีการแข่งขันกันสูงก็อาจจะมีปัญหา บ้าง อย่าเหมาว่า 400 เขตจะมีปัญหากันหมด อยากให้การเลือกตั้งเดินหน้าไปสู่วันที่ 3 มิ.ย.
เมื่อถามว่า มาตรการชุดปราบปรามยาเสพติด 315 ควร จะยุติไปก่อนหรือไม่เพื่อไม่ให้เป็นข้ออ้างทางการเมือง นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ต้องเมื่อเป็นระบบราชการก็ต้องทำไป แต่ถ้ามีพฤติกรรมไปกระทบกับการเลือกตั้งก็ว่าอีกประเด็นหนึ่ง อย่าไปถือเป็นประเด็นใหญ่ และทำให้ประชาชนตกใจ