วานนี้(8มิ.ย)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะขอเข้าพบว่า ต้องขอขอบคุณที่ท่านให้เกียรติกองทัพ ซึ่งไม่ได้ให้เกียรติตน ตนถือว่าท่านให้เกียรติกองทัพ ทุกคน ทุกพรรคการเมือง เขาก็ให้เกียรติกองทัพมาโดยตลอด แต่ตนคิดว่าช่วงเวลาต่างๆ น่าจะดูความเหมาะสม เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งคิดว่าท่านก็เข้าใจ แต่ตนก็ขอขอบคุณที่ให้เกียรติ แต่เวลาเช่นนี้ขอให้ผ่านไปก่อน คือให้ผ่านช่วงเวลาที่สำคัญ
“ ผมคุยได้ทุกคน แต่อย่าเอาเวลาไปคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ เราต้องปฎิบัติตามกฎหมายรวมทั้งรักษาระบอบประชาธิปไตยที่เรามีอยู่ ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงยิ่งกว่าการเลือกตั้งหรืออะไรทั้งหมด คือความขัดแย้งที่มีมากขึ้นทุกวัน แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร เลือกตั้งมาแล้วจะอยู่กันได้หรือไม่ ตนอยากขอร้องว่าให้ประเทศชาติมาก่อน จะทำอะไรกันก็ตามก็ขอให้ประเทศชาติมาก่อน วันนี้ไปพูดในเรื่องที่ไม่จำเป็น โดยไม่ดูว่าประเทศชาติจะแข็งแรงได้อย่างไร บางอย่างตนก็ไม่อยากจะพูดเพราะเป็น ทหารและเป็น ผบ.ทบ. แต่ต้องขออนุญาตเอ่ยนาม นางผาสุก พงศ์ไพจิตร อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะท่านพาดพิงทหารว่าทำไมทหารถึงมีอำนาจมาก ทำไม ผบ.ทบ.ถึงมาชี้แจง มาแถลงเรื่องโน้น เรื่องนี้ เรื่องการเมือง เรื่องนโยบาย ซึ่งตนก็ตอบตามที่สื่อถาม และ ตอบในฐานะที่ตนเป็นผู้ปฏิบัติ ไม่ได้ตอบในส่วนนโยบาย ไม่ได้บอกให้กระทรวงการต่างประเทศ หรือรัฐบาล ไปทำโน่น ทำนี่
ตนพูดในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง และเป็นผู้ที่รับผิดชอบในแง่กำลังทหาร ซึ่งเขาฟังอยู่ว่ากองทัพบกจะไปในทางไหน เขาก็ต้องฟังผู้นำของเขา ตนเป็นถึงผู้บัญชาการทหารบก ก็ต้องตอบคำถามได้บ้าง แต่ตนไม่ได้เอาคำตอบของตนไปล็อคใครว่าต้องปฏิบัติอย่างนั้น อย่างนี้คงไม่ใช่ เมื่อสื่อถามก็ต้องตอบ ตนเคยบอกว่ากองทัพบกต้องมีคำตอบให้ท่าน ปัญหาทุกปัญหาต้องมีทางออก คำถามทุกคำถามต้องมีคำตอบ เพียงแต่ต้องไปชี้แจงว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ไม่มีคำแก้ตัว ทหารถูกสอนมาให้มีความรับผิดชอบ นึกถึงคนอื่นก่อนนึกถึงตัวเอง ตนก็พยายามถ่ายทอดให้กำลังพล คิดอย่างที่ตนคิด ทำอย่างที่ตนทำ คือคิดถึงประเทศชาติไว้ก่อน
**“เสธ.ไก่อู”สวนไอ้เต้นแค่“น้ำล้างเท้า”
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก กองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ออกมาระบุไม่ให้พ.อ.สรรเสริญออกมาตัดสินใจแทน ผบ.ทบ.ในการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าพบ ว่า ไม่ใช่การตัดสินใจของโฆษก ทบ. แทน ผบ.ทบ.แต่เป็นหลักการที่ทุกคน หรือโฆษก คนอื่นๆก็ตามเขาก็ต้องว่ากันตามหลักการ เพราะทุกคน ทุกพรรคการเมืองเฝ้าสังเกตการณ์ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ราชการ ซึ่งวันหนึ่งกำลังจะเลือกตั้งและผู้สมัครคนหนึ่งเป็นหัวหน้าพรรคจะเข้ามา หารือ เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่และพรรคการเมืองอื่นๆเขาสงสัยว่าหารือเรื่อง อะไร การวางตัวของหัวหน้าส่วนราชการเหมาะสมหรือไม่ ผบ.ทบ.ก็ จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ตนตอบไปตามหลักการไม่ใช่ตัดสินใจแทน ผบ.ทบ. และถ้าหากถามว่าหลังจากมีการเลือกตั้งไปแล้ว และยังไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลมาหารือได้หรือไม่ก็ต้องย้อมถามกลับไปท่านเคย วิพากษ์วิจารณ์ในสมัยของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผบ.ทบ.ว่าพอจะจัดตั้งรัฐบาลก็มาปรึกษาทหาร ก็กลายเป็นว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และวันนี้สิ่งที่ท่านเคยพูดเราก็ปฏิบัติตตามแนะนำของท่าน และจะมาว่าอะไรอีก
เมื่อ ถามว่านายณัฐวุฒิ อยากให้ผบ.ทบ.กับน.ส.ยิ่งลักษณ์พูดคุยกันเองมากกว่า พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า นายณัฐวุฒิ เป็นทหารหรือ ตนเป็นทหาร เป็นโฆษก ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ทบ.ให้ชี้แจงเรื่องระเบียบ หลักเกณฑ์ความเหมาะสมต่างๆให้สังคมได้รับทราบ เอาไว้เกิดชาติ นายณัฐวุฒิเกิดเป็นทหารค่อยมาใหม่ ส่วนที่นายณัฐวุฒิ เปรียบเทียบว่า พ.อ.สรรเสริญ เป็นน้ำล้างชามอย่าเพิ่งขยับ เมื่อน้ำแกงยังไม่เคลื่อนไหว พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร
“ถ้า พี่เป็นน้ำล้างชาม ณัฐวุฒิ ก็เคยน้ำล้างเท้า คนเป็นทหารจะต้องกลัวอะไร ถ้าเราปฏิบัติตามกฎหมายถูกต้องตามระเบียบ พี่ไม่ใช่จิ้งจกเปลี่ยนสี ทุกพรรคการเมืองเขาก็เห็นด้วยว่าเราควรอยู่ในส่วนของเรา และวางตัวให้ดีที่สุดในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ก็มีความพยายามจะดึงกองทัพไปยุ่งการเมือง พรรคการเมือง และการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามว่าถ้าเลือกตั้งเสร็จแล้วจะหารือได้อีกหรือไม่ ซึ่งคิดว่าไม่ใช่การหารือแล้วแต่เป็นการหาเรื่อง”พ.อ.สรรเสริญกล่าว และว่า รู้สึก เฉยๆเพราะตนเป็นข้าราชการจะไม่ไปกังวลอะไรกับคำพูดของนักการเมือง ถ้าไปวิตกกับคำพูดพวกนี้ก็ทำงานกันไม่ได้ เรามีหน้าที่ทำงานของเราก็ทำไป ประชาชนก็พิจารณาเอาจากสิ่งต่างๆที่นักการเมืองพูด กับสิ่งที่ตนได้ชี้แจงไป สำหรับเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลางของข้าราชการ ผบ.ทบ.ได้ระบุว่าการกล่าวคำพูดลอยๆใครก็กล่าวได้ ซึ่งต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนไปกล่าวหาเขา แล้ววันหนึ่งเขารู้สึกเสียหายและฟ้องร้องขึ้นมาก็ลำบาก.
“ ผมคุยได้ทุกคน แต่อย่าเอาเวลาไปคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ เราต้องปฎิบัติตามกฎหมายรวมทั้งรักษาระบอบประชาธิปไตยที่เรามีอยู่ ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงยิ่งกว่าการเลือกตั้งหรืออะไรทั้งหมด คือความขัดแย้งที่มีมากขึ้นทุกวัน แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร เลือกตั้งมาแล้วจะอยู่กันได้หรือไม่ ตนอยากขอร้องว่าให้ประเทศชาติมาก่อน จะทำอะไรกันก็ตามก็ขอให้ประเทศชาติมาก่อน วันนี้ไปพูดในเรื่องที่ไม่จำเป็น โดยไม่ดูว่าประเทศชาติจะแข็งแรงได้อย่างไร บางอย่างตนก็ไม่อยากจะพูดเพราะเป็น ทหารและเป็น ผบ.ทบ. แต่ต้องขออนุญาตเอ่ยนาม นางผาสุก พงศ์ไพจิตร อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะท่านพาดพิงทหารว่าทำไมทหารถึงมีอำนาจมาก ทำไม ผบ.ทบ.ถึงมาชี้แจง มาแถลงเรื่องโน้น เรื่องนี้ เรื่องการเมือง เรื่องนโยบาย ซึ่งตนก็ตอบตามที่สื่อถาม และ ตอบในฐานะที่ตนเป็นผู้ปฏิบัติ ไม่ได้ตอบในส่วนนโยบาย ไม่ได้บอกให้กระทรวงการต่างประเทศ หรือรัฐบาล ไปทำโน่น ทำนี่
ตนพูดในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง และเป็นผู้ที่รับผิดชอบในแง่กำลังทหาร ซึ่งเขาฟังอยู่ว่ากองทัพบกจะไปในทางไหน เขาก็ต้องฟังผู้นำของเขา ตนเป็นถึงผู้บัญชาการทหารบก ก็ต้องตอบคำถามได้บ้าง แต่ตนไม่ได้เอาคำตอบของตนไปล็อคใครว่าต้องปฏิบัติอย่างนั้น อย่างนี้คงไม่ใช่ เมื่อสื่อถามก็ต้องตอบ ตนเคยบอกว่ากองทัพบกต้องมีคำตอบให้ท่าน ปัญหาทุกปัญหาต้องมีทางออก คำถามทุกคำถามต้องมีคำตอบ เพียงแต่ต้องไปชี้แจงว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ไม่มีคำแก้ตัว ทหารถูกสอนมาให้มีความรับผิดชอบ นึกถึงคนอื่นก่อนนึกถึงตัวเอง ตนก็พยายามถ่ายทอดให้กำลังพล คิดอย่างที่ตนคิด ทำอย่างที่ตนทำ คือคิดถึงประเทศชาติไว้ก่อน
**“เสธ.ไก่อู”สวนไอ้เต้นแค่“น้ำล้างเท้า”
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก กองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ออกมาระบุไม่ให้พ.อ.สรรเสริญออกมาตัดสินใจแทน ผบ.ทบ.ในการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าพบ ว่า ไม่ใช่การตัดสินใจของโฆษก ทบ. แทน ผบ.ทบ.แต่เป็นหลักการที่ทุกคน หรือโฆษก คนอื่นๆก็ตามเขาก็ต้องว่ากันตามหลักการ เพราะทุกคน ทุกพรรคการเมืองเฝ้าสังเกตการณ์ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ราชการ ซึ่งวันหนึ่งกำลังจะเลือกตั้งและผู้สมัครคนหนึ่งเป็นหัวหน้าพรรคจะเข้ามา หารือ เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่และพรรคการเมืองอื่นๆเขาสงสัยว่าหารือเรื่อง อะไร การวางตัวของหัวหน้าส่วนราชการเหมาะสมหรือไม่ ผบ.ทบ.ก็ จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ตนตอบไปตามหลักการไม่ใช่ตัดสินใจแทน ผบ.ทบ. และถ้าหากถามว่าหลังจากมีการเลือกตั้งไปแล้ว และยังไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลมาหารือได้หรือไม่ก็ต้องย้อมถามกลับไปท่านเคย วิพากษ์วิจารณ์ในสมัยของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผบ.ทบ.ว่าพอจะจัดตั้งรัฐบาลก็มาปรึกษาทหาร ก็กลายเป็นว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และวันนี้สิ่งที่ท่านเคยพูดเราก็ปฏิบัติตตามแนะนำของท่าน และจะมาว่าอะไรอีก
เมื่อ ถามว่านายณัฐวุฒิ อยากให้ผบ.ทบ.กับน.ส.ยิ่งลักษณ์พูดคุยกันเองมากกว่า พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า นายณัฐวุฒิ เป็นทหารหรือ ตนเป็นทหาร เป็นโฆษก ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ทบ.ให้ชี้แจงเรื่องระเบียบ หลักเกณฑ์ความเหมาะสมต่างๆให้สังคมได้รับทราบ เอาไว้เกิดชาติ นายณัฐวุฒิเกิดเป็นทหารค่อยมาใหม่ ส่วนที่นายณัฐวุฒิ เปรียบเทียบว่า พ.อ.สรรเสริญ เป็นน้ำล้างชามอย่าเพิ่งขยับ เมื่อน้ำแกงยังไม่เคลื่อนไหว พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร
“ถ้า พี่เป็นน้ำล้างชาม ณัฐวุฒิ ก็เคยน้ำล้างเท้า คนเป็นทหารจะต้องกลัวอะไร ถ้าเราปฏิบัติตามกฎหมายถูกต้องตามระเบียบ พี่ไม่ใช่จิ้งจกเปลี่ยนสี ทุกพรรคการเมืองเขาก็เห็นด้วยว่าเราควรอยู่ในส่วนของเรา และวางตัวให้ดีที่สุดในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ก็มีความพยายามจะดึงกองทัพไปยุ่งการเมือง พรรคการเมือง และการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามว่าถ้าเลือกตั้งเสร็จแล้วจะหารือได้อีกหรือไม่ ซึ่งคิดว่าไม่ใช่การหารือแล้วแต่เป็นการหาเรื่อง”พ.อ.สรรเสริญกล่าว และว่า รู้สึก เฉยๆเพราะตนเป็นข้าราชการจะไม่ไปกังวลอะไรกับคำพูดของนักการเมือง ถ้าไปวิตกกับคำพูดพวกนี้ก็ทำงานกันไม่ได้ เรามีหน้าที่ทำงานของเราก็ทำไป ประชาชนก็พิจารณาเอาจากสิ่งต่างๆที่นักการเมืองพูด กับสิ่งที่ตนได้ชี้แจงไป สำหรับเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลางของข้าราชการ ผบ.ทบ.ได้ระบุว่าการกล่าวคำพูดลอยๆใครก็กล่าวได้ ซึ่งต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนไปกล่าวหาเขา แล้ววันหนึ่งเขารู้สึกเสียหายและฟ้องร้องขึ้นมาก็ลำบาก.